เอ๊าพลิกแรงมาก พ่อสื่อพาหนุ่มมาดูตัวสาว ตอนจบสารภาพช็อตฟิล ขอจีบแม่ของสาวแทน
หนุ่มสาวนัดดูตัวกัน แม่มาช่วยสแกนคู่ครองให้ลูกสาว สุดท้ายตอนจบพลิกล็อก หนุ่มได้แต่งงานกับคนแม่
นายหวัง ชายหนุ่มจากมณฑลอันฮุย ที่เข้ามาทำงานในมณฑลเจ้อเจียงเป็นเวลาหลายปีแล้ว ปัจจุบันเขาอายุ 30 ปี แต่ยังไม่พบคู่แต่งงานที่เหมาะสม ในขณะที่เพื่อนรอบตัวต่างแต่งงานและมีลูกไปหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงเริ่มร้อนใจมาก และตัดตัดสินใจคุยกับเพื่อนเพื่อให้แนะนำผู้หญิงที่เหมาะสม โดยหวังว่าจะหลุดพ้นจากชีวิตโสดในไม่ช้า
เพียงไม่นานหลังจากนั้น เพื่อนคนหนึ่งก็ส่งหมายเลขโทรศัพท์ 2 เบอร์มาให้กับนายหว่อง โดยบอกว่าเบอร์หนึ่งเป็นเบอร์ของหญิงสาวที่จะนัดดูตัว ส่วนอีกเบอร์เป็นเบอร์โทรแม่ของหญิงสาวคนนั้น และด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อน นายหว่องจึงไปพบหญิงสาวตามกำหนด เช่นเดียวกับอีกฝ่ายที่มาถึงตรงตามเวลานัดหมาย และพาแม่ของเธอมาเป็นเพื่อนด้วย
เมื่อได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องต่างๆ นายหว่องได้ทราบว่า "นางเจือง" เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เลี้ยงลูกสาวเพียงลำพัง บ้านเกิดของแม่และลูกสาวอยู่ในมณฑลเจียงซี แต่พวกเขามาที่เจ้อเจียงเพื่อทำธุรกิจเป็นเวลาหลายปี และเพราะคุณเจืองต้องการเลือกคู่ครองที่เหมาะสมสำหรับลูกสาว เธอจึงมาเจอนายหว่องตัวเป็นๆ ในวันนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการนัดพบในวันนี้ค่อนข้างแปลกมาก แทนที่นายหว่องจะตื่นเต้นเพราะเจอเด็กสาวคนสวย เขากลับมีความรู้สึกพิเศษต่อแม่ของเธอมากกว่า เขาชอบความเป็นผู้ใหญ่ และความสงบของนางเจือง ดังนั้นหลังจากการนัดพบครั้งนั้นเขาจึงไม่ได้ติดต่อกับเด็กสาวคนนั้นอีก แต่ยังคงติดต่อกับแม่ของเธอเป็นประจำ แม้จะรู้ว่านางเจืองมีอายุมากกว่าเขาถึง 11 ปี เขาก็ยังมุ่งมั่นที่จะตามจีบเธอ
เหตุผลที่นายหว่องตกหลุมรักหญิงอายุมากกว่าคนนี้ เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ชีวิตของเขา ที่เติบโตในครอบครัวยากจนในชนบท มีพี่น้อง 3 คน เขาเป็นน้องคนสุดท้อง แม่ทิ้งสามีและลูกไปอยู่กับชายอื่นตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้เขาปราศจากความรักจากแม่หรือผู้หญิงในครอบครัว โหยหาความอบอุ่นและความรักจากแม่ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงรู้สึกประทับใจหญิงชราอย่างนางเจือง
หลังจากนั้นไม่นาน นางเจืองก็ยอมรับถึงความรู้สึกของนายหว่อง ในฐานะผู้หญิงที่โดดเดี่ยวมานานหลายปี เธอเองก็ต้องการกำลังใจที่มั่นคงเช่นกัน หลังจากสับสนและกังวลเป็นเวลานาน ในที่สุดนางเจืองและนายหว่องก็กลับมาพบกัน และหลังจากตัดสินใจคบกันเพียง 3 เดือน ทั้งคู่ก็ตกลงแต่งงานกัน
แต่การแต่งงานของทั้งสองไม่ได้มีความสุขและสงบสุขอย่างที่คิด หลังจากแต่งงานแล้วนางเจืองได้ตามนายหว่องไปยังมณฑลอานฮุยบ้านเกิดของเขา ก่อนหน้านี้นางเจืองผ่าตัดผูกท่อนำไข่ (Tubal Ligation) ซึ่งเป็นการผ่าตัดเพื่อทำหมันถาวรให้กับผู้หญิง แต่ตอนนี้เธอต้องการมีทายาทให้สามี จึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดเอาปมออก เธอไม่สนใจเรื่องอายุที่มากขึ้นหรือความเสี่ยงของการผ่าตัด เธอแค่อยากให้กำเนิดลูกให้สามี
แต่นายหว่องกลับทำให้เธอเสียใจ เมื่อระหว่างการผ่าตัดนั้นเขาไม่สนใจภรรยาเลย ไม่คอยอยู่เคียงข้าง ทำเพียงเซ็นใบยินยอมการผ่าตัดเท่านั้น แต่เมื่อเสร็จสิ้นการผ่าตัดเธอก็ยังคงกลับไปทีบ้านของสามี ทำหน้าที่ในฐานะภรรยาและลูกสะใภ้อย่างดีเสมอ ทั้งดูแลพ่อตาที่แก่ชรา ดูแลบ้าน โดยนายหว่องไม่ให้เงินเธอใช้จ่ายเลยสักนิด อ้างว่าเขาตกงานมาครึ่งปีแล้ว และไม่ได้งานใหม่ก็เลยลำบากเรื่องเงิน
ในที่สุดทั้งคู่ก็ตัดสินใจกลับไปทำงานที่เจ้อเจียง โดยพาพ่อตาไปดูแลที่นั่นด้วย ในเวลานี้นางเจืองต้องเผชิญกับความกังวลอีกครั้ง เมื่อทำอย่างไรเธอก็ไม่ตั้งครรภ์ สามีจึงเชื่อว่าเธอไม่สามารถมีลูกได้อีกต่อไป เธอรู้สึกเป็นทุกข์และเครียดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ อีกทั้งยังต้องปวดหัวกับพฤติกรรมของสามี ที่เอาแต่เล่นเกมจนถึงรุ่งสาง ต้องคอยทำอาหารให้และเรียกมากินข้าว และเธอยังสังเกตเห็นว่าสามีของเธอปฏิบัติต่อลูกสาวของเธอไม่ดีนัก ทั้งหมดนี้ทำให้เธอรู้สึกหดหู่ใจและคิดว่าเธอเลือกผิด
เมื่อความขัดแย้งของทั้งคู่มาถึงจุดสูงสุด ลูกสาวของนางสาวเจืองจึงต้องออกมาพูดบ้าง เธอยืนยันว่าไม่เคยสนับสนุนการแต่งงานครั้งที่สองของแม่ เพราะนายหว่องอายุน้อยกว่าแม่มากๆ เธอจึงกลัวว่าทั้งสองจะเข้ากันไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดเธอก็ต้องเคารพการตัดสินใจของแม่ พยายามคิดบวกว่าถ้าคนสองคนมีลูกด้วยกัน ความขัดแย้งจะค่อยๆ คลี่คลายลงเอง แต่สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างนั้น
สุดท้ายครอบครัวนี้ต้องเชิญนักข่าวมาปรึกษาไกล่เกลี่ย เมื่อนักข่าวถามนายหวังว่าเขาต้องการจะใช้ชีวิตแต่งงานต่อไปหรือไม่ เขาตอบว่าเขาไม่เคยต้องการหย่าร้าง สำหรับนางเจืองเธอบอกว่าแม้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เธอไม่พอใจเกี่ยวกับสามีของเธอ แต่เธอก็ยังต้องการพึ่งพาเขา เป็นผลให้ปัจจุบันคู่นี้ยังคงอยู่ด้วยกัน
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ