พอแล้ว..มูลนิธิฯประกาศยุติค้นหาเด็ก 8 เดือน พร้อมเล่าสารพัดเรื่องที่เจอตลอด 20 กว่าวัน

เพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิวินวิน ซึ่งเป็นทีมงานที่ลงพื้นที่ติดตามหาตัวเด็ก 8 เดือน ที่หายไปจากบ้านใน อ.บางเลน นจ.นครปฐม ผ่านมาร่วม 1 เดือน จนวันนี้ ทางมูลนิธิประกาศยุติการค้นหาแล้ว พร้อมร่ายยาวถึงเหตุผล และเบื้องหลังของการทำงาน ระบุว่า

ส่วนตัวคิดว่าคงจะยุติการค้นหาน้อง. แล้ว ทำไม ไม่ค้นหาต่อ หมดความพยายามแล้วเหรอ มาจะเล่าให้ฟัง จากการหาน้อง ตั้งแต่วันแรกๆ เกิดเหตุใหม่ พวกเราก็ไปซักถามพ่อแม่น้อง ตามปกติเพื่อหาข้อมูลการหายตัวไป พ่อแม่ก็ไม่ค่อยให้ความสนใจในการตามหาลูกเลย คำตอบทุกครั้งที่ได้คือมีคนเอาลูกไป คนใส่เสื้อสีเหลืองเอาลูกไป จะยืนยันคำนี้ตลอด ใช้เวลาหลายวันพอสมควรจนพบว่าชายเสื้อเหลืองไม่มีจริง จึงมุ่งประเด็นการหายตัวไปจากการกระทำของพ่อแม่เด็กแทน

ไม่นานเท่าไหร่มีกระแสมีนาย ร ชายที่สติไม่ดี แต่คุยตอบโต้ได้บ้าง เล่าว่าเอาเด็กใส่ตะกร้าหน้ารถจักรยานไป เพราะไปหน้าบ้านที่น้อง อยู่แล้วเด็กมาเกาะขาเลยอุ้มไป หลงทางกันมาอีกหลายวันจนพบว่าสิ่งที่เล่ามาไม่มีจริงเลย เอ้า เสียเวลาไปไล่ตามเส้นทางที่บอกอีก

จนวันหนึ่งมีการไปขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวกับเด็กหายเลย เป็นเรื่องไร้สาระมาก การค้นหาเป๋ออกทะเลไปคนนั้นคนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องอีกตามสอบตามหาข้อมูลจนวุ่นวาย

แม่เด็กถูกสอบสวนทุกวัน จนวันหนึ่งยอมรับสารภาพว่า ชายเสื้อเหลืองไม่มีจริง โอ้โหเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มาก เหมือนทำงานนับ 1 ทุกวันเลย เริ่มต้นหาข้อมูลกันใหม่อีกแล้วเหรอ เพราะประเด็นคนนอกตัดทิ้งได้หมดเลย เหลือข้อมูลจริงอย่างเดียวคือจากปากแม่น้อง

อย่างที่เคยเขียนไปเราไม่รู้เลยตำรวจทำงานไปถึงไหนทุกอย่างปิดเป็นความลับหมด ไม่ได้ประสานงานทีมค้นหาเลย แม่เด็กก็ยืนยันคำเดียวไม่รู้ลูกหายไปไหน จนตำรวจเองก็ตันในการหาข้อมูลมาประกอบเพื่อเชื่อมโยง

ไม่ได้ละ วิธีเดิมๆ ไม่ได้ผล จนมีวันหนึ่ง น้องหนึ่ง(หมอดูไพ่ยิปซี) ติดต่อเข้ามาว่าจะมาช่วยเรื่องนี้กัน น้องหนึ่งเป็นหมอดูไพ่ยิปซีที่จะต้องใช้จิตวิทยาช่วยในการให้แม่น้อง ยอมเปิดใจเล่าเรื่องราว เราจึงนัดกันพบที่บ้านที่แม่เด็กอาศัยอยู่ ใช้การพูดคุยส่วนตัวท่ามกลางการมุงดูของชาวบ้าน จนแม่เด็กใกล้จะบอกความจริง

พ่อของแม่เด็กก็โวยวายหน้าบ้าน ให้ลูกไม่ต้องพูดอะไร ไม่เล่าอะไร จะหาหลานเอง พัง พัง ไม่เป็นท่าแผนนี้ แต่ได้ความร่วมมือบางอย่างที่ให้แม่เด็ก ไปจุดธูปบอกกล่าวขอให้หาน้อง ให้เจอที่จุดที่เราคาดว่าน่าจะนำร่างน้อง มาทิ้ง พร้อมให้แม่เรียกน้อง ให้กลับมาหาแม่

เอาใหม่เพราะเช้าวันรุ่งขึ้นแม่เด็กต้องเอา จยย. ไปคืนให้กับบ้านของสามี ที่ถูกดำเนินคดีไปแล้วที่ สภ.บางหลวง มาคนเดียวไม่ได้ พาพ่อมาด้วย วางแผนกันใหม่หลังจากคืน จยย. พวกเรารับแม่เด็กไปร้านกาแฟแห่งหนึ่ง มีหนึ่ง มีออย อาร์ม นักข่าวช่อง 3 และอ้อ ร่วมในการพูดคุย

แม่เด็กจะเป็นคนที่ระวังตัวมาก จะไม่ยอมพูดด้วยเสียง กลัวการแอบอัดเสียง หนึ่งจึงใช้การจับมือกัน โดยไม่ต้องใช้การคุยหลายคำถามมากนัก โดยมีคำถามหนึ่งที่ถามว่า ถ้าน้องเสียแล้ว แล้วแม่รู้เห็นให้บีบมือหนึ่ง แต่ถ้าไม่ได้ทำ ให้ปล่อยมือ แล้วหนึ่งจะกลับทันที

ปรากฎว่าแม่เด็กบีบมือหนึ่งด้วยความแรงจนหนึ่งเจ็บมือ ถึง 3 ครั้ง พร้อมน้ำตาที่ไหลออกมา หนึ่งจึงหันมาแล้วพูดว่าพี่ออยเอาน้องไป นั่นหมายความว่าแม่เด็กยอมบอกเรื่องสาเหตุการหายตัวไปของน้องแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของออยจะต้องถาม

เราจึงพาแม่เด็กมาเก็บตัวที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง แม่เด็กพร้อมยินยอมให้ รอง ผบช.ภ.7 ท่านหนึ่งมาแบบส่วนตัวเข้าพบ เพื่อเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นการส่วนตัว

คืนวันนั้นพวกเราไม่ได้นอนเลย คิดไปต่างๆ นานา จะหนีไหม จะกลับคำไหม เพราะตอนเช้าต้องพาแม่เด็กไปให้การกับพนักงานสอบสวน ดีที่สืบสวน ภ.จว นครปฐม ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมานั่งในรถเฝ้าที่หน้าห้องจนเช้า เช้ามาราบรื่นดี พาพบพนักงานสอบสวนส่งฝากขังที่ศาลเด็กเรียบร้อย

คืนนั้นเราได้ให้แม่เด็กเขียนแผนที่จุดที่ทิ้งน้อง ตรงกับจุดที่เราเคยพาแม่เด็กไปไหว้นั่นแหละ ตำรวจจึงปูพรมหาในคลองท่ออีกรอบแบบชุดใหญ่ แต่ก็ยังไม่พบร่างน้อง จนวันนี้จะด้วยเวลาที่นานถึง 20 กว่าวันแล้วกระแสน้ำ ตัวเงินตัวทอง และสัตว์อื่นๆ เป็นตัวแปรทั้งนั้น

วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายแล้วที่พวกเราจะค้นหา เพราะด้วยเวลา เกรงใจนักประดาน้ำ เกรงใจเจ้าของรถแบ็กโฮ ที่ไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายในการค้นหาน้องเลย เกรงใจชาวบ้าน

ขอขอบคุณทุกท่านที่เอ่ยนามไม่หมดจริงๆ ทั้งอาจารย์เจ ที่อยู่ในทีมค้นหา น้องหนึ่ง ทีมจิตวิทยา สารวัตรแป๊ะ เจ้าของรถแบ็กโฮ ผู้ใหญ่ประกอบ และอีกนับ 100 คนที่เอ่ยชื่อไม่หมด ขอขอบคุณจากใจครับ