กษัตริย์กรีซพระองค์สุดท้าย สวรรคตแล้ว! เผยประวัติวุ่นการเมืองจนถูกล้มล้าง

กษัตริย์กรีซพระองค์สุดท้าย สวรรคตแล้ว! เผยประวัติวุ่นการเมืองจนถูกล้มล้าง

กษัตริย์กรีซพระองค์สุดท้าย สวรรคตแล้ว! เผยประวัติวุ่นการเมืองจนถูกล้มล้าง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อดีตสมเด็จพระราชาธิบดีคอนสแตนตินที่ 2 แห่งกรีซ สวรรคต ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเอเธนส์ ด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก เมื่อช่วงดึกวันอังคาร (10 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ขณะพระชนมพรรษา 82 พรรษา

สื่อท้องถิ่นของกรีซหลายสำนักรายงานว่า อดีตสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์นี้ทรงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแห่งดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังทรงมีพระอาการเกี่ยวกับการหายพระทัย

พังพินาศหลังแทรกแซงการเมือง

อดีตสมเด็จพระราชาธิบดีคอนสแตนตินที่ 2 ทรงขึ้นครองราชย์ขณะมีพระชนมพรรษา 23 พรรษา หรือเมื่อปี 2507 ซึ่งห้วงเวลานั้นทรงได้รับความนิยมอย่างสูงจากประชาชน

แต่ปีต่อมา ความนิยมดังกล่าวกลับเริ่มดำดิ่ง เพราะทรงแทรกแซงทางการเมืองเพื่อโค่นล้มรัฐบาลพรรคสหภาพกลางของนายกรัฐมนตรีเยออร์ยอส ปะปันเดรอู (ผู้พ่อ) ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก จนนำมาสู่การที่ทหารปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง และบีบบังคับให้ต้องทรงลี้ภัยทางการเมืองในปี 2510

หลังจากคณะปฏิวัติล่มสลายลง กรีซจัดประชามติเมื่อปี 2517 ซึ่งผลประชามติดังกล่าวพบว่า 69.2% เห็นชอบให้ยกเลิกระบอบกษัตริย์

แม้เวลาผ่านมานานหลายสิบปี ผลสำรวจความเห็นของประชาชนผลสำรวจหนึ่งเมื่อปี 2551 ยังชี้ว่ากลุ่มตัวอย่างชาวกรีซไม่ถึง 12% เท่านั้นที่อยากให้มีระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ขณะที่ 43% มองว่าอดีตสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์นี้ทรงเป็นสาเหตุที่ทำให้ทหารยึดอำนาจ

ชาวกรีซถือป้ายแสดงความยินดีเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2517 เมื่อประกาศผลประชามติว่าเกือบ 70% เห็นด้วยให้ยกเลิกระบอบกษัตริย์AFPชาวกรีซถือป้ายแสดงความยินดีเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2517 เมื่อประกาศผลประชามติว่าเกือบ 70% เห็นด้วยให้ยกเลิกระบอบกษัตริย์

โดนถอดสัญชาติ-ยึดทรัพย์

ระหว่างที่ทรงลี้ภัย ทรงพำนักอยู่ในชานกรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักร และได้กลับประเทศครั้งแรกหลังจากทรงลี้ภัยนาน 14 ปี เพื่อเสด็จฝังพระศพพระะราชมารดา สมเด็จพระราชินีเฟรเดริกา ในปี 2524 ก่อนในท้ายที่สุดจะทรงย้ายกลับมาพำนักในกรีซเป็นการถาวร

อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2537 รัฐบาลในขณะนั้นตัดสินใจถอดสัญชาติของอดีตกษัตริย์พระองค์นี้ และยึดทรัพย์ที่เหลือทั้งหมดของราชวงศ์ อดีตสมเด็จพระราชาธิบดีคอนสแตนตินที่ 2 จึงทรงยื่นฟ้องต่อศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป เป็นเงิน 500 ล้านยูโร แต่ศาลตัดสินให้เพียง 12 ล้านยูโรเท่านั้นเมื่อปี 2555

การถอดสัญชาติดังกล่าวทำให้ทรงถือพาสปอร์ตเดนมาร์ก ที่ทรงมีเชื้อสายอยู่ ทั้งยังทรงมีพระชายาเป็นเจ้าหญิงอานน์-มารี พระขนิษฐา (น้องสาว) ในสมเด็จพระราชินีนาถมาเกรเทอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook