เคจ ถูกฟ้องร้องรายล่าสุดหลังกู้เงินแล้วไม่ใช้คืน

นิโคลัส เคจ ถูกบริษัทอสังหาริมทรัพย์ฟ้องร้องเป็นรายล่าสุด หลังกู้เงินแล้วไม่ใช้คืน

เว็บไซต์นิตยสารพีเพิล และ TMZ รายงานว่า นิโคลัส เคจ นักแสดงชื่อดังเจ้าของรางวัลออสการ์ต้องเผชิญกับเรื่องร้ายในวันคริสต์มาส เมื่อเขาถูกฟ้องร้องที่อาจทำให้ต้องเสียเงินอีกหลายล้านดอลล่าร์ โดยเคจ วัย 45 ปี ที่ระบุว่า กำลังประสบปัญหาทางการเงิน เพราะถูกอดีตคนทำบัญชีต้มตุ๋น เผชิญมรสุมชีวิตลูกล่าสุด เมื่อถูกบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ฟ้อง เพราะเขาไม่ยอมใช้เงินกู้จำนวนกว่า 5 ล้านดอลล่าร์ หรือราว 175 ล้านบาท

ทนายความของ บริษัท เร้ด เคิร์บ อินเวสต์เมนท์ ได้กล่าวหา เคจ, อดีตคนทำบัญชี และโบร้คเกอร์ด้านการจดจำนองที่ดิน รวมหัวกันฉ้อโกงบริษัท ด้วยการไม่ยอมเปิดเผยสถานภาพด้านการเงินที่แท้จริงของเคจ ที่รวมทั้งการที่เขาค้างจ่ายภาษีอีก 6.3 ล้านดอลล่าร์ หรือราว 220 ล้านบาทด้วยในเอกสารยื่นฟ้อง ระบุว่า ลูกค้า ซึ่งหมายถึงเคจ ได้รับประกันว่า เขามีทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก รวมทั้ง อสังหาริมทรัพย์หรูหราราคาแพง , เรือยอทช์ , เครื่องบิน , ของเก่าราคาแพง , รถยนต์ยี่ห้อหรู , เครื่องเพชรและทรัพย์สินอื่น ๆ เพื่อเป็นหลักประกันว่าเขามีปัญหาใช้เงินคืน แต่เมื่อตรวจพบภายหลังจึงได้รู้ว่าทรัพย์สินของเคจ ถูกเพิ่มมูลค่าเกินจริง

มาร์ตี้ ซิงเกอร์ ทนายของเคจ เปิดเผยต่อนิตยสารพีเพิลว่า ข้ออ้างใด ๆ ที่ว่า เคจฉ้อโกง หรือ กระทำการใดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เป็นเรื่องไร้สาระและน่าหัวเราะเยาะสิ้นดี แต่ทางบริษัทเร้ด เคิร์บ กำลังหาทางฟ้องร้องเรียกเงินจำนวนอย่างน้อย 36.7 ล้านดอลล่าร์ หรือกว่า 1,200 ล้านบาท สำหรับเงินกู้ บวกดอกเบี้ย ค่าเสียหาย ค่าทนายความและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

ก่อนหน้านี้ คริสติน่า ฟัลตัน ซึ่งเป็นแม่ของลูกชายวัย 18 ปีของเคจ ก็ฟ้องเคจในข้อหาฉ้อโกงจำนวน 13 ล้านดอลล่าร์ หรือราว 455 ล้านบาท ในขณะที่เคจกำลังอยู่ระหว่างการฟ้องร้องอดีตคนทำบัญชี ที่กล่าวหาว่า ที่สถานะทางการเงินของเคจต้องย่ำแย่ ก็เพราะว่าเขาใช้จ่ายเงินอย่างไม่ยับยั้งชั่งใจเอง ที่ทำให้เขาต้องถูกธนาคารอีกแห่งหนึ่งฟ้องร้องว่า ไม่ยอมจ่ายเงินกู้จำนวน 2 ล้านดอลล่าร์ หรือ 70 ล้านบาท