แพรรี่ ฟาดเป็นข้อๆ ปมพระร้องเรียน "ทำอะไรก็ผิด" ชาวเน็ตชม สมมงมิสเปรียญ 9
จากกรณี พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา และ พระปลัดครูธีระ ได้เดินทางมายื่นหนังสือและขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้อนุมัติงบประมาณจำนวน 1 หมื่นล้านบาท ในการสร้างศูนย์กลางการเรียนรู้พระพุทธศาสนาที่ถูกต้อง แก้ปัญหาความขัดแย้งในชาติ โดยอ้างว่าหลังจากที่ผ่านมาวงการภาพลักษณ์ในวงการสงฆ์มีความเสื่อมเสียทั้งที่เป็นส่วนน้อย สวนทางกับพระสงฆ์ส่วนใหญ่ยังประพฤติตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ดังนั้นจึงต้องการของบประมาณดังกล่าวเพื่อไปแก้ไขปัญหาในวงการสงฆ์และความขัดแย้งของคนในชาติ
ก่อนจะปีนขึ้นต้นไม้และผูกเปลนอน บริเวณริมถนนพิษณุโลก หลังกองทัพภาคที่ 1 ตรงข้ามกับประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล โดยระหว่างที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ได้มีผู้ถือป้ายเขียนข้อความว่า “จะให้พระสงฆ์มีชีวิตอยู่อย่างไร เดินชมทะเลก็ผิด เดินเซเว่นก็ผิด เดินห้างสรรพสินค้าก็ผิด อาบน้ำตกกลางธรรมชาติก็ผิด จะให้อยู่บนยอดไม้หรืออย่างไร”
ล่าสุด “ไพรวัลย์ วรรณบุตร” หรือ แพรรี่ อดีตพระนักเทศน์ชื่อดัง ได้ออกมากล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า
"ก็อยู่ในที่ๆ พระควรจะอยู่สิเจ้าคะ พระเนี่ย ถ้าอยู่แบบพระจริงๆ อยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ทั้งนั้นแหละเจ้าค่ะ อย่างที่ท่านเขียนมากัน ดิฉันอยากชวนให้แยกแยะแบบนี้นะคะ ว่า
พระเดินริมทะเลไม่ผิดค่ะ แต่พระจะขึ้นค่อมเจ็ทสกีหรือห้อยโหนบานาน่าโบ๊ทเยี่ยงฆราวาส แบบนี้ ทำไม่ได้ค่ะ
พระจะเข้าเซเว่นได้นะคะ แต่พระจะสั่งขนมจีบซาลาเปาหลังเที่ยง แบบนี้ทำไม่ได้ค่ะ พระจะซื้อน้ำปานะฉัน แบบนี้ทำได้นะคะ แต่พระจะฉันพญานาคเป็นขวดๆ แล้วเมาหัวราน้ำ แบบนี้ไม่ได้ค่ะ
พระมีสิทธิ์เข้าห้างสรรพสินค้านะคะ แต่พระไม่มีสิทธิ์ช็อปของแบรนด์เนมอันเกินควรแก่สมณะจากปัจจัยของชาวบ้านค่ะ ครีมทาผิวและน้ำหอมใดๆ ไม่ควรแก่สมณะนะคะ กระเป๋าหรือรองเท้าราคาแพง ก็ไม่ใช่สิ่งที่สมณะพึงเลือกซื้อใช้สอยด้วยตนเอง
พระจะอาบน้ำตกที่ไหนไม่มีใครว่าค่ะ แต่พระจะเปลื้องผ้า ให้คนถูบ่าถูหลัง จะถ่ายรูปอาบแดด เล่นหูเล่นตาอย่างเสียสมณสัญญา แบบนี้ทำไม่ได้ค่ะ
พระไม่ต้องปีนเสาไฟ หรือหนีไปอยู่บนยอดดอยยอดไม้หรอกนะคะ ดูจะลำบากเกินจำเป็น พระจะอยู่ในโบสถ์ในวิหารหรือในลานเจดีย์ที่ไหนก็ได้ ขอแค่ท่านไม่ลืมว่า ท่านเป็นนักบวช ท่านไม่ใช่ฆราวาส ท่านประพฤติพรหมจรรย์ ท่านไม่เสพกามคุณ ท่านห่มเหลือง ท่านไม่ได้ใส่กางเกง ถ้าระลึกได้แบบนี้ อยู่ที่ไหนก็ได้ค่ะ
คือปัญหาทุกวันนี้มันเหมือนที่โบราณเขาว่า คือ หัวโล้นอยากรำ หัวดำอยากเทศน์ มันก็เลยผิดที่ผิดทางไงคะ พระอยากเสพกามคุณแบบชาวบ้าน แต่พระไม่อยากลาสิกขา มันก็เลยเป็นอย่างที่เห็น คือสิ่งไหนที่พระไม่ควรทำ พระก็ทำ ที่ไหนที่พระไม่ควรอยู่ พระก็ไปอยู่ แล้วแบบนี้จะมาโทษใครกันล่ะคะ ก็ต้องโทษพวกท่านเองนั่นแหละ ที่ละทิ้งความเป็นสมณะในตัวเอง
ปล. ผัดไทควรฉันในโรงครัวของวัดนะคะ ไม่ควรเข้าไปฉันในห้องน้ำสาธารณะ มันดูไม่งาม จบ!"