กล้องติดหมวกตำรวจ สน.ห้วยขวาง คดีรีดเงิน ไม่ได้ลบภาพ แต่ "ฮาร์ดดิสก์" ถูกทำลาย
กล้องติดหมวกตำรวจ สน.ห้วยขวาง คดีรีดเงินดาราไต้หวัน ไม่ได้ลบภาพ แต่ "ฮาร์ดดิสก์" ถูกทำลาย ยังดีกู้ภาพกลับคืนมาได้
พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เรียกประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และชุดคลี่คลายคดีดาราสาวไต้หวัน ถูกตำรวจไทยเรียกรับเงิน เพื่อติดตามความคืบหน้าการขยายผลตรวจสอบในประเด็นต่าง ๆ ก่อนจะเปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจากกองพิสูจน์หลักฐานว่า สามารถกู้ภาพจากกล้องติดหมวกตำรวจที่ไปปฏิบัติหน้าที่ในคืนวันเกิดเหตุได้แล้ว 3 ตัว
จากการตรวจสอบยืนยันว่า ภาพไม่ได้ถูกลบ หรือถูกอัดทับ แต่กลายเป็นว่า "ฮาร์ดดิสก์" หรือพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของกล้อง ถูกทำลาย จึงต้องใช้เทคนิคพิเศษในการกู้ภาพกลับมา ซึ่งยืนยันว่าพบภาพที่ถูกบันทึกไว้หลายชั่วโมง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า มีภาพขณะที่เกิดเหตุ หรือเห็นเหตุการณ์ขณะเรียกรับเงินหรือไม่ เบื้องต้น คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง อยู่ระหว่างการนำภาพที่กู้คืนมาได้ไปตรวจสอบ หากพบลักษณะที่ชี้ให้เห็นได้ว่าเป็นการกระทำผิดจริง ก็จะนำเข้าสู่สำนวนคดีต่อไป
ด้าน พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ส่วนที่ฝ่ายสืบสวนกำลังดำเนินการตรวจสอบ คือ การหาความเชื่อมโยงกับผู้ต้องสงสัยรายอื่น ๆ ซึ่งอาจมีรายที่ 7 และ 8 รวมถึงการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของตำรวจ สน.ห้วยขวาง ทั้ง 14 นาย ที่ปฏิบัติหน้าที่ในเวลานั้นทั้งหมด มาตรวจสอบเพื่อดูความผิดปกติ ซึ่งเบื้องต้นยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่า ตรวจสอบพบสิ่งใดหรือไม่ แต่ยืนยันได้ว่าหากผู้ต้องหามีการทำบางสิ่งบางอย่างที่คาดเดาไว้จริง จะยืนยันพฤติการณ์ "ร่วมกัน" ของกลุ่มผู้ต้องหาได้ทันที
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า ‘สกาย’ ชาวสิงค์โปร์ที่เป็นผู้จ่ายเงิน 27,000 บาท ให้การยืนยันว่า วันนั้นได้จ่ายเงินเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 27 ใบ ให้กับตำรวจที่ไม่สวมใส่เครื่องแบบ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพวงจรปิด เพื่อติดตามว่าเงินจำนวนดังกล่าวว่า ถูกส่งต่อไปอยู่ที่ผู้ใดความรู้สึกทั้งหมด