ชาวแม่สายสุดทน PM 2.5 ประท้วงหน้าอำเภอ จี้รัฐคุมควันข้ามแดน-ข้าวโพดนำเข้า

กลุ่มพลังมวลชน ซึ่งใช้ชื่อว่า "เครือข่ายภาคเอกชนและประชาชน อ.แม่สาย" ประมาณ 200 คน รวมตัวชุมนุมหน้าที่ว่าการอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย เมื่อวันจันทร์ (27 มี.ค.) เพื่อเรียกร้องให้แก้ไขไฟป่าและหมอกควันข้ามแดน

การชุมนุมครั้งนี้มีนายเศวตยนต์ ศรีสมุทร รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย, นายรชต ไชยวรรณี และนายตระสัก ศรีธิพรรณ์ ตัวแทนเครือข่าย เป็นผู้นำในการยื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อนายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย ให้แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ทั้งระยะสั้นและยาว

หนึ่งในข้อเสนอแก้ปัญหาระยะยาว คือ การหารือกับประเทศเพื่อนบ้าน และผลักดันให้เป็นวาระของอาเซียน รวมถึงผลักดันให้ภาคเอกชนที่ไปส่งเสริมทำการเกษตรในประเทศเพื่อนบ้านมาร่วมแก้ไขปัญหาเพื่อลดการเผาป่าจนเกิดเป็นฝุ่นละอองหนาแน่นดังกล่าว

นอกจากการชุมนุมดังกล่าว ยังเปิดรับบริจาคอุปกรณ์ดับไฟ น้ำดื่ม และของใช้จำเป็น เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าในพื้นที่ด้วย

นายเศวตยนต์ กล่าวว่าปัญหาฝุ่นละอองหมอกควันเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี และยิ่งปีนี้รุนแรงกว่าเดิม จึงถึงเวลาที่จะต้องมีการแก้ไขปัญหา

แกนนำรายนี้ มองว่า ที่ผ่านมา ภาคประชาชนและเอกชนไม่อาจเข้าถึงข้อมูลปัญหาได้ แต่ปัจจุบันมีทั้งดาวเทียม แอปพลิเคชันต่างๆ ที่แจ้งข้อมูลการเกิดไฟป่า จุดความร้อน ฯลฯ จึงทำให้ทราบถึงปัญหาได้อย่างชัดเจนว่าเกิดจากการเผาไหม้ทั้งในประเทศและฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นการแก้ไขปัญหาจึงต้องเป็นระดับรัฐบาล ที่จะต้องมีการเจรจา เพราะเกี่ยวข้องกับเรื่องระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ การเกษตรซึ่งอาจพูดได้ว่าคือ "ข้าวโพด" เพื่อลดการเผา และกระทรวงพาณิชย์ควรควบคุมเรื่องการนำเข้าผลผลิตจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย

หลังจากยื่นหนังสือต่อทางนายอำเภอแม่สายแล้ว ทางกลุ่มพลังมวลชนมีกำหนดจะพากันเดินรณรงค์ไปยังบริเวณหน้าด่านพรมแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย แต่เนื่องจากฝุ่นละอองหนาแน่นโดยกรมควบคุมมลพิษรายงานว่าที่ อ.แม่สาย มีค่า PM 2.5 หนาแน่นถึงระดับ 543 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จึงงดการเดินในที่โล่งเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ ทำให้กลุ่มพลังมวลชนใช้รถยนต์ขับรณรงค์และสลายตัว