สหรัฐดับแล้ว 65 รายทั่วประเทศ! เซ่นพายุหิมะมรณะ นิวยอร์กอ่วมสุด

สหรัฐดับแล้ว 65 รายทั่วประเทศ! เซ่นพายุหิมะมรณะ นิวยอร์กอ่วมสุด

สหรัฐดับแล้ว 65 รายทั่วประเทศ! เซ่นพายุหิมะมรณะ นิวยอร์กอ่วมสุด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี จากสหรัฐ รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่รัฐหลายรายว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากพายุหิมะที่ถล่มสหรัฐครั้งประวัติศศาสตร์ เพิ่มมาอยู่ที่ 65 คน 

พายุหิมะครั้งประวัติศาสตร์นี้ กินพื้นที่ตั้งแต่ริมกลุ่มทะเลสาบเกรตเลก ใกล้ชายแดนแคนาดาทางเหนือ ไปจนถึงพื้นที่ริมแม่น้ำริโอแกรนด์ ใกล้ชายแดนเม็กซิโกทางใต้

พื้นที่ดังกล่าวต้องเผชิญอุณหภูมิที่ลดต่ำลงและหิมะตกหนัก หลายเมืองขาดแคลนไฟฟ้าใช้ ขณะเดียวกันหลายสายการบินต้องยกเลิกเที่ยวบิน ไม่ใช่แค่นั้น ประชาชนจำนวนไม่น้อยก็ติดอยู่ในบ้านโดยไม่มีอาหารประทังชีวิต

ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 65 คน เป็นคนจากรัฐต่อไปนี้

  • เคนทักกี
  • แคนซัส
  • โคโลราโด
  • เทนเนสซี
  • นิวยอร์ก
  • เนแบรสกา
  • มิชิแกน
  • มิสซูรี
  • วิสคอนซิน
  • อิลลินอย
  • โอคลาโฮมา
  • โอไฮโอ

เฉพาะรัฐนิวยอร์กแห่งเดียวมีผู้เสียชีวิตแล้ว 34 ราย โดยเฉพาะที่เมืองบัฟฟาโล ในเขตอีรี ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบอีรี หนึ่งในทะเลสาบในกลุ่มทะเลสาบเกรตเลก

นายไบรอน บราวน์ นายกเทศมนตรีเมืองบัฟฟาโล เผยเมื่อเช้าวันอังคาร (27 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นว่า พายุหิมะครั้งรุนแรงกว่าทุกครั้งที่เมืองเคยเผชิญมาในช่วงกว่า 50 ปี

นายไบรอนเผยในช่วงต่อมาของวันเดียวกันว่า มีอีกศพหนึ่งถูกกู้ขึ้นมาจากกองหิมะ ส่วนบ่ายวันนั้น เจ้าหน้าที่การแพทย์เขตอีรี ก็ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 3 ราย

พายุหิมะครั้งรุนแรงครั้งนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ริมกลุ่มทะเลสาบเกรตเลก ทางตะวันออกเฉียงเหนืองของสหรัฐ เกิดจากการที่มวลอากาศเย็นเคลื่อนผ่านเหนือทะเลสาบที่อุ่นกว่าและน้ำยังไม่จับตัวเป็นน้ำแข็ง ส่งผลให้ความความชื้นและความอบอุ่นลอยขึ้นสู่บรรยากาศชั้นต่ำกว่า จนเกิดรวมตัวเป็นก้อนเมฆและตกลงมาเป็นหิมะ

สำนักสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐเตือนว่าความหนาวเย็นที่รุนแรงนี้ก็อาจส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวเจอกับอากาศอบอุ่นผิดปกติตามมาหลังจากนี้ด้วย โดยอุณหภูมิอาจเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 10-15 องศาเซลเซียส หรือสูงกว่าค่าปกติถึง 10 องศาเซลเซียส

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันจันทร์ (26 ธ.ค.) นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ อนุมัติคำร้องขอประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วรัฐนิวยอร์กแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook