ลูกสาวผู้ตายค้นหาสิ่งของ บนซากรถตู้ 11 ศพ ร่ำไห้เจอเสื้อตัวโปรดของพ่อ ไม่ถูกไฟไหม้
ลูกสาวร่ำไห้เจอเสื้อตัวโปรดของพ่อ ที่ตั้งใจเอามาใส่ให้ตอนรับศพ แต่หาที่บ้านไม่เจอ ที่แท้พ่อเอามาด้วยและยังไม่ถูกไฟไหม้
วันนี้ (22 ม.ค.66) จากกรณีอุบัติเหตุเมื่อเวลา 21.30 น. วานนี้ (21 มกราคม 2566) รถตู้โดยสารเสียหลักพุ่งชนราวเหล็กกั้นทางเกาะกลางถนนมิตรภาพ ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ช่วงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 100 – 99 บ้านมอจะบก ตำบลมิตรภาพ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา จนเกิดไฟลุกไหม้ท่วมรถตู้ทั้งคัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอก 11 ราย และมีผู้รอดชีวิตหวุดหวิดคลานหนีออกมาจากรถได้ทันอีก 1 ราย ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (22 ม.ค.66) เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่จากสำนักวิศวกรรมยานยนต์ กรมขนส่งทางบกได้ลงพื้นที่ตรวจสอบซากรถตู้คันที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ จนทำให้เกิดเพลิงไหม้จนมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 11 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ารถตู้คันดังกล่าวนั้นเป็นรถตู้โดยสารที่ทำการติดตั้งระบบแก๊ส CNG ทั้งหมด 3 ถัง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าถังแก๊สดังกล่าวไม่มีความผิดปกติไม่มีรอยแตกร้าว นอกจากนี้รถตู้คันที่เกิดเหตุยังผ่านการตรวจสอบสภาพมาแล้วก่อนที่จะต่อทะเบียนรถ พร้อมกับมีใบรับรองการติดตั้งแก๊สจากวิศวกรแล้วเรียบร้อย ซึ่งการลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้ทางกรมขนส่งทางบกจะนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์พร้อมกับวางมาตรการในการป้องกันเพื่อไม่เกิดเหตุซ้ำรอยกับเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก
ขณะที่ สภ.สีคิ้ว ยังคงมีญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมาอย่างต่อเนื่องโดยล่าสุดญาติของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาครบทั้งหมด 11 รายแล้ว พร้อมกับค้นหาสิ่งของของผู้เสียชีวิตที่ยังคงหลงเหลืออยู่ภายในรถ ซึ่งมีทั้งข้าวสาร หมูยอ แหนม ผักผลไม้ต่างๆ ที่ยังเหลือรอดจากการถูกไฟเผา
โดยขณะที่ครอบครัวของ นายวีรชัย หนึ่งผู้เสียชีวิตที่โดยสารมากับรถตู้ที่เกิดเหตุ เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรสีคิ้ว เพื่อยื่นเอกสารระบุตัวตนของผู้เสียชีวิต โดยลูกสาวของผู้เสียชีวิตได้ไปที่ซากรถและพบกระเป๋าของพ่อ ซึ่งลูกของผู้เสียชีวิต บอกว่า กระเป๋าใบนี้เป็นกระเป๋าใบโปรดของพ่อที่ต้องพกติดตัวตลอดเวลาไปทำงานและเมื่อพบกระเป๋าของพ่อได้ร้องไห้เสียใจอย่างหนักและในกระเป๋ายังพบตลับใส่ทองซึ่งภายในไม่พบทองคาดว่าพ่อน่าจะใส่ติดตัวเอาไว้ขณะเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งทองนั้นมีน้ำหนัก 1 บาท และพระเลี่ยมทองอีก 3-4 องค์
นอกจากนี้ภายในกระเป๋ายังพบกับเสื้อตัวโปรดของพ่อที่จะชอบใส่เป็นประจำ ซึ่งเป็นเสื้อสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด และตนก็ตั้งใจว่าจะเอาเสื้อตัวนี้มาใส่ให้พ่อตอนนำศพกลับแต่พยายามหาแล้ว และมาทราบทีหลังว่าพ่อนำติดตัวมาด้วย ซึ่งลูกสาวของผู้เสียชีวิตยังบอกอีกว่า ตนได้มาส่งพ่อขึ้นรถทัวร์เพื่อเดินทางไปงานที่จังหวัดอุบลราชธานี และไม่ทราบว่าตอนเดินทางกลับพ่อจะเดินทางกลับด้วยรถอะไร เพราะปกติพ่อจะใช้รถส่วนตัวในการเดินทางตลอดและระหว่างเดินทางพ่อได้โทรมาบอกตนอยู่ตลอดว่าถึงไหนแล้ว แต่ตนไม่ทราบเลยว่าพ่อเกิดอุบัติเหตุในช่วงกลางคืนเพิ่งมาทราบตอนเช้าอีกวันจึงรีบเดินทางมาเพื่อที่จะนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนา