ฮือฮา เลขธูปงานทำบุญให้ "ตาแป๊ะเจียง" วีรบุรุษมะขามหวาน ตรงกับเลขวันที่เสียชีวิต

ฮือฮา เลขธูปงานทำบุญให้ "ตาแป๊ะเจียง" วีรบุรุษมะขามหวาน ตรงกับเลขวันที่เสียชีวิต

ฮือฮา เลขธูปงานทำบุญให้ "ตาแป๊ะเจียง" วีรบุรุษมะขามหวาน ตรงกับเลขวันที่เสียชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชาวบ้านจัดทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้าของ และเทวดาที่ปกปักรักษามะขามหวานพันธุ์ตาแป๊ะต้นแรก ฮือฮาเลขธูปตรงกับวันเสียชีวิต

วันที่ 14 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ลูกหลานของนายเง็กเจียง แซ่เฮง หรือ “แป๊ะเจียง” เจ้าของมะขามหวานพันธุ์ประกายทอง หรือพันธุ์ตาแป๊ะต้นแรก จัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ตาแป๊ะ และเทพยดาเทพาอารักษ์ที่ปกปักรักษาต้นมะขามหวานพันธุ์ประกายทองต้นแรก มาจนถึงปัจจุบันนี้ โดยพิธีการดังกล่าว จัดขึ้นที่สวนมะขามหวานตาแป๊ะ ตั้งอยู่เลขที่ 3 หมู่ 8 บ้านโป่งตาเบ้า ต.ชนแดน อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ โดยได้นิมนต์พระสงฆ์ 9 รูปมาเจริญพระพุทธมนต์ และฉันภัตตาหารเพล โดยมีชาวบ้านและญาติ ๆ มาร่วม

นายบุญมา วัฒนชัยสิทธิ์ ลูกชายของ แป๊ะเจียง เปิดเผยว่า เมื่อครั้งเตี่ยมีชีวิตอยู่ แรกเริ่มเดิมทีประกอบอาชีพทำนา ต่อมาได้เปลี่ยนมาปลูกส้มเขียวหวาน แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ มีอยู่วันหนึ่งเตี่ยได้ไปที่ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ได้มีพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวให้เม็ดมะขามกับเตี่ยมา โดยบอกว่าเป็นมะขามหวาน เตี่ยจึงนำมาหว่านไว้ในสวน แต่ขึ้นมาเพียงต้นเดียว แต่ก็ไม่ได้ดูแลอะไรเป็นพิเศษ รดน้ำให้ตามปกติเท่านั้น เวลาผ่านไปประมาณ 6-7 ปี บริเวณดังกล่าวได้ปรับเป็นที่นา ส่วนมะขามต้นดังกล่าวต้นใหญ่ขึ้น และติดผลเป็นปีแรก

โดยในวันที่รู้ว่าเป็นมะขามหวานนั้น เป็นช่วงที่กำลังเกี่ยวข้าว ภรรยาของตนเองรู้สึกอยากกินอะไรที่เปรี้ยวๆ จึงปีนเก็บมะขามมากิน แต่ปรากฏว่ามีรสชาติที่หวานมาก ตนจึงไปบอกเตี่ย เตี่ยจึงปีนเก็บมะขามทั้งหมด จากนั้นก็นำไปแจกและขายที่ตลาดวังชมภู โดยขายได้กิโลกรัมละ 200 บาท ซึ่งถือว่าแพงมากสำหรับสมัยนั้น และในปีต่อมามะขามหวานต้นดังกล่าว ก็ได้ให้ผลผลิตติดฝักเป็นจำนวนมาก และได้นำฝักสุกไปขายทำให้ชื่อเสียงมะขามหวานของเตี่ยโด่งดัง และได้ส่งเข้าประกวดในงานมะขามหวานประจำปีของจังหวัดเพชรบูรณ์ และคว้ารางวัลที่ 1 มาได้ แม้จะส่งเป็นปีแรกก็ตาม

สำหรับชื่อพันธุ์ประกายทองนั้น มาจากทางราชการต้องการให้ตั้งชื่อเป็นมาตรฐาน เพื่อส่งเข้าประกวด เดิมทีเตี่ยตั้งชื่อว่า “กลายทอง”เนื่องจากเป็นมะขามหวานที่มีเนื้อคล้ายสีทองคำ แต่เจ้าหน้าที่แนะนำว่าไม่เพราะจึงได้เปลี่ยนมาเป็น “ประกายทอง” มาจนถึงปัจจุบันนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนมากจะเรียกกันติดปากว่า “พันธุ์ตาแป๊ะ”

จากนั้นได้มีการขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่งพันธุ์ ในปีแรกขยายเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย รวมทั้งชาวบ้านในหมู่บ้านมาขอกิ่งพันธุ์ไปปลูก เตี่ยก็ให้ไป จึงทำให้ชาวบ้านมีรายได้จากการขยายกิ่งพันธุ์ และขายมะขามหวาน โดยในปีแรก ๆ ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 600 – 700 บาท ทำให้ชาวบ้านมีรายได้ ลืมตาอ้าปาก สร้างฐานะมาจวบจนปัจจุบัน และในทุกวันที่ 14 มกราคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่เตี่ยเสียชีวิต ลูกๆและชาวบ้านจะจัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เตี่ยและอุทิศให้เทวดาที่ปกปักรักษาต้นมะขามหวานพันธุ์ประกายทองต้นแรก มีอายุยืนยาวมาจนถึงปัจจุบัน ประมาณ 50 ปีแล้ว

สำหรับมะขามหวานพันธุ์ประกายทองนั้น จัดเป็นมะขามหวานสายพันธุ์เบา ลักษณะลำต้นผิวเปลือกออกสีน้ำตาล ผิวหยาบ ใบหนา เข้ม ปลายใบตัดหยัก ลักษณะฝักมีขนาดยาวใหญ่ค่อนข้างตรง กลม เปลือกฝักบาง ผิวเรียบเป็นสีน้ำตาล ในขณะที่สีเนื้อเป็นสีน้ำผึ้งออกทรายแดง และเนื้อหนาตกทราย รสหอมหวาน รกหุ้มเนื้อน้อย เมล็ดเล็ก

ด้าน นางสายลมเย็น สุดยอด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 บ้านโป่งตาเบ้า เปิดเผยว่า มะขามหวานพันธุ์ประกายทอง ได้สร้างรายได้ ทำให้เศรษฐกิจในหมู่บ้านดีขึ้นเป็นอย่างมาก ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น เมื่อก่อนมะขามหวานพันธุ์ตาแป๊ะ มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 700 บาท และถึงแม้ปัจจุบันราคาก็ยังสูงกว่าพันธุ์อื่นๆ ซึ่งหากคำนวณมูลค่าที่ได้ขายทั้งต้นพันธุ์และฝัก ทำรายได้เข้าจังหวัดนับหลายพันล้านบาทเลยทีเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับตาแป๊ะและเทพยดาเทพาอารักษ์ที่ปกปักรักษาต้นมะขามหวานพันธุ์ประกายทองต้นแรกนั้น ญาติๆ ได้นำธูปเสี่ยงทายมาจุดเพื่อขอโชคลาภจากตาแป๊ะและเทพาอารักษ์ปรากฎว่า เป็นที่ฮือฮามากเพราะเลขที่ได้คือ 413 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ตรงกับวันที่ตาแป๊ะเสียชีวิตคือวันที่ 14

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ ฮือฮา เลขธูปงานทำบุญให้ "ตาแป๊ะเจียง" วีรบุรุษมะขามหวาน ตรงกับเลขวันที่เสียชีวิต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook