"โรม" พร้อมสู้คดี ส.ว.อุปกิต ฟ้องหมิ่น ยันไม่หนี ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลต่อ

"โรม" พร้อมสู้คดี ส.ว.อุปกิต ฟ้องหมิ่น ยันไม่หนี ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลต่อ

"โรม" พร้อมสู้คดี ส.ว.อุปกิต ฟ้องหมิ่น ยันไม่หนี ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลต่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“รังสิมันต์” พร้อมสู้คดี “ส.ว.อุปกิต” ฟ้องหมิ่น ลั่นทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลต่อไป ย้ำอีกฝ่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องชี้แจงสังคมด้วย

นายรังสิมันต์ โรม โฆษกและส.ส.พรรคก้าวไกล แสดงคสามเห็นหลังจากฝอภิปรายทั่วไปเรื่อง “ส.ว.ทรงเอ” เมื่อวันที่ 15 ก.พ.66 ผ่านไปเพียง 2 วัน สิ่งที่ตนคาดหมายว่าจะตามมาก็มาอย่างเร็วไว ส.ว.อุปกิต ปาจรียางกูร ได้ฟ้องร้องในคดีอาญา ฐานดูหมิ่นและหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายจำนวน 100 ล้านบาท มองว่าการถูกฟ้องหลังการอภิปรายใหญ่ๆ แบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับตนแล้ว เมื่อ 3 ปีก่อน ตอนตนอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

เรื่องมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ก็ถูกมูลนิธิฯฟ้อง หรือ 1 ปีครึ่งก่อนตอนอภิปรายนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษญกิจและสังรม เรื่องสัมปทานดาวเทียมไทยคมก็ถูกฟ้อง โดยแต่ละครั้งข้อหาก็จะอยู่กับเรื่องการดูหมิ่น-หมิ่นประมาทต่างๆ หรือพยายามเรียกค่าเสียหายสูงๆ หวังจะเชือดไก่ให้ลิงดู ไม่ให้ใครกล้ามาวิพากษ์วิจารณ์อีก แม้จะเกี่ยวพันกับเรื่องการใช้อำนาจรัฐหรือผลประโยชน์ของส่วนรวมก็ตาม และไม่ใช่แค่ตนเองเท่านั้น เพื่อน ส.ส. คนอื่นของพรรคก้าวไกลก็เคยถูกฟ้องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเรื่องนโยบายพลังงานด้วยเช่นกัน

โดยขอยืนยันอีกครั้งว่าการอภิปรายของตนและพรรคก้าวไกลเป็นการทำหน้าที่เพื่อตรวจสอบการใช้อำนาจ การปฏิบัติหน้าที่ หรือพฤติกรรมอื่นใดของรัฐบาล ว่าเป็นการบริหารงานที่ผิดพลาด เป็นการทุจริตคอร์รัปชัน หรือเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่ ซึ่งบ่อยครั้งจำเป็นต้องพาดพิงบุคคลภายนอก นั่นก็เพราะการกระทำเหล่านี้ของรัฐบาลมักดึงเอาบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ถึงที่สุดแล้วการอภิปรายยังมุ่งเป้าไปที่รัฐบาลเป็นสำคัญ การโต้ตอบโดยใช้วิธีฟ้องร้องคดีกันแบบนี้

แน่นอนว่าย่อมกระทบถึงประสิทธิภาพในการตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล ไม่ใช่แค่ตัวเอง แต่รวมถึงผู้แทนราษฎรทุกคน ยืนยันที่จะต่อสู้คดีหมิ่นประมาทดังกล่าว โดยไม่มีการหลบหนี ด้วยความเชื่อมั่นว่าจะชนะ เหมือนที่สู้ในทุกๆ คดีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามในกรณีของนายอุปกิตนั้น เห็นว่ามีความต่างจากเอกชนรายอื่นๆ ที่ถูกพาดพิงไปก่อนหน้านี้ เพราะนายอุปกิต เป็นสมาชิกของวุฒิสภา หนึ่งในองค์กรผู้ใช้อำนาจสูงสุดของประเทศ และแม้ก่อนหน้านี้ตอนที่ทุนมินลัต ถูกจับใหม่ๆ นายอุปกิต จะเคยออกมาชี้แจงต่างๆ นานา แต่จากที่ได้อภิปรายไปนั้นก็พบว่ามีข้อมูลหลายอย่างที่ขัดแย้งกับข้อกล่าวอ้างที่นายอุปกิตเคยชี้แจงไว้ ดังนั้นในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กินภาษีประชาชนจึงควรต้องออกมาชี้แจงต่อสังคมเพิ่มเติมด้วย ส่วนตัวนั้นในช่วงเวลาต่อจากนี้จะเร่งดำเนินการต่างๆ ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในกรณีของ ส.ว.อุปกิต และกรณีจีนเทาต่อไป โปรดติดตาม.

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook