ลอบเผา "เจ้าพ่อคำแดง" เจ้าแห่งพญานาคลุ่มน้ำโขง ตัวไหม้ หน้าดำ เชื่อฝีมือพวกลองวิชา

ลอบเผา "เจ้าพ่อคำแดง" เจ้าแห่งพญานาคลุ่มน้ำโขง ตัวไหม้ หน้าดำ เชื่อฝีมือพวกลองวิชา

ลอบเผา "เจ้าพ่อคำแดง" เจ้าแห่งพญานาคลุ่มน้ำโขง ตัวไหม้ หน้าดำ เชื่อฝีมือพวกลองวิชา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลอบเผา "เจ้าพ่อคำแดง" พญานาคแห่งลุ่มน้ำโขง จนเครื่องทรงไหม้ หน้าดำ เชื่อฝีมือพวกเล่นคุณไสยลองวิชา

(29 ธ.ค.65)  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้ากรณี มีชาวบ้านในเขตพื้นที่ชุมชนเทศบาลเมืองนครพนม ออกมาโพสต์เฟสบุ๊ค และแห่สาปแช่งคนใจบาป หลังมีการลอบเข้าไปก่อเหตุ จุดไฟเผารูปปั้นเจ้าพ่อคำแดง ภายในศาลเจ้าพ่อคำแดง ตั้งอยู่ในชุมชนหนองบึกท่า บริเวณริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม ใกล้สามแยกถนนสมุทรบรรหาร ถือเป็นมเหศักดิ์หลักเมือง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญที่ชาว จ.นครพนม เคารพศรัทธา แห่กราบไหว้ขอพร มาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

จนกระทั่งเมื่อวานที่ผ่านมา ถูกมือดีเข้าไปลอบเผา ทำให้เครื่องทรง ผ้าขาวม้า ของเจ้าพ่อคำแดง รวมถึงรูปปั้นที่สร้างจากปูน ถูกไฟไหม้เป็นสีดำ เกือบทั้งองค์ รวมถึงใบหน้า ภายหลังชาวบ้านทราบข่าว จึงเข้าไปตรวจสอบ ทำความสะอาด หาแนวทางบูรณะ ให้มีความสง่างาม โดยการกระทำครั้งนี้ถึงแม้จะไม่ได้รับความเสียหายทั้งหมด แต่เป็นการทำลายความรู้สึก ชาวบ้านที่เคารพศรัทธา และเป็นการลบหลู่ต่อ มเหศักดิ์หลักเมืองของชาว จ.นครพนม พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวนติดตามจับกุม ตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ตามกฎหมาย และไม่ให้มาก่อเหตุซ้ำอีก

ทั้งนี้ชาวบ้านเชื่อว่า เป็นฝีมือก่อเหตุของกลุ่มคนที่มีความเชื่อสายมูอวิชา ที่ชอบลองของทำพิธีกรรมแปลกๆ หรือทำลายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อลองวิชาความเชื่อแบบงมงาย โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้มีเหตุการณ์ลักขโมยเครื่องเซ่นไหว้ออกไปจากศาลเจ้าปู่คำแดงมาก่อน เช่น รูปปั้น ช้างม้า ที่มีคนนำมาถวาย นอกจากนี้ยังเกิดเหตุการณ์ มีขโมยสายมูเข้าไปลักขโมย องค์ปุงเถ่ากง-ม่า รูปปั้นเทพเจ้าจีนคู่ หรือเจ้าพ่อหมื่น ที่วัดโอกาสศรีบัวบาน เมื่อต้นปี แต่หนีไม่รอด สุดท้ายเป็นฝีมือสายมูหวังนำไปประกอบพิธีความเชื่อ เช่นเดียวกันกับครั้งนี้ชาวบ้านเชื่อว่า จะเป็นฝีมือสายมูที่ต้องการลองอวิชาความเชื่อแบบงมงายเช่นกัน ต่างพากันสาปแช่งเชื่อว่าจะมีอันเป็นไป

ด้าน นางจุฑาพร รัตนโยธิน อายุ 73 ปี ประธานชุมชนหนองบึกท่า และเป็นผู้ดูแลศาลเจ้าพ่อคำแดง เปิดเผยว่า ศาลเจ้าพ่อคำแดง ตนจะเป็นผู้ดูแล เปิดให้ประชาชนผู้เลื่อมใสศรัทธากราบไหว้ ในเวลา 06.00 น. ปิดประตูรั้วในเวลา 19.00 น.ทุกวัน แต่ในเย็นของวันที่ 28 ธันวาคม ได้มาปิดประตูรั้วดังที่เคยปฏิบัติมา พบว่าที่รูปปั้นเจ้าพ่อคำแดงมีรอยไฟไหม้ที่ผ้าขาวม้าที่ใช้ห่มองค์ท่าน ตั้งแต่ฐานลามไปถึงใบหน้าจนดำ จึงโทรศัพท์บอกลูกสาวที่เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวอยู่บริเวณนั้น พร้อมถ่ายภาพส่งให้เพื่อนๆ ในไลน์กลุ่ม 25 ชุมชนเทศบาลเมืองนครพนม ได้ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงมีคนในไลน์กลุ่มนำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก และพากันแสดงความคิดเห็น สาปแช่งคนใจบาปที่ก่อเหตุขึ้น เนื่องจากเจ้าพ่อคำแดง มเหศักดิ์หลักเมือง เป็นสถานที่คนในลุ่มแม่น้ำโขงเคารพกราบไหว้มาช้านาน โดยจะมีพิธีบวงสรวงวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 6 ประจำทุกปี

เดิมศาลหลังเก่าเป็นไม้อยู่ในซอย เมื่อความเจริญกระจายเข้ามา จึงทำพิธีย้ายศาลมาสร้างในบริเวณปัจจุบัน ทีแรกยังไม่มีรั้วเหล็ก เปิดให้ประชาชนเข้ามากราบไหว้ได้ตลอดเวลา ต่อมามีคนเข้าไปทุบทำลายข้าวของรวมทั้งรูปปั้นเจ้าพ่อคำแดง ได้รับความเสียหายทั้งหมด เมื่อหลายปีก่อน ชาวบ้านจึงได้เรี่ยไรเงินสร้างรูปปั้นขึ้นมาใหม่คือองค์นี้ พร้อมสร้างรั้วเหล็กมีเวลาเปิดปิด ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์อีก เชื่อว่าคนที่ก่อเหตุจะต้องเกิดสิ่งไม่ดีขึ้นกับตนเอง เพราะเจ้าปู่คำแดงมีความศักดิ์สิทธิ์ตามตำนานความเชื่อ

ทั้งนี้ ชาวบ้านลุ่มแม่น้ำโขงเชื่อกันว่าเจ้าพ่อคำแดง เสมือนเป็นกษัตริย์ของมวลหมู่พญานาคในลุ่มแม่น้ำโขง ที่คอยควบคุมดูแลความประพฤติของเหล่านาคน้อยใหญ่ทั้งหลาย ไม่ให้เกเร รังแก ทำร้ายประชาชนผู้ที่ทำมาหากินหรืออาศัยอยู่ตามลำแม่น้ำโขง เนื่องจากนาคก็มีนิสัยใจคอไม่ต่างจากมนุษย์มากนัก นาคบางตัวก็มีนิสัยเกเรมักกลั่นแกล้งมนุษย์ บางตนก็ถือศีลอย่างเคร่งครัด นอกจากควบคุมดูแลนาคด้วยกันแล้ว เชื่อกันว่าพญานาคในนามหรือร่างของเจ้าพ่อคำแดง ยังมีอิทธิฤทธิ์ดลบันดาลประสาทพรให้โชคลาภกับผู้ที่ศรัทธามากราบไหว้ขอพรเสมอ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook