นักศึกษารัฐอินดีแอนา ถูกสาวใหญ่แทงศีรษะสาหัส เผยไม่ชอบคนเอเชีย
นักศึกษาวัย 18 ปี ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในรัฐอินดีแอนา ของสหรัฐ ถูกแทงศีรษะ ขณะโดยสารรถเมล์ในเมืองบลูมิงตัน รัฐอินดีแอนา เมื่อวันพุธที่แล้ว
ตำรวจเมืองบลูมิงตันเผยว่า ขณะที่หญิงรายนี้กำลังรอประตูรถเมล์เปิดเมื่อเวลา 16.45 น. ของวันเกิดเหตุตามเวลาท้องถิ่น ก็ถูกแทงศีรษะหลายครั้ง และหลังจากเกิดเหตุ ผู้โดยสารคนหนึ่งก็เดินตามผู้ต้องสงสัยไป และช่วยตำรวจจักบุม ซึ่งต่อมาทราบชื่อผู้ต้องสงสัยว่า นางบิลลี่ อาร์. เดวิส วัย 56 ปี ชาวเมืองบลูมิงตัน
เอกสารที่ยื่นฟ้องศาลระบุว่า ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า, ทำร้ายร่างกายโดยมีเหตุฉกรรจ์ และทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธ แก่นางเดวิส
ตำรวจเผยอีกว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดจากรถเมล์คันดังกล่าว พบว่าเหยื่อและผู้ต้องสงสัยไม่รู้จักกันและไม่ได้คุยหรือมีปากเสียงกันก่อนเกิดเหตุเลย และระหว่างให้ปากคำกับตำรวจ นางเดวิสเผยว่าทำร้ายนักศึกษาคนนั้นเพราะ "เป็นคนจีน"
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่รีบนำตัวนักศึกษาคนนี้ไปยังโรงพยาบาล แต่ยังไม่มีรายงานออกมาว่าสภาพล่าสุดเป็นอย่างไร
นายจอห์น แฮมิลตัน นายกเทศมนตรีเมืองบลูมิงตัน ออกแถลงการณ์ระบุว่า เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงมาก
"นี่เป็นพฤติกรรมที่รับไม่ได้ และจะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด" นายแฮมิลตัน ระบุ
"เรารู้ว่าเมื่อเกิดเหตุที่มีแรงจูงใจจากการเกลียดชังกันเพราะเชื้อชาติในชุมชนของเรา มันทำให้เรารู้สึกปลอดภัยน้อยลง แต่เราจะยืนหยัดอยู่ข้างชุมชนชาวเอเชียและทุกคนที่รู้สึกไม่ปลอดภัยจากเหตุการณ์นี้"
การก่อเหตุนี้เกิดขึ้นท่ามกลางอัตราอาชญากรรมต่อคนเชื้อสายเอเชียที่พุ่งสูงขึ้นในสหรัฐ โดยเฉพาะหลังจากการระบาดของโรคโควิด-19