ญาติ "สารวัตรกานต์" ขอความเป็นธรรม 5 ข้อ มุ่งปม "สั่งย้าย" คือชนวนความเครียด

ญาติ "สารวัตรกานต์" ขอความเป็นธรรม 5 ข้อ มุ่งปม "สั่งย้าย" คือชนวนความเครียด

ญาติ "สารวัตรกานต์" ขอความเป็นธรรม 5 ข้อ มุ่งปม "สั่งย้าย" คือชนวนความเครียด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ญาติ “สารวัตรกานต์” ขอความเป็นธรรม 5 ข้อ คาดปมสั่งย้ายล่าสุดคือชนวนความเครียด ขณะที่ รอง ผบช.น. เรียกประชุมทีมชุดปฏิบัติการทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ พ.ต.ท.กิตติกานต์ อายุ 51 ปี หรือสารวัตรกานต์ สังกัด ศูนย์พัฒนาด้านการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล มีอาการคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนออกมาจากบ้านพัก 2 ย่านเขตสายไหม ซึ่ง เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 27 ชม. ก่อนจะบุกเข้าจับกุมและยิงปะทะกันจนผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ล่าสุดญาติพี่น้องของสารวัตรกานต์ นำโดยนายลิขิต อายุ 58 ปี พี่ชายคนโต พร้อมด้วยพ่อ แม่ และญาติพี่น้องกว่า 20 คน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ครั้งแรก โดยนายลิขิต พี่ชายคนโต เผยว่าสารวัตรกานต์ เป็นน้องคนสุดท้อง จากพี่น้อง 5 คน เป็นคนมีจิตใจเมตตา อ่อนน้อมถ่อมตน และซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่รักของเพื่อนบ้านและเพื่อนร่วมงานไม่เคยรังแกข่มขู่ข่มเหงทำร้ายจิตใจใครโดยทางครอบครัวจะขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่น้องชาย 5 ข้อ

1.ให้ทำการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่บุกเข้าไปในบ้าน ชุดซุ่มยิง ชุดปิดล้อมรอบๆบริเวณบ้านว่าแต่ละคนได้มอบหมายอะไรบ้าง แต่ละคนใช้อาวุธปืนชนิดใด หมายเลขใด กระสุนมีกี่นัด เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปในตัวอาคารบ้านทั้งหมดมีใครบ้าง ใช้ปืนกระบอกใด เบิกกระสุนมากี่นัด ยิงไปกี่นัด เหลือกระสุนกี่นัด เจ้าหน้าที่อยู่ชั้นบนบ้านเป็นใคร เจ้าหน้าที่ที่อยู่ชั้นล่างเป็นใคร ยิงไปกี่นัด 2.อยากให้พนักงานอัยการเข้ามาร่วมสอบสวนในครั้งนี้ 3.ให้สอบสวน ผบ.ตร. ซึ่งเป็น ผบ.เหตุการณ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดบริหารการจับกุม ที่ตัดสินใจสั่งการบุกเข้าจับกุมครั้งนี้ 4.ทั้งนี้เพื่อการสอบสวนที่ถูกต้องเป็นธรรมและเกิดความยุติธรรมแก่ทุกฝ่ายขอให้ทำการสอบสวนแล้วเสร็จภายใน 3 วันภายในวันที่ 22 มีนาคม 2566 และสุดท้าย 5.ขอให้สอบปากคำเจ้าหน้าที่ชุดที่เข้าไปตรวจพิสูจน์อาคารเกิดเหตุเบื้องต้นว่าได้ตรวจยึดสิ่งใดบ้างอย่างไร

นายลิขิต กล่าวอีกว่า สิ่งที่ครอบครัวยังคาใจและติดใจสงสัยก็คือเหตุใดผู้บังคับบัญชาไม่ใช้วิธีโดยละมุนละม่อม ด้วยการพาไปรักษา แต่กลับพากำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธหนักจำนวนหลายรายเข้าไปปิดล้อมกดดัน ซึ่งวิธีนี้ทำให้เกิดความเครียดสะสมใช้คนปิดล้อมเป็นร้อยเพื่อจะจับคนคนเดียวเป็นสิ่งที่ไม่น่ากระทำในยุคนี้ เพียงแค่รอเวลาให้เขาสงบสติอารมณ์ก็น่าจะคลายเครียดได้ ส่วนความเครียดที่เกิดขึ้น ญาติคิดว่าเป็นปัญหาความเครียดจากการทำงาน ซึ่งที่ผ่านมาน้องชายทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยก่อนหน้านี้น้องชายทำงานด้านปราบปรามยาเสพติดและถูกโยกย้าย ในช่วงแรกเป็นช่วงปรับตัวเนื่องจากถูกโยกย้ายโดยไม่สมัครใจ แต่ต่อมาเจ้าตัวก็รู้สึกพอใจและทำงานด้วยดีมาโดยตลอด และอยากทำงานอยู่ที่เดิม

จนกระทั่งคำสั่งล่าสุดถูกสั่งย้ายโดยไม่ทันรู้มาก่อน ซึ่งแรกๆ เจ้าตัวก็รู้สึกพอใจแต่ทราบลักษณะงานไม่เหมือนเก่าภายในองค์กรมีปัญหาหลายอย่างมีผลกระทบต่อจิตใจเพิ่มมากขึ้น จนเกิดความเครียดขึ้นมาได้ ไม่อยากไปทำงาน เป็นงานที่ไม่ถนัด จนเกิดความเครียด และการถูกย้ายในครั้งนี้เป็นการย้ายโดยไม่ได้สมัครใจ จึงขอให้ตรวจสอบให้ดีว่าตำแหน่งคนที่มาแทนที่เป็นคนของใครมีความสัมพันธ์กันอย่างไรซึ่งตัวน้องชายทราบดีซึ่งจุดนี้คนนั้นก็ทราบดีและเกรงว่าเรื่องนี้จะถูกเพิกเฉย

ทั้งนี้มีรายงานว่า วันนี้ 20 มีนาคม 2566 พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีสารวัตรกานต์ พร้อมหัวหน้าชุดปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง (โดยเฉพาะชุดอรินทราช) ที่ ห้องประชุม สน.สายไหม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook