ไทย-ลาวแถลงความสำเร็จส่ง-รับม้งลาวกลับประเทศ
ทหารไทย-ลาว ร่วมแถลงความสำเร็จในการส่ง-รับม้งลาวกลับประเทศ รองหัวหน้ากรมใหญ่ เสนาธิการ กองทัพประชาชนลาว เผยหลังการส่งมอบม้งลาวแล้ว 30 วัน ประเทศที่ 3 สามารถเข้าไปดำเนินการ เพื่อนำม้งลาวไปอยู่ประเทศที่ 3 ได้
(29ธ.ค.) พลจัตวาบัวเซี่ยง จำปาพัน รองหน.เจ้ากรมใหญ่ เสนาธิการ กองทัพประชาชนลาว ได้นำคณะ พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รองเสนาธิการทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด กองทัพไทย พร้อมสื่อมวลชน ได้เดินทางไปดูสถานศูนย์พักพิงชั่วคราวชาวม้งลาวสมัครใจกลับประเทศจำนวน 4,508 คน ที่บ้านปากซัน เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ ประเทศ สปป.ลาว ซึ่งมีการกางเต้นท์ไว้รองรับ ซึ่งการขนส่งม้งลาวเที่ยวสุดท้ายเพิ่งเดินทางถึงศูนย์พักพิงชั่วคราวเมื่อตอน 06.00 น.เศษวันนี้ ยังมีสัมภาระวางกองกันอยู่และมีตำรวจทหารรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
จากนั้นได้เดินทางกลับมาที่โรงแรมปากซัน เพื่อลงนามส่งและรับมอบอย่างเป็นทางการ โดยพลจัตวาบัวเซี่ยง กล่าวว่า ในโอกาสที่ไทยส่งม้งลาวลักลอบเข้าราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายคืนให้ลาวเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งม้งลาวกลุ่มนี้ได้ลักลอบเข้าประเทศไทยช่วงปี ค.ศ. 2003-2006 เนื่องจากมีกลุ่มคนไม่ดีกลุ่มหนึ่งได้โฆษณาโกหกหลอกลวงว่าใครอยากไปประเทศที่ 3 ให้หนีไปประเทศไทย ต่อมาไม่มีประเทศที่ 3 มารับไปและฝ่ายไทยได้รวบรวมไปอยู่บ้านห้วยน้ำขาวและ ตม.หนองคาย
ฝ่ายลาวเป็นห่วงชะตากรรมประชาชนของตน รัฐบาลลาวและรัฐบาลไทยจึงปรึกษาหารือกันเห็นพ้องกันให้จัดส่งกลับลาวโดยมอบหมายให้ 2 กองทัพลาว-ไทยดำเนินการบนพื้นฐานกฎหมายการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย จากการแทรกแซงของประเทศที่ 3 หรือบุคคลที่ 3 แต่ทั้งสองประเทศได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว ตั้งแต่ 28 ธ.ค. 2006 - 29 ธ.ค. 2009 รวมส่ง 20 ครั้ง มี 649 ครอบครัว 3,173 คน เมื่อมาแล้วได้รับการต้อนรับจากรัฐบาลลาวโดยกลับภูมิลำเนา จำนวนหนึ่งได้อาศัยอยู่บ้านพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ที่รัฐบาลจัดสรรให้ ทำให้มีบ้านอยู่ มีข้าวกิน มีไฟฟ้า มีเด็กได้เรียนหนังสือตามเกณฑ์ มีแพทย์ดูแล มีการดำรงชีวิตเป็นปกติ
และวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา ฝ่ายไทยตัดสินใจส่งม้งลาวกลับประเทศวันเดียว มีจำนวน 4,805 คน เมื่อรวมแล้วมีทั้งหมด 7,761 คน แม้นจะมีความยุ่งยากแต่ทั้งสองฝ่ายได้พยายามร่วมกันแก้ไขจนประสบความสำเร็จ ทางลาวจะให้การศึกษาประชาชนลาวให้รู้เท่าทันกลอุบายของคนไม่ดีต่อไป เป็นความร่วมมือที่ดีของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะ 2 กองทัพลาว-ไทย เป็นเสริมสร้างความสัมพันธ์ความร่วมมือของทั้งสองประเทศได้ดีและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
พล.ท.นิพัทธ์ ทองเล็ก เจ้ากรมชายแดนทหาร กล่าวว่า เป็นวันประวัติศาสตร์ที่สำคัญของทั้งสองประเทศ ทุกสิ่งอย่างเริ่มต้นจากผู้นำประเทศทั้งสองจะต้องดำเนินการให้เป็นกฎหมาย ตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมารัฐบาลไทย กองทัพไทยได้ใช้ความละมุนละม่อม ยึดหลักมนุษยธรรมและยึดหลักสากลในการดำเนินการตลอดมา เพื่อโน้มน้าวชักจูงให้ม้งลาวกลับใจกลับประเทศด้วยความสมัครใจ ซึ่งได้รับการสนองตอบจากฝ่ายลาวเป็นอย่างดีและขอยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้เรายึดหลักมนุษยธรรมและยึดหลักสากลโดยไม่ได้ใช้ความรุนแรงใด ๆ ทั้งสิ้น ขณะเดียวกันคณะทำงานฝ่ายไทย สื่อมวลชนไปเยี่ยมที่เดินทางมาก่อนนี้พบว่ามีการดูแลดีเกินความคาดหมายและได้มาตรฐานที่หลาย ๆ ชาติก็ยังทำไม่ได้ด้วย
พลจัตวาบัวเซี่ยง ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงการดูแลชาวม้งว่า จะดูแลเป็นอย่างดีเหมือนกับประชาชนคนลาวทั่ว ๆ ไป รวมถึงม้งลาวจากหนองคาย 158 คน ก็รับรองความปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนกรณีที่มีการให้สัมภาษณ์สื่อไทยของประเทศที่ 3 ว่า หลังการส่งมอบม้งลาวแล้ว 30 วัน ประเทศที่ 3 สามารถเข้าไปดำเนินการเพื่อนำม้งลาวไปอยู่ประเทศที่ 3 ได้ ว่า ต้องขอหารือกันก่อนว่าจะให้ไปหรือไม่ให้ไป ยังตอบไม่ได้ เพราะตนก็ยังไม่เคยเห็นหน้าม้งลาวเลยว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไรและมีญาติพี่น้องหรือไม่ เขาอยากจะอยู่กับญาติพี่น้องหรืออยากจะไปอยู่ที่ประเทศที่ 3
สำหรับขั้นตอนต่อไปของลาว คือ ต้องสอบถามเขาก่อนจากนั้นจะให้ญาติพี่น้องมาเยี่ยมได้ บางคนมีลูกมีเมียอยู่ที่บ้านผาหลักที่รัฐบาลลาวดูแลอยู่เขาจะไม่อยู่กับลูกกับเมียหรือเขาจะปฎิเสธยังไม่ได้สอบสวน
"ตอนนี้พวกข้าพเจ้าขอแก้ปัญหาตามกฎหมายบ้านเมืองของข้าพเจ้าจะมาบังคับไม่ได้ มันเป็นอธิปไตยของประเทศลาว และข้าพเจ้าไม่รู้ว่ามีประเทศใดบ้างที่ต้องการ ทำไมถึงอยากได้คนประเภทนี้ ถ้าอยากได้เป็นเพราะอะไร เป็นญาติกัน หรือติดหนี้บุญคุณอะไรตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้ารัฐบาลลาวตกลงก็ได้ไป ถ้าไม่ตกลงก็ไม่ได้ไปเท่านั้นเอง" พลจัตวาบัวเซี่ยง กล่าว