ชาวเน็ตแปลงคำขวัญ เชียงใหม่-เชียงราย แบบใหม่แบบสับ หลังทั้งเมืองจมฝุ่นพิษ

เพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 โพสต์ข้อความระบุ โซเชียลแห่ แปลงคำขวัญจังหวัดหลังเกิดฝุ่นพิษ

เชียงราย

ต้นฉบับ : "เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง"

แบบใหม่ : เหนือสุดในสยามหมอกควันสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมเผาป่า แสบหูแสบตานครเจียง-ฮาย

เชียงใหม่

แบบเดิม : ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผชาติล้วนงามตา นามล้ำค่านครพิงค์

แบบใหม่ : ดอยสุเทพเป็นสี ประเพณีเผาป่า ผ่อตางใดก็แสบต๋า บ่าไหวละก้านครพิงค์

ทั้งนี้ นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เปิดเผยว่าขณะนี้สถานการณ์รุนแรงถึงขั้นวิกฤตแล้ว โดยพบ 3 อำเภอมีค่า PM2.5 พุ่งสูง คือ อ.แม่สาย ทะลุไปถึง 546 ไมโครกรัม คาดว่าสาเหตุหลักมาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างแน่นอน ส่วน อ.เชียงของและอำเภอเมืองฯ นั้น มาจากการลักลอบเผาในพื้นที่ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานจากสาธารณสุขกรณีประชาชนได้รับผลกระทบด้านสุขภาพ

จึงขอความร่วมมือให้ Work From Home ซึ่งทางจังหวัดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด พร้อมระดมกำลัง ทรัพยากรต่างๆ ลงพื้นที่เร่งแก้ไขสถานการณ์อย่างเร่งด่วน มีกองทัพนำเครื่องบินมาร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ด้วย อีกทั้งด้านผู้ว่าราชการจังหวัดก็ได้สั่งให้ติดตั้งสายสปริงเกอร์ไว้ตามชุมชนควบคู่ไปพร้อมกับการฉีดพ่นน้ำตลอด 3 เวลา รวมถึงจัดทำเครื่องฟอกอากาศเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานว่าจะส่งผลกระทบในด้านการท่องเที่ยวมากน้อยอย่างไรต่อไป

ขณะที่ เว็บไซต์ IQAir ซึ่งจัดอันดับคุณภาพอากาศตามเมืองสำคัญของโลก ระบุว่า จังหวัดเชียงใหม่รั้งอันดับ 2 เมืองมลพิษโลก เช้าวันนี้เวลา 10.00 น. (28 มี.ค.66) ตรวจวัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศได้สูงถึง 206 US AQI สำหรับปริมาณฝุ่นควันที่เพิ่มสูงขึ้นจนอยู่ในระดับวิกฤตของภาคเหนือ นอกจากจะถูกลมพัดพาเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีจุดความร้อนจำนวนมากแล้ว จุดความร้อนในภาคเหนือเองก็มีเพิ่มมาขึ้นด้วยเช่นกัน 

ในตัวเมืองเชียงใหม่วันนนี้พบว่าสถานที่ท่องเที่ยวหลักกอย่างข่วงประตูท่าแพ ที่เคยมีนักท่องเที่ยวที้งชาวไทย ชาวจีน ชาวต่างชาติ ที่เคยออกมาเดินเที่ยวถ่ายภาพกับประตูท่าแพแลนด์มาร์คของจังหวัดเชียงใหม่ บางส่วนก็จะมาถ่ายภาพกับนกพิราบที่ประตูท่าแพ วันนี้มีนักท่องเที่บางอย่างบางตา มีเพียงคนขายอาหารนก และที่มาบริการรับถ่ายภาพให้นักท่องเที่ยวนั่งรอนักท่องเที่ยวที่นานๆ จะมีเดินมาคนหรือสองคนเท่านั้น ส่วนตามวัดวาอารามต่างๆ ก็เงียบเหงา เช่นเดียวกันกับอีกหลายอาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ทั้งร้านค้าร้านอาหาร โรงแรมที่พัก ร้านรถเช่า ก็ได้รับผลกระทบกันอย่างหนักในตอนนี้