เมียทำตัวเป็นราชินี ผัวแสนดียังสุดทนไล่ไปนอนถนน พลเมืองดีเข้าช่วยอึ้งปากแซ่บไม่ไหว

เมียเป็นโรคเจ้าหญิง ผัวแสนดียังสุดทนไล่ไปนอนริมถนน พลเมืองดีเข้าช่วยเจอเชิดใส่ แถมปากแซ่บจนเอือมระอา

การแต่งงานไม่เพียงต้องการความรักเท่านั้น แต่ยังต้องมีความรับผิดชอบ ภาระผูกพัน และการเสียสละซึ่งกันและกันด้วย ด้วยเหตุนี้หลายคู่จึงมีความขัดแย้งถึงขั้นต้องเลิกรากันไป เมื่อเร็วๆ นี้ มีเรื่องราวของคู่สามีภรรยาในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน ที่กำลังประสบปัญหาชีวิตคู่ในลักษณะดังกล่าว

เว็บไซต์ phunuphapluat.nguoiduatin.vn รายงานเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่แต่งงานกับผู้หญิงอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน แม้ว่าภรรยาของเขาจะไม่ได้สวยและเลิศเลอมากมาย แต่เขาก็ยังรักและเคารพเธอมากในฐานะคู่ชีวิต อย่างไรก็ตาม ภรรยาของเขากลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามอย่างชัดเจน

หลังจากแต่งงานแล้ว ภรรยาก็แค่อยากได้รับความรักและหวงแหนจากสามี เธอไม่ได้ไปทำงานประจำนอกบ้าน แต่ก็ไม่ทำงานบ้านเช่นกัน เรียกได้ว่าแทบไม่ได้ทำอะไรเลย สามีเป็นคนที่ทำงานเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัวฝ่ายเดียว ทุกวันเขากลับมาบ้านอย่างเหนื่อยอ่อนและหมดแรง เขาคิดว่าภรรยาคงรู้สึกเห็นใจและรักเขามาก แต่เมื่อเขากลับถึงบ้านทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม สุดท้ายเขาก็ต้องรีบทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า ทำอาหาร ทำทุกอย่างในบ้าน แม้ว่าจะเหนื่อยมาจากการทำงานนอกบ้านแค่ไหนก็ตาม

สามีไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่าภรรยาของเขาขี้เกียจและเอาแต่ใจ อย่างไรก็ดี เมื่อพฤติกรรมของภรรยาไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย เขาจึงตัดสินใจพูดคุยเพื่อเตือนสติเธอ หรือแม้กระทั่งรุนแรงไปจนถึงการโต้เถียงกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เธอก็ยังพิสูจน์ให้เห็นว่ายังคงหลงไหลอยู่ใน "โรคเจ้าหญิงนี้" ในที่สุดสามีก็ทนความทุกข์ทรมานไม่ได้อีกต่อไป เขาจึงไล่เธอออกจากบ้าน

อย่างไรก็ดี ถึงสามีจะไล่เธอออกจากบ้าน ภรรยาก็ยังยืนยันว่าเธอไม่ผิด อีกทั้งในใจของเธอรู้สึกเคียดแค้นสามีมาโดยตลอด เพราะคิดว่าผู้ชายต้องดูแลผู้หญิง จึงมองว่าสามีของเธอก็เป็นคนใจแคบและอ่อนแอ ที่บังคับให้ภรรยาทำงานบ้าน เธอจึงขนผ้าห่มออกไปนอนที่ลานจอดรถใกล้บ้าน แต่ไม่ยอมกลับไปขอโทษสามีเด็ดขาด

ในคืนนั้น ผู้สัญจรผ่านไปมาเห็นหญิงสาวนอนอยู่ในลานจอดรถ พวกเขาจึงซื้ออาหารร้อนๆ ให้เธอดอย่างใจดี โดยไม่คาดคิดว่านอกจากเธอจะไม่เพียงไม่สำนึกบุญคุณเท่านั้น เธอยังพูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า "อย่าห่วงฉันเลย เธอไล่ฉันไม่ได้หรอก ฉันจะนอนที่นี่" เมื่อได้ยินแบบนั้นพลเมืองดีจึงตอบว่า "เราไม่ได้ตั้งใจจะไล่คุณไป เราแค่นำอาหารและเครื่องดื่มมาให้คุณ"

แต่เธอยังคงไม่สามารถสงบสติอารมณ์ลงได้ และพูดจาไม่สุภาพดุด่าคนที่เข้ามาช่วยเหลือเสียงดังว่า “ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือของคุณ ฉันไม่ใช่ขอทาน ไม่ต้องสงสารฉัน ออกไปให้ห่างๆ ฉันไว้ อย่ารบกวนการนอนหลับของฉัน" พลเมืองดีที่รู้สึกเอือมระอากับเกับทัศนคติที่ไม่มีเหตุผลของเธอจึงเลือกเดินจากไป

แน่นอนว่าหลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก ชาวเน็ตจำนวนมากต่างวิพากษ์วิจารณ์การกระทำและทัศนคติของหญิงสาว “เธอไม่สวยแล้วยังเป็นโรคเจ้าหญิง เธอคิดว่าตัวเองเป็นราชินีเหรอ?” , “ปล่อยให้เธอเร่ร่อนอยู่บนถนน ปล่อยให้เธอต้องทนทุกข์ทรมาน แล้วมันจะสายเกินไปที่จะเสียใจ” , “ถ้าฉันเป็นสามีฉันคงหย่าไปนานแล้ว”