ไทยสร้างไทย ขอสภาฯ คว่ำ พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ มอบของขวัญก่อนครบ
"ไทยสร้างไทย" ขอสภาฯ มอบของขวัญแก่ประชาชนก่อนครบวาระ 4 ปี ด้วยการคว่ำ พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ เพื่อให้กฎหมายมีผลใช้บังคับตามที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามเดิม
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ กรรมการยุทธศาสตร์ พรรคไทยสร้างไทย อดีตประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา พรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ให้ความเห็นกรณีรัฐบาลส่ง พรก.แก้ไขเพิ่มเติม พรบ.ฉบับดังกล่าวให้สภา ฯ พิจารณาให้การรับรอง ซึ่งประธานสภาฯ ได้กำหนดวันพิจารณา พรก.ในวันที่ 28 ก.พ.66 นั้น
ผมขออนุญาตเรียกร้องให้ ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน พิจารณาคว่ำ พรก.ฉบับนี้ เพื่อให้ พรบ.อุ้มหาย ฯ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมครั้งสำคัญมีผลใช้บังคับตามที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อมอบเป็นของขวัญแก่ประชาชนก่อนจะหมดวาระของสภาผู้แทนราษฎร อยากจะเรียนว่า พรบ.อุ้มหายฯ เมื่อครั้งผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ได้รับคำชื่นชมจากทุกภาคส่วน ทั้งจากประชาชนทั่วไป องค์กรทางด้านสิทธิมนุษยชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เฉพาะอย่างยิ่ง ผู้แทนองค์การสหประชาชาติ หรือ UN ก็ชื่นชมประเทศไทยที่ออกกฎหมายฉบับนี้สอดคล้องกับอนุสัญญาระหว่างประเทศ 2 ฉบับ ที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคี
ที่กล่าวมาโดยสรุปข้างต้น ล้วนเป็นหน้า เป็นตา เป็นศักดิ์ศรีของประเทศ ที่สำคัญเป็นกฎหมายที่ออกมาเพื่อคุ้มครอง ให้ความเป็นธรรมกับประชาชนในกระบวนการยุติธรรม ในขณะเดียวกันก็คุ้มครอง จนท.ของรัฐที่สุจริตในการปฏิบัติหน้าที่
ล่าสุด นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนมีข้อความตอนหนึ่งว่า "กฎหมายฉบ้บนี้เป็นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมในรอบ 100 ปี..." เมื่อมีแต่เสียงชื่นชม ก็ควรให้กฎหมายฉบับนี้มีผลใช้บังค้บตามที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา การอ้างความไม่พร้อมของ จนท.ผู้ปฏิบัติในอุปกรณ์ประจำตัวขณะจับกุม คือ กล้องบันทึกภาพและเสียง ไม่น่าจะเกินความสามารถของหัวหน้าหน่วยแต่ละหน่วยที่จะบูรณาการทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ในการปฏิบัติภารกิจ
กรณีหาก พรก.ต้องตกไป รัฐบาลต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือยุบสภา ซึ่งขณะนี้ก็ใกล้จะครบวาระของสภาฯ ชุดนี้อยู่แล้ว คาดการณ์ได้ว่า ถ้า พรก.ตกไป รัฐบาลก็คงจะเลือกการยุบสภาอยู่ดี จึงขอเรียกร้องให้สภาฯ มีมติไม่รับ พรก.ฉบ้บนี้ มอบเป็นของขวัญแก่ประชาชนก่อนครบวาระ 4 ปีของสภาฯ ชุดนี้