“อนุทิน” เมิน “ชูวิทย์” ร้องกกต. ยุบพรรคภูมิใจไทย พร้อมชี้แจงตามกฎหมาย

“อนุทิน” เมิน “ชูวิทย์” ร้องกกต. ยุบพรรคภูมิใจไทย บอกพร้อมชี้แจงตามกฎหมาย แจงว่าที่ผู้สมัครจ่อฟ้อง 400 เขต ไม่ได้เป็นมติพรรค ชี้เป็นความสมัครใจ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวภายหลังปล่อยคาราวานรถหาเสียงของว่าที่ผู้สมัครส.ส. 33 เขต กทม. และมอบธงแล้ว ขณะนี้ความนิยมของพรรคภูมิใจไทยเป็นอย่างไร ว่า เราทำงานเต็มที่ทั้ง 33 เขตของกทม. โดยผู้บริหารพรรคมีการสลับลงพื้นที่หลังเวลาราชการทุกวัน เพื่อพบกับประชาชน ซึ่งเห็นว่ามีการตอบรับที่ดีมาก ชาวกทม. ส่วนใหญ่ชื่นชมตนและนโยบายของพรรคที่ดีต่อพวกเขา เช่น เรื่องมลภาวะสุขภาพ การลดค่าใช้จ่าย

เมื่อถามถึงกรณีของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่มีการเคลื่อนไหวโจมตีพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะในกทม. อย่างต่อเนื่อง กังวลจะเสียความนิยมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่กังวล ซึ่งไม่มีปัญหาแม้เขาเลือกโจมตีในหลายพื้นที่ เพราะพรรคภูมิใจไทยถ้าเปรียบก็เปรียบเป็นภูเขาทอง ที่เหลือให้ไปคิดเอาเอง ส่วนก่อนหน้านี้ที่การประเมินว่าจะได้ ส.ส. 70 ที่นั่ง และในกทม. ประเมินว่าจะได้เท่าไหร่ เรื่องดังกล่าวนี้ตนไม่เคยพูด เพราะตัวเลขที่เราประเมินไว้สูงกว่านั้นเยอะ เนื่องจากผู้สมัครของเราแข็งแรงมาก ได้รับความนิยมในพื้นที่ เนื่องจากพรรคมีการคัดเลือกตัวผู้สมัคร

ส่วนกรณีที่วานนี้ (17 มีนาคม) ที่นายชูวิทย์ ได้เดินทางไปยื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ดำเนินการยุบพรรคพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคการเมือง ทุกคนมีสิทธิ์ที่ชี้แจงจากการกล่าวหา และพรรคภูมิใจไทยเองก็พร้อมที่จะเข้าไปชี้แจงหลังได้รับแจ้งจากหน่วยงานทั้งนั้น แต่ต้องเป็นทางการและเป็นไปตามกฎหมาย ส่วนเรื่องนี้จะจบอย่างไรนั้น หรือต้องดำเนินไปจนถึงเลือกตั้งนั้น นายอนุทิน กล่าวว่าไม่มีเริ่มและไม่มีจบ เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเส้นทางของพรรค

ส่วนกรณีที่ให้ผู้สมัคร ทั้ง 400 เขตดำเนินการแจ้งความกับนายชูวิทย์นั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นมติพรรค และไม่ได้เป็นแนวทางของพรรคในการให้ไปดำเนินการ ซึ่งให้จะเป็นสิทธิของว่าที่ผู้สมัครเอง เมื่อถามอีกว่า นายชูวิทย์ บอกว่าการแจ้งความคงไม่สามารถปิดปากได้นั้นมองอย่างไรบ้าง นายอนุทิน บอกว่า ก็ไม่ว่ายังไงไม่เกี่ยวกัน เมื่อถามย้ำว่าประเมินตัวเลขสูงกว่านั้นเยอะ แล้วคาดว่าจะได้เกินร้อยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ให้รอดูช่วงเย็นของวันเลือกตั้ง ในวันที่ 14 พ.ค.66