ยธ.มอบเยียวยา6ราย เมียทนายสมชายชี้เยียวยากระบวนการยุติธรรม
อังคณา เผยเงินเยียวยาเล็กน้อยไม่สำคัญเท่าต้องเยียวยากระบวนการยุติธรรม 6ปีคดีโยบายรัฐไม่คืบ ตอกย้ำ 1 ปีรัฐบาลสั่งการ ยังไม่พบ ทนายสมชาย
ที่กระทรวงยุติธรรม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานมอบเงินช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา มีนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นสักขีพยาน
มีทายาทผู้เสียหายเดินทางมารับเงินช่วยเหลือ 6 กรณี คือ กรณี ร.ต.อ.อาทิตย์ บุบผา หัวหน้าชุดจับกุมถูกยิงบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะปฏิบัติหน้าที่ล่อซื้อยาเสพติดและแสดงตัวเข้าจับกุม นางสาวประภาพรรณ เดชะเทศ บุบผา ภรรยาผู้เสียชีวิต ได้รับค่าตอบแทนและค่าทดแทนแก่จำเลยในคดีอาญา เป็นเงิน 50,000 บาท
กรณีนายพงษ์เทพ และนางอำไพ รู้คงประเสริฐ ถูกยิงเสียชีวิตในช่วงการประกาศสงครามกับยาเสพติด ปี 2546 ได้รับค่าตอบแทนฯ รายละ 100,000 บาท โดยนายวรพงษ์ รู้คงประเสริฐ บุตรชาย เป็นผู้ได้รับ
กรณีนายสมชาย นีละไพจิตร ศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ ได้รับเงินจำนวน 80,000 บาท นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยานายสมชาย เป็นผู้รับ กรณีนายรณฤทธิ์ วิเวโก และนายนภัค ลือชาติเมธิกุล นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ได้รับค่าตอบแทนฯ เป็นเงินรายละ 100,000 บาท
อังคณา ชี้กระบวนการยุติธรรมป่วย
นางอังคณา กล่าวว่า เงินค่าตอบแทนและค่าทดแทนแก่จำเลยในคดีอาญา ที่รัฐมอบให้ถือเป็นการเยียวยาด้านทรัพย์สิน ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไร แต่สิ่งที่อยากได้มากกว่า คือ การเยียวยาด้านกระบวนการยุติธรรม เนื่องจาก 1 ปีผ่านมาแล้ว รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี สั่งการให้เร่งรัดคลี่คลายคดีทนายสมชาย แต่ก็กลับไม่มีความคืบหน้า และอีกไม่กี่วันก็จะครบ 6 ปีที่นายสมชายหายตัวไป กรมสอบสวนคดีพิเศษไปงมหาถังน้ำมันและกระดูกหลายครั้งที่แม่น้ำแม่กลอง เมื่อส่งไปตรวจพิสูจน์คราบเลือดและกระดูกที่ต่างประเทศ ก็แจ้งผลกลับมาแล้วว่า ไม่มีส่วนใดที่บ่งชี้ว่า ตรงกับดีเอ็นเอของนายสมชาย รวมทั้งเมื่อเปลี่ยนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษจากพ.ต.อ.ทวี เป็นนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ก็ยังไม่เคยได้รับแจ้งว่าคดีมีความคืบหน้าอย่างไร
นางอังคณา กล่าวว่าที่สำคัญตนยังได้ทราบมาว่า พยานในคดีความมั่นคงภาคใต้ ที่นายสมชายเป็นทนายว่าความให้ ได้หายตัวไประหว่างการคุ้มครองพยานของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จึงอยากให้ดีเอสไอออกมาชี้แจง เพราะพยานคนดังกล่าวเป็นพยานสำคัญที่เข้าให้การกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐทำร้ายร่างกาย อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวยังมีความหวัง หากเจ้าหน้าที่จริงใจและตั้งใจที่จะทำคดีนี้ คดีก็น่าจะคลี่คลายได้โดยเร็ว
นางอังคณา กล่าวอีกว่า กรณีได้รับเงินค่าตอบแทนและค่าทดแทนครั้งนี้ แบ่งเป็นค่าตอบแทนกรณีผู้เสียหายถึงแก่ความตายจำนวน 50,000 บาท ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู 30,000 บาท ซึ่งตนจะนำเงินจำนวนนี้ไว้เป็นค่าการศึกษาให้กับบุตร อย่างไรก็ตาม กรณีของทนายสมชายถือเป็นครั้งแรกที่มีการจ่ายค่าตอบแทนหรือค่าทดแทนในคดีอาญา ให้กับคนที่สูญหาย ซึ่งในตอนแรกที่ตนมายื่นเรื่องขอรับค่าตอบแทนฯ เจ้าหน้าที่ปฏิเสธและบอกว่าไม่เข้าข่าย แต่ตนได้ต่อสู้ขอให้คณะกรรมการพิจารณา และน่าจะเป็นบรรทัดฐาน ให้กับคนที่ถูกทำให้หายไป ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาตามพรบ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 จากรัฐบ้าง
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการคลี่คลายคดีการหายตัวไปของนายสมชาย ว่า ที่ผ่านมาดีเอสไอ มุ่งเน้นทำคดีด้วยการพิสูจน์ว่านายสมชายเสียชีวิตแล้วเพียงด้านเดียว ทำให้คดีไม่คืบหน้า ตนจึงกำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งติดตาม โดยให้มุ่งการพิสูจน์หาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้
สำหรับการจ่ายเงินตามพรบ.ฉบับนี้ตั้งแต่เริ่มบังคับใช้ในปี พ.ศ.2544 จนถึงสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.2552 กรมคุ้มครองสิทธิฯ ได้รับคำขอจากผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา จำนวน 29,855 ราย และได้เสนอคณะกรรมการพิจารณาวินิจฉัยแล้ว 27,464 ราย โดยคณะกรรมการมีมติจ่ายเงินจำนวน 16,162 ราย เป็นเงินประมาณ 1,200 ล้านบาท