จับผู้ช่วยผู้จัดการธนาคาร แอบถอนเงินยายวัย 80 ปี สูญกว่า 2 ล้านบาท

จับผู้ช่วยผู้จัดการธนาคาร แอบถอนเงินยายวัย 80 ปี สูญกว่า 2 ล้านบาท

จับผู้ช่วยผู้จัดการธนาคาร แอบถอนเงินยายวัย 80 ปี สูญกว่า 2 ล้านบาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กองปราบ จับ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารแอบถอนเงินยายวัย 80 ปี สูญกว่า 2 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ประดิษฐ์ สุวรรณดี, พ.ต.ต.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.5 บก.ปอศ. พร้อมกำลังข้าราชการตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นายพรชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 104/2566 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ในความผิดฐาน “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง และเป็นพนักงานของสถาบันการเงิน กระทำการหรือไม่กระทำการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อตนเองหรือผู้อื่น อันเป็นการเสียหายแก่สถาบันการเงิน” โดยจับกุมได้ที่บ้านพัก ถ.พุทธมณฑลสาย 3 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม.

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566 ได้มีตัวแทนของทางธนาคารแห่งหนึ่ง เดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. กรณีที่นางกมลฯ อายุ 80 ปี ซึ่งเป็นลูกค้าของทางธนาคาร เข้ามาร้องเรียนกับทางธนาคารว่า เงินในบัญชีหายไปเป็นจำนวน 2,000,000 บาท โดยจากการสืบสวนทราบว่า เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 นางกมลฯ ได้เดินทางไปที่ธนาคารย่านถนนประชาอุทิศ เพื่อทำการเปิดบัญชีออมทรัพย์ พร้อมทั้งได้สมัครบัตรเดบิต และถอนเงินเพื่อจะโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารที่เปิดใหม่และโอนไปยังบัญชีของบุตรชาย

โดยขณะทำธุรกรรม นายพรชัยฯ (ผู้ต้องหา) ซึ่งเป็นพนักงานธนาคารทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้จัดการคอยให้บริการกับลูกค้า ได้เข้ามาดูแล และช่วยทำธุรกรรมให้นางกมลฯ โดยได้มีการนำเอกสารมาให้นางกมลฯ ลงลายมือชื่อ จำนวน 2 ฉบับ โดยผู้ต้องหาได้แอบนำใบคำขอถอนเงินเขียนยอดเงินจำนวน 2,000,000 บาท มาให้นางกมลฯ ลงลายมือชื่อด้วย

จากนั้นได้ทำการถอนเงินออกจากบัญชีของนางกมลฯ จำนวน 2,000,000 บาท และนำสมุดบัญชี พร้อมบัตรเดบิตมามอบคืนให้กับผู้เสียหาย ต่อมานางกมลฯ ได้ตรวจพบว่าเงินในบัญชีของตนหายไป จำนวน 2,000,000 บาท จึงได้ร้องเรียนกับทางธนาคารว่าตนไม่เคยเบิกถอนเงินสดยอดดังกล่าวมาก่อนแต่อย่างใด

ต่อมา พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ได้ทำการรวบรวมพยานขออนุมัติหมายจับนายพรชัยฯ ในความผิดฐานดังกล่าว อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 334 (11) และพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน มาตรา 147 ประกอบมาตรา 145 จนกระทั่งวันที่ 3 ก.พ. 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๕ บก.ปอศ. จึงได้นำหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นและจับกุมนายพรชัยฯ และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการสอบถามนายพรชัยฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. กล่าวว่าในคดีนี้ผู้ก่อเหตุมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการธนาคาร โดยอาศัยความสนิทสนม และความไว้ใจของลูกค้า ฉวยโอกาสลงมือก่อเหตุ ซึ่งถึงแม้ว่าในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่จากการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีพยานหลักฐานชัดเจน ประกอบกับในคดีนี้เป็นความผิดที่มีอัตราโทษสูง และเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบทรัพย์สินต้องสงสัยจำนวนหลายรายการ น่าเชื่อว่าผู้ต้องหาอาจจะเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาก่อนหลายครั้ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook