"วรวัจน์" แนะ รบ.-สธ. แยกเปิดรับคนจีน ทั้งท่องเที่ยวและรักษาตัว กวาดรายได้ 2 ต่อ
"วรวัจน์" แนะ รบ.-สธ. วางมาตรการ เปิดรับทั้งคนจีนที่มาท่องเที่ยว และมารักษาตัว กวาดรายได้ 2 ต่อ โดยดำเนินการไปพร้อมกัน เพื่อให้สามารถแยกแยะคนที่มาท่องเที่ยว และมาพักรักษาตัว ออกจากกันได้ชัดเจน
เมื่อวันที่ 10 มกราคม นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า หลังจากมีเที่ยวบินแรกจากประเทศจีนเข้ามาสู่ประเทศไทยแล้วนั้น หากติดตามจากสถานการณ์จะพบว่า คนจีนที่เข้ามาส่วนหนึ่งมาเพื่อท่องเที่ยวก็จริง แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งที่เดินทางเข้ามาเพื่อดูแลสุขภาพเนื่องจากระบบการรักษาโควิดของจีนไม่สามารถรองรับได้ ซึ่งวันนี้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยกำลังจะเริ่มกระเตื้องดีขึ้นอย่างช้าๆแล้ว ดังนั้นเราก็ต้องระมัดระวังอย่าให้ปัญหาการระบาดของโควิดแบบเดิมๆ กลับมาซ้ำเติมระบบเศรษฐกิจของไทยอีก ทางรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุขต้องดูแล และรับรองในการแยกสองส่วนนี้ออกจากกันให้ชัดเจน อย่าให้เกิดการระบาดอีกครั้งหนึ่ง เพราะจากสถานการณ์ที่ผ่านมาเราปล่อยปละละเลยจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศไทยมามากพอแล้ว อย่าให้โอกาสครั้งนี้กลับกลายเป็นวิกฤติอีกครั้งหนึ่งของไทย
เมื่อถามย้ำว่า ข้อเสนอคือต้องการให้มีการจัดระบบแยกเที่ยวบินให้ชัดเลยว่าอันไหนมาเที่ยว อันไหนมารักษาตัวแบบนี้หรือไม่ นายวรวัจน์ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องการให้มีการวางแผน และจัดให้มีกระบวนการรองรับให้ชัดเจนก่อน คืออย่าตั้งป้อมรังเกียจการเข้ามารักษาตัวโดยไม่ดูข้อเท็จจริง เพราะการที่ชาวจีนเข้ามารักษาสุขภาพก็ถือว่าเป็นรายได้ส่วนหนึ่งเช่นกัน และหลังจากมีการรักษาจนหายแล้วก็มีโอกาสที่คนกลุ่มนี้จะอาศัยอยู่ในประเทศไทยไปต่ออีกระยะหนึ่งเพื่อรอการระบาดที่จีนเบาบางลง ซึ่งส่วนนี้ก่อจะก่อให้เกิดรายได้ในการพักรักษาตัวระยะยาวเพิ่มอีกต่อหนึ่งด้วย และแม้จะเดินทางมาในเที่ยวบินลำเดียวกันก็ต้องมีกระบวนการพาไปดูแลรักษาตัวให้ด้วย ตนให้ความสำคัญกับกระบวนการ และมาตรการที่ชัดเจน ไม่ใช่จนถึงมีเที่ยวบินเที่ยวแรกมาถึงแล้ว วันนี้ก็ยังไม่เห็นกระบวนการ หรือมาตรการอะไรเลย ซึ่งการขาดความชัดเจนเช่นนี้ ทำให้พี่น้องประชาชนเริ่มเป็นห่วงว่ารัฐบาลอาจจะละเลย และก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจเหมือนช่วงเวลาที่ผ่านมาอีกหรือไม่ ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมาประชาชนก็ส่งสัญญาณเรียกร้องถึงรัฐบาลมาโดยตลอดในเรื่องการดำเนินมาตราการป้องกันในรูปแบบต่างๆแต่ทางรัฐบาลก็บริหารจัดการผิดพลาดจนทำให้เกิดวิกฤติมาแล้ว ในหลายปีที่ผ่านมา