น่าห่วงชะตากรรมเด็ก 23 คน โรงเรียนปฏิเสธรับเข้าเรียนอนุบาล เหตุไม่มีสัญชาติไทย

น่าห่วงชะตากรรมเด็ก 23 คน โรงเรียนปฏิเสธรับเข้าเรียนอนุบาล เหตุไม่มีสัญชาติไทย

น่าห่วงชะตากรรมเด็ก 23 คน โรงเรียนปฏิเสธรับเข้าเรียนอนุบาล เหตุไม่มีสัญชาติไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักกฎหมาย เผยโรงเรียนที่ จ.ตาก ปฏิเสธรับเด็ก 23 คน เข้าเรียนอนุบาล เหตุไม่มีสัญชาติไทย

คลินิกกฎหมายอุ้มผาง โครงการสี่หมอชายแดนจ.ตาก ได้รับแจ้งว่ามีนักเรียนจำนวน 23 ราย ซึ่งเป็นเด็กที่เกิดในประเทศไทยจากพื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านนุโพ ถูกปฏิเสธไม่รับเข้าเรียนต่อชั้นอนุบาล 1-2 ที่ โรงเรียนบ้านนุโพ ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เมื่อคลินิกกฎหมายฯ ได้ตรวจสอบ พบว่ามีการออกประกาศสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 เรื่อง มาตรการเกี่ยวกับการรับนักเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 ซึ่งสั่งห้ามมิให้โรงเรียนภายใต้สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 รับบุคคลดังต่อไปนี้เข้าเป็นนักเรียน กล่าวคือ 1 ผู้หนีภัยจากการสู้รบที่พักอาศัยและมีชื่ออยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราว หรือศูนย์อพยพ 2 คนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ถูกกฎหมาย 3 บุคคลที่มีภูมิลำเนาอยู่ในต่างประเทศเดินทางไปกลับบริเวณชายแดน

ด้าน นายเวช ว่องไวพาณิชย์ นักกฎหมาย ประจำคลินิกกฎหมายอุ้มผาง โครงการสี่หมอชายแดน จ.ตาก และคณะทำงานคลินิกกฎหมายอุ้มผาง โรงพยาบาลอุ้มผาง ได้เปิดเผยว่า ในความเป็นจริงนั้นเด็กทุกคนสมควรที่จะได้รับการศึกษาที่เท่าเทียมกันในขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะอยู่ในสถานะใด อย่างกรณีเด็ก 23 คน ขณะนี้มีเพียงที่นี่แห่งเดียวที่ถูกไม่ให้เรียน การออกมาเรียกร้องเพียงแค่ขอให้เด็กได้รับการศึกษาเท่านั้น ไม่ว่าเด็กเหล่านี้จะเป็นเด็กต่างด้าว เด็กอพยพก็อยากให้รับทุกคนเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ

สำหรับข้อความที่คลินิกลงในเพจนั้นพูดถึง การปฏิเสธไม่รับเด็กเข้าเรียนของโรงเรียนซึ่งอ้างตามประกาศสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 นั้น เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และกฎหมายภายในที่เกี่ยวข้องอย่างชัดแจ้ง การกระทำดังกล่าวยังขัดต่อเจตนารมณ์ของประเทศไทยที่ประสงค์เปิดโอกาสทางการศึกษาแก่เด็กทุกคนอย่างเท่าเทียมกันโดยไม่คำนึงถึงสัญชาติ หลักฐานทางทะเบียน และสถานะทางกฎหมาย มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535

อีกทั้งยังจะเป็นการละเมิดพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคี อาทิ ปฏิญญาโลกว่าด้วยการศึกษาเพื่อปวงชน พ.ศ.2533 อนุสัญญาสิทธิเด็ก และอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ จากเด็ก 23 คนในวันนี้ จะเพิ่มเป็นเด็กในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 ทั้ง 5 อำเภอชายแดนจังหวัดตาก เด็กในอำเภอแม่สอด ซึ่งในสถานศึกษาบางแห่ง มีเด็กต่างชาติศึกษาอยู่มากกว่าร้อยละ 50 รวมถึงเด็กในพื้นที่อำเภอพบพระ แม่ระมาด และท่าสองยางซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ชายแดนไทยเมียนมาด้วยเช่นกัน

เราทราบกันดีว่าจังหวัดตากเป็นพื้นที่ชายแดนที่มีความละเอียดอ่อนและมีความสำคัญมากในหลายมิติ แต่กลายเป็นว่าหน่วยงานที่มีหน้าที่คุ้มครองสิทธิทางการศึกษาของประชาชนเช่นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาฯ กลับมีมุมมองความมั่นคงแบบเก่า ยิ่งกว่าหน่วยความมั่นคงของไทย ซึ่งเข้าใจมานานแล้วว่าชาตินิยมหรือสัญชาตินิยมไม่สามารถพัฒนาพื้นที่ชายแดนและพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ได้ ประเทศไทยได้รับการชื่นชมในทางระหว่างประเทศในเรื่องการให้การศึกษาแก่ทุกคนอย่างไม่เลือกปฏิบัติเสมอมา ประกาศสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 ฉบับนี้ แสดงถึงความถดถอยในการดำเนินนโยบายเรื่องการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ อันส่งผลเป็นการทำลายภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ซึ่งบุคลากรทางการศึกษาของไทยสร้างสมมานานหลายสิบปี จึงขอเรียนถามท่านผู้บริหาร ว่าท่านเห็นด้วยกับการออกประกาศที่มีเนื้อหาเป็นการเลือกปฏิบัติเช่นนี้หรือไร

ด้าน นายวัลลภ โตวรานนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 เรื่องนี้ได้แจ้งให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดตากทราบแล้ว กำลังให้หน่วยงานในพื้นที่ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า สาเหตุที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในเขตตำบลแม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก ไม่สามารถรับเด็กกลุ่มนี้ทั้ง 23 คนนั้นมาจากเหตุผลอะไร คงต้องตรวจสอบข้อมูลก่อน เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ชายแดน

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook