น่าห่วง พยาบาลสาวตัดพ้อชีวิต เป็นชาวเขาโดนบูลลี่แต่เด็ก ทำงาน รพ.ก็ถูกกลั่นแกล้ง

พยาบาลสาวตัดพ้อชีวิต เป็นชาวเขาโดนบูลลี่แต่เด็ก ทำงาน รพ.ก็ถูกกลั่นแกล้ง ขอจบชีวิตเพราะราชการชั้นผู้น้อยไม่มีที่พึ่ง

กลายเป็นประเด็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์อย่างมาก หลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งเป็นพยาบาลในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความตัดพ้อชีวิต ว่าตนเองเป็นชาวเขา โดนบูลลี่เรื่องชาติพันธุ์ หน้าตา มาตั้งแต่สมัยมัธยม จนกลายเป็นความเครียดสะสม ตอนเด็กๆ ป่วยบ่อย ไปโรงพยาบาลก็โดนดุด่า แม่จึงบอกว่าโตขึ้นให้เป็นพยาบาล และอย่าไปทำพฤติกรรมแบบที่ตัวเองเจอมากับคนอื่น

เธอมีความใฝ่ฝันว่าอยากเป็นพยาบาลแต่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง จึงตั้งใจเรียน หลังจากเรียนจบก็ตั้งใจหาช่องทางเพื่อสอบข้าราชการให้พ่อแม่ได้ภูมิใจ จนวันนึงก็สอบติดมาเป็นข้าราชการที่ รพ.แห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่

แต่ก็มีเรื่องราวที่ทำให้ได้รับความไม่ยุติธรรมเกิดขึ้นในองค์กร ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ ขอย้ายแผนกก็ไม่สามารถทำได้ โดยเธอได้เขียนจดหมายขอจบชีวิต และจะขอขึ้นเวรดึกเป็นคืนสุดท้าย พร้อมระบุความว่า ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นตนไม่ได้เป็นคนเริ่ม

โดยเธอเล่าว่า วันหนึ่งจักรยานยนต์ที่จอดไว้ในบ้านพักของโรงพยาบาลหาย จึงไปขอดูกล้องวงจรปิดของพยาบาลท่านหนึ่ง พบว่าผู้ที่เอาไปคือเจ้าหน้าที่ตำแหน่งใหญ่ในโรงพยาบาล เมื่อได้ติดต่อขอรถคืนก็ให้เหตุผลว่าเอาไปเพราะเป็นจอดไว้นานและยังบอกอีกว่าจะนำไปขายทอดตลาด ซึ่งตนรู้สึกเครียดและไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ทั้งที่ตนจอดรถถูกตำแหน่ง แต่อีกฝ่ายบอกว่าเป็นตำแหน่งหัวหน้าพัสดุของโรงพยาบาล แฟนของเขาเป็นตำแหน่งสรรพสามิตเลยเอารถไป

จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ. และขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อำนวยการเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด แต่กลับให้ข้อมูลกลับไปกลับมา ตามทวงจนได้รถคืนแต่เรื่องกลับแย่กว่าเดิม ตนอยากดำเนินการกับคู่กรณีและตอนนี้ก็เดือดร้อนอย่างหนัก เพราะเคยขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ในโรงพยาบาลแต่ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือ

เธอได้ระบายความในใจบางส่วนว่า รู้สึกกังวลใจ หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็โดนคู่กรณีคุกคามชีวิต เธอได้แจ้งไปทางผู้ใหญ่ใน รพ.แต่แล้วได้รับการดูแล 1 เดือนครึ่ง นอกจากนี้ฉันได้มีปัญหากับทางหน่วยงานซึ่งตลอดมาก็มีปัญหาหลายๆ อย่างในหน่วยงานซึ่งมันสะสม เขียนย้ายแผนกแต่ไม่ได้รับการย้าย เครียดสะสมหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน หลายๆ เรื่อง นอนไม่หลับ ทั้งหวาดระแวง กลัวโดนทำร้ายจากคู่กรณีอีกทั้งมีปัญหาในหน่วยงาน  เธอได้ส่งจดหมายทางเมล์ไปถึงอธิบดี เนื่องจากทั้ง ผอ. และผู้ใหญ่ใน รพ. ได้ดำเนินการไปแล้วแต่เรื่องเงียบ

"ทุกๆ วันฉันหวาดระแวงและเครียดนอนไม่หลับ จนมีวันนึงฉันนั้นโดนเรียกไปพบผู้ใหญ่ใน รพ. และถูกกดดันหลายอย่าง ฉันรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยและความกดดันที่ไม่มีทางออก ทั้งในหน่วยงานและเรื่องต่างๆ ในวันนี้ฉันขอจบชีวิตลงเพื่อยุติความอยุติธรรมและทางออกต่างๆ ฉันไม่อยากรับผลกระทบต่างๆที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ทั้งความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและงานที่ฉันทำ เพราะตอนนี้เหมือนฉันไม่ได้ต่อสู้กับคู่กรณีคนเดียว #RIPชีวิตราชการตัวน้อย กว่าจะมาเป็นพยาบาล ลูกขอโทษด้วยนะแม่ ลูกทนแรงกดดันไม่ไหว ลูกไม่มีทางออก มีปัญหาในหน่วยงานแต่ผู้ใหญ่ให้อยู่ที่เดิมเพราะมีคนอยากไปแผนกที่ลูกเขียนย้ายโดยไม่มองปัญหาน้อยใหญ่ที่เกิดขึ้น ลูกหวังว่าต่อไปจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับที่อื่นอีก ราชการชั้นผู้น้อยที่ไม่มีที่พึ่งอีกแล้ว ลูกรักแม่ ขอโทษด้วยนะแม่แล้วลูกจะตอบแทนคุณในชาติหน้า คนที่รอเหยียบหยามซ้ำเติมเชิญเลยเต็มที่ค่ะแป้งถอยแล้ว ทุกคนชนะแล้ว พวกคุณจะไม่มีวันได้แกล้งฉันอีก"

ซึ่งหลังจากข้อความและจดหมายดังกล่าวเผยแพร่ไปในโลกออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแชร์เรื่องราวดังกล่าว พร้อมคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นเพื่อเป็นกำลังใจให้อย่างต่อเนื่อง ขอให้นึกถึงความรักของแม่เอาไว้ เพราะสำหรับแม่ ไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่าชีวิตของลูก