วงจรปิดวินาทีรถตู้ชนราวเหล็กข้างทาง ไฟลุกท่วมในเสี้ยววินาที ดับ 11 ศพ รอดคนเดียว

วงจรปิดวินาทีรถตู้ชนราวเหล็กข้างทาง ไฟลุกท่วมในเสี้ยววินาที ดับ 11 ศพ รอดคนเดียว

วงจรปิดวินาทีรถตู้ชนราวเหล็กข้างทาง ไฟลุกท่วมในเสี้ยววินาที ดับ 11 ศพ รอดคนเดียว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วงจรปิดวินาทีรถตู้ชนราวเหล็กข้างทาง ไฟลุกท่วมในเสี้ยววินาที ดับ 11 ศพ รอดคนเดียว

จากกรณีอุบัติเหตุเมื่อเวลา 21.30 น. วานนี้ (21 มกราคม 2566) รถตู้โดยสารเสียหลักพุ่งชนราวเหล็กกั้นทางเกาะกลางถนนมิตรภาพ ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ช่วงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 100 – 99 บ้านมอจะบก ตำบลมิตรภาพ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา จนเกิดไฟลุกไหม้ท่วมรถตู้ทั้งคัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอก 11 ราย และมีผู้รอดชีวิตหวุดหวิดคลานหนีออกมาจากรถได้ทันอีก 1 ราย ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด บ่ายวันนี้ (22 มกราคม 2566) ผู้สื่อข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิด หน้าอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งบันทึกภาพเหตุการณ์นี้ไว้ได้ โดยพบว่าคืนวันที่ 21 ม.ค.66 ถนนมิตรภาพจุดเกิดเหตุ มีรถวิ่งผ่านไปมาตามปกติ โดยส่วนใหญ่จะวิ่งเร็วมาก ต่อมา เวลา 22.23 น. ก็ได้มีรถตู้วิ่งมาด้วยความเร็วสูง และพุ่งชนราวเหล็กกั้นเกาะกลางถนน ในเสี้ยววินาทีก็เกิดไฟลุกท่วมอย่างรวดเร็วและรุนแรง เปลวไฟพุ่งกระจายไปทั่วบริเวณเกาะกลางถนน ชาวบ้านที่อยู่บริเวณข้างทางต่างตื่นตกใจและพากันวิ่งเอาถังไปตักน้ำ เพื่อที่จะพยายามข้ามถนนไปช่วยดับไฟ แต่รถที่วิ่งผ่านไปมากลางถนน ประกอบกับเปลวไฟที่ลุกไหม้น่ากลัว ทำให้ไม่มีใครกล้าข้ามถนนไปช่วย

ขณะเดียวกันเพียงไม่กี่วินาที ก็พบชายหนุ่มที่รอดชีวิต วิ่งออกมาจากรถตู้ และวิ่งไปวิ่งมา เหมือนจะพยายามช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในรถ แต่ด้วยความที่เปลวไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง ทำให้คนในรถตู้ทั้ง 11 ราย ถูกไฟคลอกทั้งเป็นเสียชีวิตทั้งหมดอย่างสยดสยอง

โดยนายนิคม อายุ 50 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา จุดสีคิ้ว ที่พักอยู่ในอู่ซ่อมรถใกล้จุดเกิดเหตุ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุ ตนเองได้ยินเสียงรถวิ่งมาด้วยความเร็ว และชนเข้ากับราวเหล็กกั้นข้างทางก่อนตกลงไปในร่องกลางถนน ตนเองจึงได้วิ่งออกไปดูก็พบว่ามีเปลวไฟกำลังโหมลุกท่วมตัวรถในระยะเวลาเพียงเสี้ยววินาที ซึ่งตนได้นำถังดับเพลิงไปพ่นแล้ว ก็ยังไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลืออะไรได้เลย เพราะไฟลุกไหม้รุนแรงมาก หลังจากนั้นก็เกิดระเบิดขึ้น 3-4 ครั้ง ยิ่งส่งผลให้ไฟโหมแรงมากยิ่งขึ้นอีก จึงได้ประสานรถดับเพลิง และสำนักงานใหญ่กู้ภัยฮุก 31 ให้เข้ามาช่วยเหลือ

ส่วนผู้รอดชีวิต 1 ราย วิ่งเข้ามาที่อู่ จึงได้ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ช่วงเวลาเกิดเหตุรถบนท้องถนนนั้นไม่มากนัก โดยบริเวณนี้ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุไปแล้วถึง 3 ครั้ง ก่อนที่จะมาเกิดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ซึ่งถือว่าเป็นอุบัติเหตุใหญ่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 11 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ สภ.สีคิ้ว ยังคงมีญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทยอยเดินทางมา เพื่อตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวบุคคลพร้อมมารับสิ่งของๆ ผู้เสียชีวิต ซึ่งบรรดาญาติของผู้เสียชีวิตได้มายืนมองดูซากรถตู้ที่ถูกเผาจนเป็นตอตะโกด้วยอาการที่เศร้าโศกเสียใจ พร้อมกับค้นหาสิ่งของของผู้เสียชีวิตที่ยังคงหลงเหลืออยู่ภายในรถ ซึ่งมีทั้งข้าวสาร หมูยอ แหนม ผักผลไม้ต่างๆ ที่ยังเหลือรอดจากการถูกไฟเผา เนื่องจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานระบุว่ารถตู้คันนี้ติดตั้งแก๊ส NGV จึงทำให้เกิดการระเบิดและไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนผู้โดยสารทุกคนหนีออกมาไม่ทัน

โดยที่ญาติของผู้เสียชีวิตรายหนึ่งได้เดินทางมาจากจังหวัดปทุมธานีเพื่อที่จะมาติดต่อขอรับศพภรรยาและลูกสาววัย 7 ขวบ ที่โดยสารมากับรถตู้ที่เกิดเหตุ แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะผู้เสียชีวิตทั้งหมด จะต้องส่งไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อตรวจดีเอ็นเอยืนยันระบุตัวบุคคลก่อน วันนี้จึงได้กลับไปเพียงของใช้ส่วนตัวของภรรยากับลูกสาวที่ยังคงเหลืออยู่ ซึ่งมีทั้งกระเป๋าเงินและโทรศัพท์มือถือของภรรยา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook