ไทยลีกยอมงด กฎนักเตะนอก ยังใช้ของเดิม

ไทยลีกยอมงอ กลับไปใช้ระเบียบแข้งต่างชาติเดิม ขณะที่ มังกรไฟ บีอีซี เทโรศาสน เร่งเครื่องแซง ฉลามไชโย ชลบุรี 2-1 คว้าอันดับ 2 ศึกลูกหนังซูเปอร์คัพ 2009 ที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลซูเปอร์คัพ 2009 ที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นนัดสุดท้าย "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน ที่แพ้ บางกอกกล๊าส 2-3, ชนะ เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด 2-1 พบ "ฉลามไชโย" ชลบุรี ที่ชนะ เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด 2-1, แพ้ บางกอกกล๊าส 1-2 คู่นี้มีความหมายในการแย่งรองแชมป์ที่มีเงินรางวัล 400,000 บาท โดยที่แข้งจากภาคตะวันออกต้องการชนะเท่านั้น เพราะลูกได้-เสียเป็นรอง

เริ่มเกมครึ่งแรก ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนทำให้ทั้งคู่ไม่กล้าเร่งกันมาก และเป็นฝ่ายบีอีซี เทโรศาสน ที่ครองบอลได้เหนือกว่าเล็กน้อย ก่อนที่จะมีโอกาสทำประตู ทั้ง ไมเคิล เบิร์น ของชลบุรี ลองส่องไกล ให้ อินทรัตน์ อภิญญากุล ของมังกรไฟออกแรง และวุฒิชัย ทาทอง ได้ยิงให้ สุจินต์ นาคนายม ของฉลามชลผวาเซฟ ผ่านถึงนาที 33 ชลบุรี ได้ประตูนำ 1-0 เมื่อ เจษฎากร เหมแดง ทุ่มจากริมเส้นด้านขวาให้ คนึง บุราณสุข พลิกยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งวาบมุดเสาไกลเหลือเชื่อ หมดครึ่งแรก ชลบุรี นำ 1-0

ในช่วงพักการแข่งขัน ชลบุรี เปิดตัว 5 นักเตะใหม่อย่างเป็นทางการ ประกอบด้วย เทิดศักดิ์ ใจมั่น ย้ายมาจากสิงคโปร์ อาร์มฟอร์ซ, อรรถพงษ์ หนูพรหม จากศรีราชา, ศุภเสกข์ ไก่แก้ว จากแบงค็อก ยูไนเต็ด และนพนนท์ คชพลายุกต์ กับ ภูริทัต จาริกานนท์ จากการบินไทย-บ้านบึง

ครึ่งหลัง กลับมาเล่นแค่ 5 นาที บีอีซี เทโรศาสน ไล่ตีเสมอสำเร็จจากลูกยิงเหนือความคาดหมาย นพพล ปิตะฝ่าย แบ็กซ้ายกระชากขึ้นริมเส้นตวัดเปิดหมายให้เพื่อนหน้าประตู แต่บอลปลิ้นหลังเท้ากลายเป็นดีหมุนเสียบตาข่าย 1-1 จากนั้นชลบุรี มีโอกาสหนีขึ้นนำอีก 2 ครั้ง ศุภเสกข์ กลับตัวยิงหน้าเขตโทษถากเสาออกไปนิดเดียว ในนาทีที่ 58 อีก 2 นาทีต่อมา คนึง ได้ยิงในกรอบด้านขวาผ่านปากประตูออกเสาไกลอีกหน นาทีที่ 65 กลายเป็นมังกรไฟแซงขึ้นหน้า จากลูกโทษนอกกรอบ มาริโอ เนโต้ ปั่นลอดกำแพง สุจินต์ หมดสิทธิ์เซฟ 2-1 นาทีที่ 70 ธฤติ โนนศรีชัย กองหลังตัวสุดท้ายบีอีซี เทโรศาสน จับบอลพลาด ญอง มาร์ค บีนี หลุดเดี่ยวแต่ยิงติดเซฟอินทรัตน์ และเป็นโอกาสสุดท้าย เพราะหลังจากเป็นมังกรไฟ ที่มีจังหวะปิดเกมดีกว่า แต่ไม่อาจทำเพิ่มได้หมดเวลา บีอีซี เทโรศาสน ชนะ 2-1 คว้าอันดับ 2 พร้อมเงินรางวัล 400,000 บาท ส่วนชลบุรี ได้อันดับ 3 รับไป 300,000 บาท

ส่วน อีกคู่ บางกอกกล๊าส ขนเด็กลงเล่น เจอกับ เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด ซึ่งไม่มีผลต่ออันดับ เพราะกระต่ายแก้วซิวแชมป์พร้อมเงิน 600,000 บาทไปแล้ว ส่วนกิเลนผยองได้บ๊วย รับเงิน 200,000 บาท

ไทยลีกยอมถอยยึด 3+1
ส่วนกรณีระเบียบการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ที่ก่อนหน้าบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ระบุจะเพิ่มโควตานักเตะต่างชาติจากเดิม 3+1 เป็นส่งชื่อได้ 7 คน ลงสนามได้คราวเดียวกัน 5 คน จนทำให้ 11 สโมสรลงนามร่วมกันคัดค้านนั้น

ล่าสุดการประชุมของคณะทำงานการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่โรงแรมเรดิสัน มีนายสามารถ มะลูลีม เป็นประธาน พร้อมด้วย นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคม ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด

โดยหลังการประชุม นายองอาจ เปิดเผยว่า ประเด็นสำคัญคือเรื่องของการเพิ่มโควตานักเตะต่างชาติ เนื่องจากมีสโมสรในไทยพรีเมียร์ลีกต้องการให้เพิ่มนักเตะต่างประเทศ โดยส่งได้ 7 คน ลงสนามได้ 5 คน แต่มีหลายสโมสรต้องการให้คงโควตาเดิมไว้ ซึ่งที่ประชุมได้กล่าวถึงข้อดีว่า น่าจะทำให้เกมดูสนุก แต่มีข้อเสียคือ หากแต่ละทีมเอากองหน้าเข้ามา อาจทำให้กองหน้าทีมชาติไทยมีปัญหา เพราะนักเตะไทยไม่มีโอกาสเล่น หรือแม้แต่ตำแหน่งอื่นๆ ดังนั้นเพื่อให้นักเตะไทยมีโอกาสพัฒนาฝีเท้าต่อเนื่องจึงมีมติให้กลับไปใช้ ระเบียบเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาคือ ส่งรายชื่อได้ 5 คน ลงสนามได้ 3 คน แต่สามารถบวกเพิ่มโควตานักเตะเอเชียได้อีก 1 คนเช่นเดิม