พระราชเจติยาภิบาล เจ้าอาวาสวัดดังนครปฐม มรณภาพในกุฏิ สิริอายุ 90 ปี
พระราชเจติยาภิบาล เจ้าอาวาสวัดดังนครปฐม มรณภาพในกุฏิ สิริอายุ 90 ปี โดยท่านได้บริจาคร่างกายไว้ที่คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล
เมื่อเวลา 07.00 น. (10 มี.ค.66) ร.ต.อ.เฉลิมพล แต้มรุ่งเรือง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งเหตุพระมรณภาพภายในกุฏิ วัดพระประโทณเจดีย์วรวิหาร ต.พระประโทน อ.เมือง จ.นครปฐม หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณกุฏิเจ้าอาวาส เป็นอาคาร 2 ชั้น ภายในห้องพักชั้น 2 พบศพพระราชเจติยาภิบาล ธมมธโร เจ้าอาวาส อายุ 91 ปี สภาพนอนเสียชีวิตแน่นิ่งอยู่ที่พื้น ศีรษะโผล่ออกมานอกประตู จากการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลและร่องรอยจากการถูกทำร้าย คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังพบบัตรประจำตัวผู้บริจาคร่างกาย ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบันทึกภาพไว้
จากการสอบถาม พระมหารุ่งอรุณ อติโรจโน เลขานุการวัดพระประโทณเจดีย์วรวิหาร กล่าวว่า เมื่อ 4 วันก่อน ท่านได้เดินหกล้มที่กุฏิชั้น 2 จึงได้พาไปหาหมอและได้เอกซเรย์แต่ก็ไม่พบอะไรที่ผิดปกติ วัดความดันมีความดันโลหิตสูงถึง 200 แพทย์ให้พักที่โรงพยาบาลแต่ไม่พัก จะกลับมาพัก ยืนยันว่าจะกลับมาพักที่วัด พักฟื้นได้วันสองวันก็เดินได้ตามปกติ
พระมหารุ่งอรุณ กล่าวต่อว่า โดยเมื่อวันที่ 9 มี.ค.2566 มีญาติมาเยี่ยมจากภาคใต้ก็ยังพูดคุยกันรู้เรื่อง ตอบถามกันได้ปกติแข็งแรงดี กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ท่านได้ลุกขึ้นมายามดึก จะลงมาที่ชั้นล่างเวลาประมาณ 02.30 น. โดยอาตมาล็อกกุญแจไว้ ไม่อยากให้ท่านลงไป เพราะกลัวท่านจะเกิดอันตรายกลัวจะหกล้ม แต่เมื่อเห็นแล้วก็ต้องลงมาไขกุญแจให้ และให้ท่านลงไปคุยกับญาติที่มาเยี่ยม
พระมหารุ่งอรุณ กล่าวอีกว่า กระทั่งเวลา 03.00 น. ได้พาขึ้นมาพักที่กุฏิชั้น 2 เมื่อเดินขึ้นมาจนปลายบันได รู้สึกว่าท่านมีอาการเหนื่อยหอบอย่างหนัก จึงพาไปพักผ่อนและล้มตัวลงนอน มาพบอีกทีเวลา 07.00 น. ว่ามรณภาพแล้ว อาตมาเปิดประตูเข้าไปแต่ลูกบิดไม่ออก
พระมหารุ่งอรุณ กล่าวด้วยว่า แต่เมื่อประตูเปิดออกได้ ปรากฏว่ามีศีรษะท่านโผล่ออกมา แสดงว่าศีรษะของท่านน่าจะลงค้ำยันไปที่ประตู ท่านคงพยายามลุกขึ้นมาแต่ขาไม่มีแรง เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เกิดจากหัวใจวายจากโรคความดันโลหิตสูง จากนั้นรอให้แพทย์จากศิริราชมาตรวจร่างก่อนจะดำเนินการต่อไป
สำหรับ พระราชเจติยาภิบาล ธมมธโร ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดพระประโทณเจดีย์ วรวิหาร ชื่อ “จวน อิ่มเขียว” เกิดวันที่ 1 เมษายน 2476 บิดาชื่อ นายผิน อิ่มเขียว มารดา ชื่อนางมี อิ่มเขียว บ้านหมู่ที่ 10 ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี มีพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน 5 คน บรรพชา วันที่ 26 มิ.ย.2503 ณ วัดพระประโทณเจดีย์ ต.พระประโทน อ.เมือง จ.นครปฐม พระอุปัชฌาย์ คือ พระครูวินยาภินันท์ (หวัง) วัดพระประโทณเจดีย์ พระอุปัชฌาย์ คือ พระครูวินยาภินันท์ (หวัง) วัดพระประโทณเจดีย์
วิทยฐานะ พ.ศ.2487 สำเร็จชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านฆ้องน้อย ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พ.ศ.2507 สอบได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนวัดพระประโทณเจดีย์ พ.ศ.2509-2510 เข้าศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ณ โรงเรียนสหศึกษาบาลีวัดพระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม
การศึกษา
พ.ศ.2509 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมวัดพระประโทณเจดีย์
พ.ศ.2510 เป็นกรรมการคุมสอบธรรมสนามหลวง พ.ศ. 2517 เป็นเจ้าสำนักเรียนวัดพระประโทณเจดีย์
พ.ศ.2517 เป็นกรรมการโรงเรียนสหศึกษาบาลีวัด พระปฐมเจดีย์
พ.ศ.2529 เป็นประธานที่ปรึกษาของโรงเรียนวัดพระประโทณเจดีย์
พ.ศ.2529 เป็นกรรมการมูลนิธิโรงเรียนสหศึกษาบาลี วัดพระปฐมเจดีย์
พ.ศ.2538 เป็นประธานมูลนิธิ ผงวิเศษ ตราร่มชูชีพ เพื่อวัดพระประโทนเจดีย์
พ.ศ.2536-2546 เป็นรองประธานสนามสอบธรรมสนาม ภาค 14
พ.ศ.2543-2546 ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้แทนแม่กองธรรมสนามหลวง ประจำสนามสอบส่วนกลาง จังหวัดนครปฐม
พ.ศ.2543-2547 เป็นประธานอำนวยการสอบธรรมศึกษา ณ วัดพระประโทณเจดีย์ วรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม
สมณศักดิ์
พ.ศ.2521 เป็นสมุหฐานานุกรมของพระครูพิพัฒน์สาธุกิจ จ.อ. เมืองนครปฐม
พ.ศ.2524 เป็นพระครูประโทณเจติยาภิบาล ตำแหน่งพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นโท
พ.ศ.2527 เปลี่ยนพัดยศเป็นตำแหน่งพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นโท ในราชทินนามเดิม
พ.ศ.2530 เลื่อนสมณศักดิ์ เป็นตำแหน่งพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นเอก ในราชทินนามเดิม