ทร. ยอมรับ "ต้นกล" เรือหลวงสุโขทัย ไม่ได้ลงเรือในวันอับปาง ทั้งที่เป็นตำแหน่งสำคัญ
ทร. ยอมรับ "ต้นกล" ไม่ได้ลงเรือหลวงสุโขทัยไปด้วยในวันเกิดเหตุ ทั้งที่เป็นตำแหน่งสำคัญ รับผิดชอบเครื่องจักร เครื่องกล
(30 ธ.ค. 65) พลเรือโทพิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เปิดเผยภาพรวมการค้นหากำลังพล เรือหลวงสุโขทัย ที่ยังสูญหายตลอดทั้งวันว่า การปฏิบัติการค้นหาวันนี้ยังไม่พบผู้ประสบภัยเพิ่มเติม
แต่กู้ภัยได้พบเครื่องแต่งกายเป็นกางเกงชุดปฏิบัติงานทางทะเล ถุงน้ำ และอุปกรณ์อื่นๆ ประกอบ 2-3 รายการ โดยตรวจพบที่หน้าบริษัท IRPC บริเวณอ่าวชุมพร กางเกงดังกล่าว บ่งชี้ได้ว่าเป็นกางเกงเฉพาะของกำลังพลของกองเรือยุทธการในการใช้ปฏิบัติการเรือรบของกองเรือยุทธการ
ส่วนถุงน้ำ มีการถูกใช้ไปบ้าง จึงคาดว่าถุงไม่น่าจะฉีกขาดง่าย น่าจะมีร่องรอยของการดื่ม
ขณะที่แผนการค้นหาได้ใช้เรือหลวงหลัก 4 ลำ เน้นค้นหาพื้นที่ตามแนวชายฝั่ง อ.ประทิว และ อ.เมือง จ.ชุมพร
ส่วนการค้นหาในพรุ่งนี้ ก็จะมีการนำผลการตรวจพบ ชุดปฏิบัติการมาวิเคราะห์แผนด้วย และอาจจะเพิ่มเติมไปในที่สูง และภายในถ้ำต่างๆ รวมถึงการค้นหาใต้น้ำ ก็จะมีการปูพรมลงไปซ้ำอีก เพราะส่วนหนึ่งกระแสน้ำอาจจะยังมาไม่ถึง จึงต้องดำเนินการต่อเนื่อง
กรณีร่างของกำลังพลที่เสียชีวิตอีก 1 นาย ยืนยันว่า ขณะนี้ร่างยังอยู่ที่มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน และยังรอการพิสูจน์ดีเอ็นเอ ซึ่งยังไม่สามารถพิสูจน์ว่าเป็นใครได้โดยจะต้องรอการยืนยันจากนิติเวชก่อน
ซึ่งตนเองได้บอกทุกครั้งว่าถ้าไม่มีการยืนยันด้วยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์แบบ 100% กองทัพเรือจะไม่มีการยืนยันเด็ดขาด เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดจะทำให้เกิดความเสียหายได้
ส่วนที่วันนี้ โซเชียลมีการตั้งคำถามว่า ขณะที่ออกปฏิบัติภารกิจของเรือหลวงสุโขทัย เมื่อเย็นวันที่ 17 ธ.ค. ไม่มีตำแหน่งต้นกลของเรือหลวงสุโขทัย ที่ลงไปภายในเรือเพื่อออกปฏิบัติภารกิจด้วยนั้น พลเรือโทพิชัย ชี้แจงว่า ตามรายชื่อที่ปรากฏ 106 นายบนเรือ และติดภารกิจ 1 นาย ทำให้มีรายชื่อลงเรือ 105 นาย ซึ่งไม่ได้มีรายชื่อต้นกลไปกับเรือก็ยืนยันว่า เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ได้มีต้นกลไปกับเรือด้วย
แต่ข้อเท็จจริงทั้งหมดและรายละเอียด จะต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวน โดยผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัยจะต้องชี้แจงคำถามนี้ ซึ่งจะเป็นรายละเอียดที่อยู่ในกระบวนการสอบสวน
ทั้งนี้เชื่อว่าจะต้องมีเหตุสำคัญที่ต้นกลไม่ได้ลงมากับเรือ เหมือนกับกำลังพลอีกคนที่ไม่ได้ไป ซึ่งก็ถือเป็นดุลยพินิจของผู้บังคับการเรือ และตามปกติแล้ว เรือรบทุกลำจะต้องมีต้นกลออกไปด้วย เพราะความพร้อมของเรือจะต้องเป็น ผู้การเรือฯ กับต้นกล โดยผู้บังคับการเรือจะต้องมีหน้าที่ในการปฏิบัติการทางเรือและในยุทธวิธี
ส่วนต้นกลจะรับผิดชอบเครื่องจักร เครื่องกล และดูแลการป้องกันความเสียหาย
เมื่อนักข่าวถามว่าถ้ากรณีไม่มีต้นกล ต้องมีตำแหน่งไหนที่ทำหน้าที่แทนหรือไม่ พลเรือโทพิชัย ตอบว่า จริงๆ เรือที่เขาเรียกว่า พรรคกลิน (อ่านว่า พรรค-กะ-ลิน) หรือ แผนกช่างกล จะมีหลายตำแหน่ง ตั้งแต่รองต้นกล บางชุดก็อาจจะไม่มีรองต้นกล ก็อาจจะมีนายช่างกล แต่เรือขนาดใหญ่จะต้องมีรองต้นกล นายช่างกล สรั่งกล ที่เป็นนายทหารสัญญาบัตรดูแลเรื่องเครื่องจักร