สยอง สาวโพสต์ภาพพลีชีพ สูบลูกโป่งจัดปาร์ตี้งานแต่ง ระเบิดตูมเดียวหน้าเสียโฉม

สาวเล่านาที ลูกโป่งตกแต่งห้องวิวาห์ระเบิด ทำเอาหน้า-แขนเป็นแผลไหม้เสียโฉม ย้ำอันตรายกว่าที่คิด

หญิงสาวชาวเวียดนามออกมาโพสต์ภาพใบหน้าของตัวเอง หลังจากที่ถูกลูกโป่งระเบิดใส่ จนทำให้เกิดแผลไหม้ที่ใบหน้าและมือของเธอ เพื่อเตือนทุกคนอีกครั้งว่าการใช้ลูกโป่งอาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ “ระวังลูกโป่งพวกนี้ด้วย ดูเหมือนว่าคนยังคิดว่าลูกโป่งแบบนี้ไม่อันตราย แล้วดูฉันสิเป็นไงบ้าง?” ซึ่งหลังจากดูภาพแล้วทำเอาชาวเน็ตหลายคนตื่นตระหนก

โดยเธอเล่าว่า เธอซื้อลูกโป่งมาเพื่อตกแต่งบ้านเนื่องในโอกาสฉลองวันวิวาห์ อย่างไรก็ดี มันไม่ได้ลอยขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น แต่ตอนนั้นเธอไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องผิดปกติอะไร ดังนั้นจึงใช้ปั๊มไฟฟ้าเพื่อสูบลม และมันก็ระเบิดเสียงดังสนั่น อาจเป็นเพราะไอน้ำในปั๊มไฟฟ้าร้อนจัด และแก๊สที่อัดอยู่ภายในลูกโป่งถูกอัดจึงระเบิด ในตอนนั้นเธอนั่งสูบที่มุมหนึ่งของห้อง แต่แรงระเบิดกลับสามารถทำให้กระจกประตูซึ่งอยู่ห้างออกไปมากกว่า 2 เมตรแตกได้

เธอยืนยันว่า ตอนแรกเจ้าของร้านบอกแค่ว่าลูกโป่งสูบจากก๊าซออกซิเจน และเตือนว่าอย่าวางไว้ใกล้กองไฟหรือก้นบุหรี่ เพราะจะทำให้เกิดไฟไหม้ได้ และไม่ได้รับคำคำแนะนำใดๆ มากกว่านั้น รวมทั้งไม่ได้รับแจ้งว่ามีแก๊สไฮโดรเจนอยู่ในลูกโป่ง เพราะแน่นอนว่าถ้าเธอรู้ถึงอันตรายเธอคงไม่โง่สูบลมเองแบบนี้

เมื่อเธอลองมาคิดย้อนดูก็พบว่า ลูกโป่งเหล่านี้ไม่ได้มีกลิ่นเหมือนลูกโป่งออกซิเจนในท้องตลาด ยิ่งกว่านั้นผิวของลูกโป่งยังมีความหนามาก หนากว่าที่ขายในท้องตลาดปกติหลายเท่า และก๊าซไฮโดรเจนในลูกโป่งก็ระบายออกไม่ได้ทั้งหมด ก๊าซนี้ยังคงเกาะติดกับผนังด้านในของลูกบอล แม้ว่าลูกโป่งจะถูกปล่อยลมออกจนแบนราบก็ตาม

"เสียตังค์ถูกๆ ได้ห้องวิวาห์สวยๆ 30 นาที อันตรายบินตรงมาถึงหน้า! จนถึงตอนนี้ เวลามองหน้าตัวเองในกระจกทีไร ฉันนึกโทษตัวเอง โทษคนที่ทำงานตกแต่งห้องแต่งงาน งานอีเวนท์... ถ้าวันนั้นแทนที่จะมีแค่ฉัน แต่มีเด็กๆ อยู่ด้วยล่ะ ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเป็นยังไง" เธอกล่าว

Dr. Quang Van Hai รองหัวหน้าแผนกออร์โธปิดิกส์ ให้สัมภาษณ์กับ Women's Newspaper กล่าวว่า อุบัติเหตุลูกโป่งระเบิดส่วนใหญ่เกิดในงานรื่นเริง งานวันเกิด งานสังสรรค์ งานแต่งงาน  ก๊าซไฮโดรเจนระเบิดได้ง่ายมากเมื่อสัมผัสกับความร้อน อีกทั้งเนื่องจากผู้ใช้มักถือลูกโป่งไว้ในมือ เมื่อไฮโดรเจนที่ถูกบีบอัดในลูกโป่งระเบิดอย่างรุนแรง จึงมักจะทำให้ผมไหม้ หน้าไหม้ หรือตาบอดได้ หรือแม้ว่าแผลไหม้จะไม่ลึกนัก แต่มักทิ้งรอยแผลไว้ในบริเวณต่างๆ เช่น ศีรษะ ใบหน้า ลำคอ หู และมือ

ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่โชคร้ายเช่นนี้ แพทย์แนะนำว่าผู้ใหญ่ไม่ควรปล่อยให้เด็กเล่นลูกโป่งประเภทนี้ เนื่องจากเด็กสมาธิสั้น ทำให้เกิดความเสี่ยงที่ลูกโป่งจะสัมผัสกับแหล่งกำเนิดไฟได้ง่าย เพราะแค่ก้นบุหรี่ยังสามารถทำให้ระเบิดได้เลย

อย่างไรก็ดี หากเกิดแผลไหม้เกิดก๊าซไฮโดรเจน ต้องใช้น้ำสะอาดทำให้บริเวณที่ไหม้เย็นลงประมาณ 15-20 นาที เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและลดความเสียหาย ซึ่งจะช่วยจำกัดอาการบวมน้ำและไม่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ จากนั้นนำผู้บาดเจ็บส่งสถานพยาบาลโดยเร็วที่สุด เพื่อรับการตรวจและรักษาที่เหมาะสม