ฮือฮา เลขธูปงานทำบุญให้ "ตาแป๊ะเจียง" วีรบุรุษมะขามหวาน ตรงกับเลขวันที่เสียชีวิต
ชาวบ้านจัดทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้าของ และเทวดาที่ปกปักรักษามะขามหวานพันธุ์ตาแป๊ะต้นแรก ฮือฮาเลขธูปตรงกับวันเสียชีวิต
วันที่ 14 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ลูกหลานของนายเง็กเจียง แซ่เฮง หรือ “แป๊ะเจียง” เจ้าของมะขามหวานพันธุ์ประกายทอง หรือพันธุ์ตาแป๊ะต้นแรก จัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ตาแป๊ะ และเทพยดาเทพาอารักษ์ที่ปกปักรักษาต้นมะขามหวานพันธุ์ประกายทองต้นแรก มาจนถึงปัจจุบันนี้ โดยพิธีการดังกล่าว จัดขึ้นที่สวนมะขามหวานตาแป๊ะ ตั้งอยู่เลขที่ 3 หมู่ 8 บ้านโป่งตาเบ้า ต.ชนแดน อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ โดยได้นิมนต์พระสงฆ์ 9 รูปมาเจริญพระพุทธมนต์ และฉันภัตตาหารเพล โดยมีชาวบ้านและญาติ ๆ มาร่วม
นายบุญมา วัฒนชัยสิทธิ์ ลูกชายของ แป๊ะเจียง เปิดเผยว่า เมื่อครั้งเตี่ยมีชีวิตอยู่ แรกเริ่มเดิมทีประกอบอาชีพทำนา ต่อมาได้เปลี่ยนมาปลูกส้มเขียวหวาน แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ มีอยู่วันหนึ่งเตี่ยได้ไปที่ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ได้มีพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวให้เม็ดมะขามกับเตี่ยมา โดยบอกว่าเป็นมะขามหวาน เตี่ยจึงนำมาหว่านไว้ในสวน แต่ขึ้นมาเพียงต้นเดียว แต่ก็ไม่ได้ดูแลอะไรเป็นพิเศษ รดน้ำให้ตามปกติเท่านั้น เวลาผ่านไปประมาณ 6-7 ปี บริเวณดังกล่าวได้ปรับเป็นที่นา ส่วนมะขามต้นดังกล่าวต้นใหญ่ขึ้น และติดผลเป็นปีแรก
โดยในวันที่รู้ว่าเป็นมะขามหวานนั้น เป็นช่วงที่กำลังเกี่ยวข้าว ภรรยาของตนเองรู้สึกอยากกินอะไรที่เปรี้ยวๆ จึงปีนเก็บมะขามมากิน แต่ปรากฏว่ามีรสชาติที่หวานมาก ตนจึงไปบอกเตี่ย เตี่ยจึงปีนเก็บมะขามทั้งหมด จากนั้นก็นำไปแจกและขายที่ตลาดวังชมภู โดยขายได้กิโลกรัมละ 200 บาท ซึ่งถือว่าแพงมากสำหรับสมัยนั้น และในปีต่อมามะขามหวานต้นดังกล่าว ก็ได้ให้ผลผลิตติดฝักเป็นจำนวนมาก และได้นำฝักสุกไปขายทำให้ชื่อเสียงมะขามหวานของเตี่ยโด่งดัง และได้ส่งเข้าประกวดในงานมะขามหวานประจำปีของจังหวัดเพชรบูรณ์ และคว้ารางวัลที่ 1 มาได้ แม้จะส่งเป็นปีแรกก็ตาม
สำหรับชื่อพันธุ์ประกายทองนั้น มาจากทางราชการต้องการให้ตั้งชื่อเป็นมาตรฐาน เพื่อส่งเข้าประกวด เดิมทีเตี่ยตั้งชื่อว่า “กลายทอง”เนื่องจากเป็นมะขามหวานที่มีเนื้อคล้ายสีทองคำ แต่เจ้าหน้าที่แนะนำว่าไม่เพราะจึงได้เปลี่ยนมาเป็น “ประกายทอง” มาจนถึงปัจจุบันนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนมากจะเรียกกันติดปากว่า “พันธุ์ตาแป๊ะ”
จากนั้นได้มีการขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่งพันธุ์ ในปีแรกขยายเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย รวมทั้งชาวบ้านในหมู่บ้านมาขอกิ่งพันธุ์ไปปลูก เตี่ยก็ให้ไป จึงทำให้ชาวบ้านมีรายได้จากการขยายกิ่งพันธุ์ และขายมะขามหวาน โดยในปีแรก ๆ ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 600 – 700 บาท ทำให้ชาวบ้านมีรายได้ ลืมตาอ้าปาก สร้างฐานะมาจวบจนปัจจุบัน และในทุกวันที่ 14 มกราคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่เตี่ยเสียชีวิต ลูกๆและชาวบ้านจะจัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เตี่ยและอุทิศให้เทวดาที่ปกปักรักษาต้นมะขามหวานพันธุ์ประกายทองต้นแรก มีอายุยืนยาวมาจนถึงปัจจุบัน ประมาณ 50 ปีแล้ว
สำหรับมะขามหวานพันธุ์ประกายทองนั้น จัดเป็นมะขามหวานสายพันธุ์เบา ลักษณะลำต้นผิวเปลือกออกสีน้ำตาล ผิวหยาบ ใบหนา เข้ม ปลายใบตัดหยัก ลักษณะฝักมีขนาดยาวใหญ่ค่อนข้างตรง กลม เปลือกฝักบาง ผิวเรียบเป็นสีน้ำตาล ในขณะที่สีเนื้อเป็นสีน้ำผึ้งออกทรายแดง และเนื้อหนาตกทราย รสหอมหวาน รกหุ้มเนื้อน้อย เมล็ดเล็ก
ด้าน นางสายลมเย็น สุดยอด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 บ้านโป่งตาเบ้า เปิดเผยว่า มะขามหวานพันธุ์ประกายทอง ได้สร้างรายได้ ทำให้เศรษฐกิจในหมู่บ้านดีขึ้นเป็นอย่างมาก ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น เมื่อก่อนมะขามหวานพันธุ์ตาแป๊ะ มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 700 บาท และถึงแม้ปัจจุบันราคาก็ยังสูงกว่าพันธุ์อื่นๆ ซึ่งหากคำนวณมูลค่าที่ได้ขายทั้งต้นพันธุ์และฝัก ทำรายได้เข้าจังหวัดนับหลายพันล้านบาทเลยทีเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับตาแป๊ะและเทพยดาเทพาอารักษ์ที่ปกปักรักษาต้นมะขามหวานพันธุ์ประกายทองต้นแรกนั้น ญาติๆ ได้นำธูปเสี่ยงทายมาจุดเพื่อขอโชคลาภจากตาแป๊ะและเทพาอารักษ์ปรากฎว่า เป็นที่ฮือฮามากเพราะเลขที่ได้คือ 413 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ตรงกับวันที่ตาแป๊ะเสียชีวิตคือวันที่ 14
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ