อึ้ง ผลตรวจ DNA น้องต่อ เด็ก 8 เดือนหายปริศนา พบเป็นลูก "ลุงแจ้" เพื่อนสนิทตา
ตรวจ DNA น้องต่อ เด็กวัย 8 เดือนหายจากบ้าน ไม่ตรงกับพ่อ แต่ตรงกับ "ลุงแจ้" เพื่อนสนิทของตาเด็ก ที่ยอมรับว่าเคยมีสัมพันธ์กับแม่
กรณี น้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือน หายไปจากบ้าน ที่หมู่ 6 ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมาอย่างปริศนา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า เจ้าหน้าที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องจับเท็จจะนำมาใช้ทั้งหมด โดยประเด็นสำคัญขณะนี้คือไม่ทราบแน่ชัดว่าเด็กยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่เชื่อว่าสองสามีภรรยารู้กันแน่นอน ไม่ใช่คนอื่น ซึ่งตำรวจกำลังเร่งดำเนินการอยู่
พร้อมระบุว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการว่าคดีไหนที่ยังไม่คลี่คลายให้เร่งรัดคลี่คลายทั้งหมด โดยเฉพาะกรณีเด็กหายไป ที่สังคมตั้งคำถามและประชาชนให้ความสนใจอยู่
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สองสามีภรรยารู้กันนั้นคือเชื่อว่าต้องรู้ว่าเด็กไปไหน ไม่มีคนอื่น ส่วนจะมีคนอุ้มไปหรือไม่อย่างไรนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการทำร้าย การทะเลาะกัน หรือการที่พ่อของเด็กอาจไม่ใช่พ่อแท้ๆ กำลังทำการตรวจดีเอ็นเออยู่ ส่วนจะบอกว่าใครมาอุ้มไปก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง โดยขอเวลาทำงานก่อน เชื่อว่าจะสามารถคลี่คลายคดีได้แน่นอน พร้อมยอมรับว่าสิ่งที่เป็นห่วงตอนนี้คือไม่แน่ใจว่าเด็กยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
แต่จากการสืบสวนมาหลายวันได้ตำหนิทางตำรวจพื้นที่ไปแล้วว่า 10 วันทำอะไรอยู่ โดยจะมีการประชุมและกำชับพื้นที่อีกครั้ง ว่าคดีนี้ต้องลงไปดูไม่ใช่รอให้ระดับ ตร.ลงไปสั่งการ เพราะในพื้นที่มีทั้งผู้บังคับการและผู้กำกับการที่ต้องลงไปดูตั้งแต่วันแรก ไม่ใช่ปล่อยมาหลายวัน พยายามหาความจริงอะไรไม่ได้สักอย่าง ย้ำว่าเรื่องนี้ต้องไขออกมาให้ได้โดยขอเวลาทำงานสักระยะ
ขณะที่ นายสิทธิโชค หรือ พุด อายุ 19 พ่อเด็ก พร้อม น.ส.พิไลภรณ์ หรือ นิ่ม อายุ 17 ปี แม่เด็ก ยังยืนยันว่าลูกถูกอุ้มไป
นิ่ม เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่นำตัวมาสอบปากคำเพิ่ม ก็ยังยืนยันเหมือนเดิมทุกอย่างเหมือนวันแรกที่พูด ว่ามีคนอุ้มลูกไป เป็นชายใส่เสื้อสีเหลือง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังถามคำถามเดิมๆ ส่วนพ่อก็มาให้ปากคำเพิ่มเติมวันนี้ และวันนี้ได้เล่าเรื่องราวความจริงที่เกิดขึ้นให้พ่อฟัง และบอกกับพ่อว่าเราไม่ได้ทำ และเราไม่เกี่ยวข้องในปมฆ่าลูกตัวเอง ส่วนเรื่องบัญชีมีเงินเข้า 15,000 บาท ซึ่งเป็นเงินจากประกันสังคมได้มาในช่วงที่คลอดลูก ได้เงินตอนลูกอายุประมาณ 4 เดือน ประเด็นนี้ก็ตอบเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว อยากบอกสังคมว่านิ่มไม่ได้ทำทุกอย่าง ไม่ได้เอาน้องต่อไปทิ้งน้ำ ไม่ได้ขายน้องต่อ และไม่ได้เอาน้องไปให้ใครเลี้ยง
ขณะที่ ลุงแจ้ อายุ 55 ปี เพื่อนสนิทของพ่อนิ่ม หลังถูกตำรวจเชิญไปให้ปากคำ และไล่ตามกล้องวงจรปิด ยอมรับว่าเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับน้องนิ่มเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา ก่อนท้อง แต่มีการป้องกันโดยการสวมถุงยาง มั่นใจว่าน้องต่อไม่ใช่ลูกตน พร้อมยืนยันหนักแน่นว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะวันเกิดเหตุอยู่ในหมู่บ้านตลอด ไม่ได้ไปไหน
ด้าน พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุถึงผลตรวจดีเอ็นเอของ “น้องต่อ” โดยยืนยันว่า ผลตรวจดีเอ็นเอระหว่าง “น้องต่อ” กับ “ลุงแจ้” ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพ่อตรงกัน นั่นหมายความว่าทั้งคู่เป็นพ่อลูกที่แท้จริง ไม่ใช่นายพุด ซึ่งวันนี้ ได้นำ ลุงแจ้เข้ามาเข้าเครื่องจับเท็จที่กองพิสูจน์หลักฐาน 1 ด้วย พร้อมซักถาม และสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง