ครูบาไก่ ยอมรับเล่นบานานาโบ๊ต แต่ความผิดไม่ถึงขั้นสึก แจ้งความเอาผิด อิคคิว-บุ๋ม เพิ่มอีก

ครูบาไก่ ยอมรับเล่นบานานาโบ๊ต แต่ความผิดไม่ถึงขั้นสึก แจ้งความเอาผิด อิคคิว-บุ๋ม เพิ่มอีก

ครูบาไก่ ยอมรับเล่นบานานาโบ๊ต แต่ความผิดไม่ถึงขั้นสึก แจ้งความเอาผิด อิคคิว-บุ๋ม เพิ่มอีก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ครูบาไก่ ยอมรับเล่นบานานาโบ๊ตจริง แต่ความผิดไม่ถึงขั้นต้องสึก มอบหมายทนายธรรมราช แจ้งความเอาผิด อิคคิว-บุ๋ม เพิ่มอีก

(28 ม.ค. 66) ที่วัดป่าปฐมเทวาราม บ้านป่าผุ ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ยังคงมีประชาชนเดินทางมากราบนมัสการพระอาจารย์สุวิทย์ ชินวโร หรือ ครูบาไก่ ประธานที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม อย่างไม่ขาดสาย ซึ่งพระครูบาก็หน้าตาสดใส พูดคุยกับสายบุญอย่างเป็นกันเองตามปกติ

ขณะเดียวกัน นายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความของครูบาไก่ เข้ามาพบครูบาไก่ด้วย โดยได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า หลังจากเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ นางสาวคมคาย หรือ บุ๋ม อายุ 43 ปี นางสาววาสนา หรือ อิคคิว  อายุ 33 ปี นายชำนาญ อายุ 36 ปี นายธัญญบูรณ์ อายุ 28 ปี รวม 4 คน ไปแล้วเมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งแรก ขณะนี้อิคคิวและบุ๋มก็ยังไม่หยุด ยังร้องเรียนกับหน่วยงายต่างๆ อย่างไม่สิ้นสุด รวมถึงเอาหลักฐานอันเป็นเท็จ ทั้งกรณีตอกเสาเข็ม มากล่าวหาว่าเป็นครูบาไก่ จนมีคนต่างชาติมายอมรับว่าไม่ใช่ครูบาไก่ ทำให้เห็นว่า ทั้งสองคนมีเจตนาที่จะทำลายครูบาไก่ ด้วยหลักฐานที่เป็นเท็จ จึงจะรวบรวมหลักฐานต่างๆ ที่ทั้งสองคนยื่นตามหน่วยงานที่ทำให้ครูบาไก่เสื่อมเสีย หลักฐานเหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่ขึ้นต่างกรรม ต่างวาระ จะได้นำเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.มัญจาคีรี ให้มีการสอบสวน ดำเนินคดีกับอิคคิวและพวกตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ส่วนคลิปเล่นบานาน่าโบ๊ตนั้น เป็นวันเดียวกับวันที่นั่งเจ็ตสกี สอบถามครูบาไก่แล้ว ครูบาก็ตอบแล้วว่า เป็นเรื่องไม่เหมาะสม คณะสงฆ์คงจะดำเนินการตำหนิหรือให้เข้ากรรมเพื่อปลงอาบัติ

ในขณะเดียวกันก็ได้รวบรวมหลักฐานทางโซเชียลที่เกี่ยวข้องกีบอิคคิวและบุ๋ม ที่มีความร่ำรวยผิดปกติ โดยเฉพาะในช่วงที่เข้ามาอาศัยอยู่ในวัด ที่มีการซื้อรถสปอร์ตป้ายแดง และสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 100 บาท ว่า เอาเงินมาจากไหน โดยได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ จากเฟซบุ๊กส่วนตัวของทั้งสองคนเป็นเข้าร้องเรียนต่อ ปปง. ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของทั้งสองคนแล้วเมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา

ทนายความ กล่าวอีกว่า การเดินทางมาที่วัดครั้งนี้ก็ได้สอบถามรายละเอียด การสร้างศาลาที่ตั้งท้าวเวสสุวรรณ หรือศาลาวาสนามหามงคล และการสร้างท้าวเวสสุวรรณ ที่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จจากครูบาไก่ ซึ่งทราบว่า วัดยกที่ดิน 4 ไร่ให้ก่อสร้างศาลา โดยมีอิคคิวเป็นเจ้าภาพและรับบริจาคทางโซเชียลให้ประชาชนมาร่วมทำบุญ โดยโอนเงินทำบุญเข้าบัญชีส่วนตัว ซึ่งวัดไม่เกี่ยวข้องด้วย และอิคคิวยังเป็นฝ่ายทำสัญญาจ้างผู้รับเหมา มาก่อสร้างศาลาด้วยตัวเอง สร้างท้าวเวสสุวรรณก็เช่นกัน ซึ่งจากการสอบถามจากผู้รับเหมสร้างศาลาที่ตั้งท้าวเวสสุวรรณนั้น ทำสัญญาจ้าวด้วยงบประมาณสามล้านบาท แบ่งจ่ายเป็นสี่งวด งวดละ 330,000 บาท แต่จ่ายเงินให้ผู้รับเหมาเพียง 200,000 บาทเท่านั้น ทั้งที่ผู้รับเหมาทำงานครบสี่งวดแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook