ทนายตั้มแถลงแล้ว เปิดคำใบ้อดีตรองนายกฯ ชอบตีกอล์ฟ แต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟนี้
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขามูลนิธิทีมงานทนายประชาชน แถลงข่าวกรณี อดีตสามีมาขอคำปรึกษาข้อกฏหมาย หลังพบว่าภรรยาของตัวเองแอบมีความสัมพันธ์กับนักการเมือง ดีกรีอดีตรองนายกรัฐมนตรี โดยมีหลักฐานแชตไลน์ สนทนาพูดคุยกันในเชิงชู้สาว
โดยทนายตั้มเผยว่า เหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดเมื่อปีตุลาคม 2565 โดยผู้เสียหายนำข้อมูลมาปรึกษาเมื่อเดือนธันวาคม 2565 เนื่องจากพบว่าภรรยาที่ทำงานอยู่โรงแรมแห่งหนึ่ง มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป จึงเกิดสงสัยไปแอบเปิดโทรศัพท์มือถือของภรรยา และพบข้อความสนทนาทางไลน์กับผู้ชายคนหนึ่ง และยังพบภาพเปลือยของทั้งสองคนถ่ายเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ โดยผู้เสียหายที่นำความมาปรึกษารู้สึกเสียใจ เนื่องจากผู้ชายที่มีสัมพันธ์กับภรรยาเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง
นายษิทรา จึงให้คำปรึกษาในเรื่องของข้อกฎหมาย โดยคดีนี้ได้ฟ้องทางแพ่งและฟ้องหย่ากับภรรยาไปแล้ว เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2565 โดยศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง นัดคดีเดือนมีนาคมปีนี้
ต่อมา อดีตรองนายกรัฐมนตรี ทราบว่า สามีของผู้หญิงทราบเรื่องแล้วจึงพยายามตีตัวออกห่าง และมีการฟ้องร้องเพื่อให้ภรรยาของผู้เสียหายคืนทรัพย์สินต่างๆให้
ต่อมา ผู้เสียหายและภรรยา รวมทั้งอดีตรองนายกรัฐมนตรีนัดเจรจาคดีความนี้กันที่สถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขัน โดยผู้เสียหายอ้างว่า มีกลุ่มชายฉกรรจ์เข้ามาในโรงพัก มีพฤติกรรมข่มขู่ที่สถานีตำรวจและตามมาข่มขู่ถึงที่บ้าน ผู้เสียหายจึงกังวลในเรื่องของความปลอดภัย นำข้อมูลนี้มาปรึกษาเพื่อให้เปิดเผยเรื่องราวนี้ต่อสื่อมวลชน และได้นำข้อมูลหลักฐานไปส่งมอบให้กับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนหนึ่งรับผิดชอบคดีแล้ว
ทนายตั้ม ยังบอกใบ้ว่า บุคคลดังกล่าวเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี และเกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ที่ชอบกีฬากอล์ฟ แต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟชื่อดังแห่งหนึ่ง
ส่วนบุคคลนี้ จะเคยมีพฤติกรรมลักษณะชู้สาวกับบุคคลอื่นอีกหรือไม่ คงไม่สามารถตอบได้ แต่กับลูกความตัวเอง ถือว่ามีหลักฐานชัดเจน ดังนั้นการที่บุคคลที่รู้ตัวเองอยู่แล้ว ออกมาปฏิเสธ ถือว่าไม่มีความรับผิดชอบ
ทนายตั้ม ยืนยันอีกว่า บุคคลนี้ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย มานานกว่า 5 ปีแล้ว ดังนั้นเหตุที่เกิดขึ้นจึงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง แต่ถือเป็นคดีความส่วนตัวเท่านั้น