อินเดีย ผงาด เมืองหลวง รถเล็ก

อินเดีย แหล่งผลิตรถยนต์ นาโน ของทาทา มอเตอร์ ที่คันละ 2,500 ดอลลาร์ กำลังกลายเป็นเมืองหลวงของรถยนต์อีโคคาร์คันเล็ก กะทัดรัดรุ่นใหม่

ที่บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำพาเหรดเข้าไปในตลาด ที่มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดแห่งนี้ ในอีก 18 เดือนข้างหน้า ฮอนด้า โตโยต้า ฟอร์ด เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และนิสสัน-เรโนลต์ ต่างเปิดตัวรถคอมแพคคาร์ ในอินเดียกันถ้วนหน้า หวังอาศัยอินเดียเป็นฐานการผลิตและส่งออกรถยนต์ราคาถูก กินน้ำมันน้อย ไปขายในตลาดต่างๆ ทั่วโลก

ยอดขายรถยนต์ในซีกโลกตะวันตกที่ทรุดลงอย่าง หนักในปีนี้ ทำให้ค่ายรถยนต์ต่างๆ หันไปให้ความสำคัญในการทำตลาด ในประเทศกำลังพัฒนามากขึ้น อาทิเช่น จีนและอินเดีย ซึ่งแทบไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย และยังเป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

นายดิลิป เชนอย ผู้อำนวยการสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์แห่งอินเดีย กล่าวว่า ในปีนี้ จีนจะแซงหน้าสหรัฐขึ้นมาเป็นตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดของโลก ส่วนอินเดียก็จะกลายเป็นตลาดใหญ่ที่สุดสำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก โดยรถยนต์ 4 คันจาก 5 คันที่จำหน่ายในอินเดีย ล้วนเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก ใช้เครื่องยนต์ขนาดต่ำกว่า 1.2 ลิตร และอินเดียยังแซงหน้าญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแชมป์ที่มียอดขายรถยนต์ขนาดเล็กอันดับหนึ่งของโลกในปี 2550 เป็นครั้งแรก

ข้อมูลของ เจ.ดี.พาวเวอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ ระบุว่า ยอดขายรถยนต์พื้นฐาน หรือรถยนต์นั่งโดยสารขนาดเล็กที่สุดในอินเดียปีนี้ มีจำนวนกว่า 892,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านี้ 14% และแซงหน้าญี่ปุ่น ที่คาดการณ์ว่ายอดขายรถประเภทเดียวกันในปีนี้ จะอยู่ที่ 708,034 คัน

ตลาดรถยนต์อินเดีย แตกต่างจากตลาดรถยนต์ในจีนและรัสเซีย หรือแม้แต่บราซิล ซึ่งผู้บริโภคนิยมเป็นเจ้าของรถยนต์หลากหลายขนาด คละเคล้ากันไป ตั้งแต่รถพื้นฐานไปจนถึงรถยนต์หรูหรา แต่ผู้บริโภคชาวอินเดียชอบใช้รถยนต์ขนาดเล็ก ราคาถูก ที่สามารถซื้อหามาเป็นเจ้าของได้ มากกว่า

รถยนต์ยี่ห้อซูซูกิ ในอินเดีย ครองส่วนแบ่งตลาดมากสุดในขณะนี้ ด้วยสัดส่วน 46% ตามมาด้วยรถยนต์จากค่ายฮุนได 16.5% และทาทา มอเตอร์ ที่ 14% แต่ในอนาคตอันใกล้ ตัวเลขสัดส่วนนี้อาจเปลี่ยนไป เนื่องจากมีผู้เล่นรายอื่นๆ เข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา โฟลค์สวาเก้น ประกาศโครงการผลิตรถคอมแพค คาร์ รุ่นแรกในอินเดียชื่อรุ่น "โปโล" ผลิตที่เมืองชากัน ห่างจากมุมไบไป 175 กิโลเมตร

นอกจากนี้ อินเดียยังเป็นตลาดอันดับต้นๆ ในแผนจำหน่ายรถยนต์ขนาดเล็กทั่วโลกของฮอนด้า มอเตอร์ โดยเฉพาะรถรุ่น "2 ซีวี" ซึ่งบริษัทจะเริ่มจำหน่ายภายในปลายปี 2554 ส่วนจีเอ็ม ที่กำลังดิ้นรนเอาตัวรอดอย่างหนัก ก็เริ่มผลิตรถ "เชฟโรเลต สปาร์ค" รถยนต์ขนาดเล็กในแดนภารตะมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และมีแผนเปิดตัวรถคอมแพคคาร์รุ่นอื่นๆ อาทิเช่น "เชฟโรเลต บีท" ในช่วงครึ่งแรกของปี 2553

ขณะที่นายอลัน มูลัลลี หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ฟอร์ด มอเตอร์ส ได้เปิดตัวรถแฮทช์แบคสี่ประตูรุ่น "ฟิโก้" ผลิตในอินเดีย โดยเปิดตัวในกรุงนิว เดลี ไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ส่วนรถยนต์รุ่น "ไมครา" จากค่ายนิสสันจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในอินเดียเดือนพฤษภาคม และเรโนลต์ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับบาจัจ ออโต ค่ายรถยนต์ชั้นนำของอินเดีย กำลังอยู่ระหว่างพัฒนารถยนต์ราคาถูกของตนเอง ที่ใช้ชิ้นส่วนบางอย่างจากรถจักรยานยนต์มาเป็นส่วนประกอบ เพื่อประหยัดต้นทุนการผลิต

รายงานของดีลอยต์ ระบุว่า เมื่อพิจารณาภาพรวมของขนาดตลาด อินเดียยังถือเป็นตลาดรถยนต์ขนาดค่อนข้างเล็ก เมื่อเทียบกับจีน โดยอินเดียมียอดขายรถประมาณ 1.8 ล้านคันต่อปี เทียบกับจีนที่มียอดขายอยู่ที่ 6 ล้านคันต่อปี แต่เศรษฐกิจของอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก มีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยประมาณ 7% ถือว่าโอกาสในการทำตลาดรถยนต์ในดินแดนแห่งนี้ยังเปิดกว้าง ขณะที่ชาวอินเดียทุกๆ 1,000 คนมีที่เป็นเจ้าของรถยนต์เพียง 11 คนเท่านั้น เทียบกับในอังกฤษ 511 คัน และในจีน 22 คัน