น้องชาย “เอ็มมี่ แม็กซิม” เที่ยวผับถูกการ์ดกระทืบ 5 รุม 1 ร้านลั่น ลูกค้าแก๊งนี้มีปัญหาตลอด

น้องชาย “เอ็มมี่ แม็กซิม” เที่ยวผับถูกการ์ดกระทืบ 5 รุม 1 ร้านลั่น ลูกค้าแก๊งนี้มีปัญหาตลอด

น้องชาย “เอ็มมี่ แม็กซิม” เที่ยวผับถูกการ์ดกระทืบ 5 รุม 1 ร้านลั่น ลูกค้าแก๊งนี้มีปัญหาตลอด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น้องชาย “เอ็มมี่ แม็กซิม” เที่ยวผับถูกการ์ดกระทืบ 5 รุม 1 ร้านโต้ไปคนละทางอ้าง ลูกค้าแก๊งนี้มีปัญหาตลอด เอาปืนออกมาตบหัวการ์ดก่อน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอ็มมี่ แม็กซิม นางแบบเซ็กซี่ชื่อดัง ได้นำรูปของชายคนหนึ่งที่ถูกรุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บ มาโพสต์ลงในโซเชียลพร้อมระบุข้อความว่า

"เราเป็นคนธรรมดาไม่มีเส้นไม่มีสาย ความถูกต้องและกฎหมายไทยศักดิ์สิทธิ์จริงหรือไม่ ขอให้ช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับน้องตนเองด้วยที่ถูกทำร้าย 5 รุม 1 ซึ่งไม่ควรเกิดในประเทศที่ชอบทำบุญให้ทาน"

จุดเกิดเหตุบริเวณสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ถนนลาดพร้าววังหิน พบว่าร้านเป็นลักษณะเป็นผับมีโต๊ะให้บริการนักเที่ยวเป็นจำนวนมาก แต่ไม่พบว่ามีผู้ใดอยู่ในร้าน เมื้อถามผู้ที่อยู่ใกล้กับสถานบันเทิงระบุว่าร้านจะเปิดช่วงเย็นถึงจะมีพนักงานมาทำงาน และไม่มีใครรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทีมข่าวจึงได้พยายามติดต่อสอบถาม ทางโทรศัพท์กับเจ้าของร้านแต่ไม่มีผู้รับสาย แต่มีรายงานว่าเจ้าของร้านได้ชี้แจง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านสื่อช่องหนึ่งว่า ได้ส่งหลักฐานกล้องวงจรปิดที่จะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นให้กับทางตำรวจ สน.โชคชัย เรียบร้อยแล้ว

โดยเจ้าของร้านระบุว่า น้องชายเอ็มมี่เป็นลูกค้าประจำของที่ร้านจริง ทุกครั้งที่มามักมีปัญหาตลอด ในอดีตเคยมากินแล้วเมา เอาขวดไปตีหัวลูกค้า รอบที่สองมาทะเลาะกับพนักงานโซนบาร์น้ำ จนมีเรื่องชกต่อยกัน เจ้าของร้านจึงแจ้งพนักงานและการ์ดว่า ขอไม่ให้บริการลูกค้ากลุ่มนี้ จนกระทั่ง 14 ก.พ. วันเกิดเรื่อง กลุ่มนี้เข้ามาที่ร้าน ทางการ์ดเห็นจึงขอไม่ให้บริการ กลุ่มนี้จึงกลับออกไปพร้อมตะโกนว่า เดี๋ยวมึงเจอกู

จากนั้นลูกค้ากลุ่มนี้กลับมาอีกรอบพร้อมอาวุธปืนและใช้ด้ามปืน ตบเข้าหัวของการ์ด 2 คน จนคนนึงหัวแตก อีกคนล้มลงไปกับพื้น พอการ์ดคนอื่นๆ และพนักงานในร้านเห็นว่ามีปืนมาด้วย จึงกรูกันเข้ายื้อแย้งอาวุธปืน จนมีการทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น

ส่วน อากู๋ อายุ 49 ปี ที่มาด้วยและมาช่วยเคลียร์ทางร้าน ยอมรับว่า ไม่ได้เข้ามาในลักษณะหาเรื่องพยายามพูดคุยไกล่เกลี่ย แต่จังหวะนั้นพนักงานและการ์ดของร้าน เห็นว่านายพอร์ชมีอาวุธปืน และกลัวว่าคนอื่นที่มาด้วยอาจจะมีอาวุธอะไรมาด้วยอีก จึงมีการล็อกตัวและทำร้าย โดยทางเจ้าของร้านยอมรับว่าอาจจะรุนแรงเกินไป แต่หลักฐานทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น ได้ส่งให้พนักงานสอบสวน สน.โชคชัยแล้ว

สอบถาม นายชยากร อายุ 22 ปี น้องชายของ นายพอร์ช อายุ 26 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บ และยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า กลุ่มของตนเองเป็นลูกค้าประจำของร้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเมื่อประมาณสองเดือนที่ผ่านมาไปเที่ยวถามบันเทิงดังกล่าวแล้วมีปากเสียงกับเด็กเสิร์ฟ ที่แสดงกิริยาไม่เหมาะสม ซึ่งเมื่อแจ้งทางร้านก็รับทราบและรับปากที่จะปรับปรุง

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ตนเองก็กลับไปเที่ยวที่สถานบันเทิงแห่งเดิมอีก เมื่อไปที่ร้านได้สั่งอาหารแต่ทางร้านไม่รับออเดอร์อ้างว่ากลุ่มตนเองก่อความวุ่นวายภายในร้าน ตนเองจึงได้มีปากเสียงกับ พีอาร์ของร้าน ก่อนที่ตนเองจะโทรเรียกพี่ชายคือนายพอร์ช และเมื่อพี่ชายตนเองมาถึงที่ร้านได้เข้าไปใช้มือตบไหล่การ์ดเบาๆ 3 ครั้ง เพื่อจะสอบถามแต่การ์ด เกิดความไม่พอใจและโต้เถียงกันก่อนที่จะ เรียกการ์ดคนอื่นมาสมทบ 4-5 คน หลังจากนั้นก็รุมกระทืบจนลงไปนอนกับพื้นไ ด้รับบาดเจ็บซี่โครงหัก ม้ามฉีก ใบหน้าเต็มไปด้วยบาดแผล พี่ชายจึงได้หยิมปืน ในรถที่จอดอยู่ใกล้กับจุดที่โดนทำร้าย ตบไปที่การ์ด ที่จะเข้ามาทำร้ายคนแรก 2 ครั้งและตบไปที่การ์ดคนที่สองอีก 1 ครั้ง หลังจากนั้นตนเองและพี่ชายก็โดนกระทืบซ้ำอีก จนกระทั่งมี ญาติของตนเองเมื่อรู้ว่ามีปัญหา ตามมาเพื่อจะมาห้ามปราม แต่กลับถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บไปด้วย

ส่วน นางสาวเฟื่องลดา อายุ 27 ปี แฟนสาวนายพอร์ช ที่บาดเจ็บ เปิดว่า ยอมรับว่ากลุ่มตนเองเคยไปเที่ยวแล้วเคยมีปากเสียงกันเอง และเคยมีปากเสียงกับกลุ่มอื่นที่มาเที่ยว แต่ก็ไม่เคยถึงขั้นทะเลาะวิวาทกัน พร้อมกับระบุว่าที่ถูกกล่าวหาว่ากลุ่มของตนเองเคยเอาขวดไปตีลูกค้าในร้าน ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง หากมีหลักฐานให้เอามาเปิดเผยได้เลย และแฟนตนเองที่เอาปืนลงไป เพราะโดนทำร้ายก่อนไม่คิดที่จะทำร้ายใครแต่เพื่อจะเพียงแค่ป้องกันตนเองเท่านั้น

ส่วนความคืบหน้าของคดี พันตำรวจเอกพรทวี สมวงศ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลโชคชัย เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุได้แจ้งดำเนินคดีกับผู้ได้รับบาดเจ็บในเรื่องของวุธปืนไปแล้ว และในวันพรุ่งนี้ได้นัดให้มาแจ้งความที่ถูกทำร้ายร่างกาย ส่วนฝ่ายการ์ดที่เป็นคู่กรณี ก็ได้ประสานพนักงานสอบสวนเพื่อจะเข้าแจ้งความว่าถูกทำร้ายร่างกายด้วยเช่นกัน ซึ่งตำรวจยืนยันว่าพร้อมจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ยืนยันไม่มีผู้อิทธิพลอยู่เบื้องหลังหรือกดดันตำรวจแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังสั่งปิดสถานบันเทิงดังกล่าวเป็นเวลา 3 วัน นับตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้ไปปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากกว่านี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook