หยุดหาทำ! เตือน ยาทาเล็บเคลือบฟัน เสี่ยงมะเร็ง-ลูกพิการแต่เกิด-ระบบสืบพันธุ์ผิดปกติ
หมอแล็บฯ เตือน ยาทาเล็บเคลือบฟัน มีสารก่อมะเร็ง-ทำลูกพิการแต่กำเนิด-ระบบสืบพันธุ์ผิดปกติ แนะอยากฟันขาววิ้งให้ไปหาหมอฟัน
วันที่ 16 มีนาคม 2566 ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟสบุ๊ก หมอแล็บแพนด้า ระบุข้อความว่า อย่าเอายาทาเล็บมาทาฟัน
พี่ๆช่างแต่งหน้าตามงานประกวดบางคน ยังชอบเอายาทาเล็บมาทาฟันอยู่อีก ฟันจะได้ขาววิ้งทันใจ เห็นคลิปแล้วก็สงสารน้อง เพราะยาทาเล็บมีสารอันตรายหลายตัว และมีสารก่อมะเร็งด้วย ห้ามเอาเข้าปากเด็ดขาดนะครับ
อย่าลืมว่าในยาทาเล็บมีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ ไนโตรเซลลูโลส ฟอร์มาลดีไฮด์ เรซินโทลูอีน ไดบิวทิล พทาเลต ส่วนผสมในยาทาเล็บที่ควรระวังและอาจเป็นอันตราย ได้แก่
ไดบิวทิล พทาเลต (Dibutyl Phthalate) ตัวนี้เป็นสารที่เขามักเอามาใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตสี ย่าฆ่าแมลง และพลาสติก ใช้ในยาทาเล็บจะทำให้ทาได้ง่าย เรียบ มีความยืดหยุ่นดี แต่ห้ามเอาเข้าปากเพราะเป็นสารก่อมะเร็งและทำให้ลูกพิการแต่กำเนิด ใครที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรไม่ควรใช้ และอาจทำให้มีผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ในเพศชายได้
ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) เป็นสารก่อมะเร็งที่มักจะใช้เป็นส่วนผสมของสีทาเล็บ ทำให้ยาเคลือบเงาเล็บแข็งตัว และเกาะกับเล็บได้ดี ราคาถูก แต่มีพิษต่อร่างกาย มีไอระเหย ถ้าสูดดมเข้าไปจะทำให้แสบจมูก แสบคอ แสบตา ปวดหัว คลื่นไส้อาเจียน ทำลายภูมิคุ้มกัน และเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย
โทลูอีน (Toluene) สารนี้เป็นตัวทำละลายอีกตัวนึงที่ผสมในน้ำยาเคลือบเงาเล็บ มีกลิ่นฉุน แสบจมูก ระคายเคืองตา ถ้าสูดดมเข้าไปจะเกิดอาการเวียนหัว ถ้าสูดดมมากๆจะเกิดการสะสมที่ตับและไต มีผลต่อการทำงานของระบบประสาท เป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์ได้ และเป็นสารก่อมะเร็ง
อีกอย่างคือ หลังจากที่เราทาเล็บ ไม่ควรใช้มือหยิบจับอาหารเข้าปาก หรือจกข้าวเหนียวส้มตำแซบๆ แล้วดูดนิ้วจ๊วบๆ เพราะจะทำให้เราได้รับสารพิษจากยาทาเล็บเข้าปาก แต่นี่เอามาทาฟันเลย ซึ่งมีโอกาสได้รับสารพิษเต็มๆโดยตรงเลย อยากฟันขาววิ้งๆควรไปพบหมอฟันนะคร้าบ