"ชูวิทย์" แฉต่อ! อาบ อบ นวด หรู เคยถูกจับแล้วเปลี่ยนชื่อ ลอบเปิดมานานครึ่งเดือน

“ชูวิทย์” เผย อาบ อบ นวด หรู ย่านรัชดา เปลี่ยนชื่อเปิดใหม่ 2 แห่ง อ้างแค่ “ทดลอง”

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ใจความได้ว่า อาบ อบ นวด หรูย่าน ถ.รัชดา ที่มีเจ้าของคือนายกำพล หรือผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์เด็กสาวอายุต่ำกว่า 15 ปี ที่หนีคดีและมีหมายจับเมื่อหลายปีก่อน แต่ล่าสุดกลับมาเปลี่ยนชื่อสถานบริการ อาบ อบนวด 2 แห่ง ที่อยู่ใจกลาง ถ.รัชดา ซึ่งอาบ อบ นวด 2 แห่งนี้จริงแล้วควรถูกอายัดทรัพย์สินในคดีค้ามนุษย์ แต่ด้วยอำนาจเงิน ที่วิ่งเต้นผ่านหน่วยงานราชการรัฐ จึงไม่ถูกยึดและกลับมาใช้เปิดต่อเพื่อหากินในธุรกิจแบบเดิม

นายชูวิทย์ เผยอีกว่า วันก่อนตำรวจเข้าไปจับ 1 ใน อาบ อบ นวด ที่เปลี่ยนชื่อ ฐานเปิดโดยไมได้รับอนุญาต แต่ถูกอ้างว่าเป็นการทดลองใช้ยังไม่ได้เปิดบริการจริง ซึ่งพบแขก 1 คน กับหญิงสาว โดยอาบ อบ นวด แห่งนี้เคยเป็นของตนและขายต่อให้นายกำพล เมื่อ 20 ปี ก่อน ซึ่งแน่นอนว่าตนรู้ทางหลบทางหนีดีอยู่แล้ว เพราะมี กระแสทิพย์จากศาลเจ้าที่บอกตนว่าวันนั้นมีแขกเกือบ 10 คน อยู่ห้องสูท แต่รู้ว่าตำรวจมาจึงรีบหลบหนีไปก่อน และแน่นอนว่าการเปิดอาบ อบ นวด ต้องขออนุญาตให้ถูกต้องกับตำรวจท้องที่เสียก่อน ที่นี่ขึ้นกับ สน.สุทธิสาร ซึ่งผู้กำกับเพิ่งโดนย้ายหลังจบคดี “ตู้ห่าว” ส่วนอีกที่ก็เปิด “ทดลอง” อีกเหมือนกัน เปิดมาร่วมครึ่งเดือนแล้ว ขึ้นกับ สน.ห้วยขวาง ซึ่งผู้กำกับเพิ่งย้ายมา สดๆ ร้อนๆ จากหนองจอก อาจจะยังไม่รู้ แต่ขอเตือนว่าอย่าหากินกับธุรกิจแบบนี้

อย่างไรก็ตาม สน.สุธิสาร และ สน. ห้วยขวาง นั้น ขึ้นตรงกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลเจ้าเดิม หากเปิดจริงอาจมีการเพิ่มบัญชีจ่ายส่วยตามน้ำ ซึ่งนายชูวิทย์ เตือนว่า ไม่คุ้ม เพราะนายกำพลมีแผลเก่ามากแถมมีหมายจับอีก อยากให้ ผบช.น. ได้หายใจ หลังเจอทั้งคดีตู้ห่าวและด่านรีดเงินนักท่องเที่ยว จนจะลามมาถึงซ่องอีก พร้อมยืนยันว่าตนไม่ได้จ้องจะงาน ผบช.น. คิดแบบนั้นบาปตาย