มาคนเดียว มาเงียบๆ โจรสำเนียงใต้ ปืนจี้ร้านทองกลางห้าง กวาดไปกว่า 40 เส้น
มาคนเดียว มาเงียบๆ โจรสำเนียงใต้ ปืนจี้ร้านทองกลางห้าง สั่งพนักงาน 7 คนให้หลบ ก่อนกวาดไปกว่า 40 เส้น
(28 มี.ค.66) เวลาประมาณ 19.26 น. ของเมื่อคืนที่ผ่านมา นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของ สภ.ทุ่งสง เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นชั้นล่างของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาทุ่งสง ขณะที่พนักงานของร้านกำลังยืนอยู่ภายในร้าน ด้วยกันจำนวน 7 คน เป็นผู้หญิง 6 คนผู้ชาย 1 คน ซึ่งกำลังเตรียมปิดร้าน คนร้ายเดินมาทางประตูหลังห้าง เมื่อมาถึงร้านทองได้ชักอาวุธคล้ายปืนพกสั้นออโตเมติก สีดำ ออกมาจากกระเป๋าสะพายข้างสีครีม ส่ายไปมา และพูดเป็นสำเนียงใต้ว่า “หลบไป”
จากนั้นคนร้ายได้กระโดดขึ้นมาบนเคาน์เตอร์กระจก ลงมาในร้านแล้วได้กวาดทองรูปพรรณ ที่ตั้งโชว์ไว้ที่ถาดแขวนโชว์ด้านหลัง มาการกระชากทอง 3 ถาด เป็นสร้อยคอทั้งหมด ขนาดปะปนกัน ประมาณ 40 เส้น ใส่ในกระเป๋าสะพายข้าง
ขณะนี้ ยังไม่ทราบ ลายและตำหนิรูปพรรณ รวมทั้งจำนวนน้ำหนักที่ชัดเจน เนื่องจากทางร้านจะวางปะปนกัน แล้วหลบหนีไปทางประตูด้านหลังใต้อาคาร วิ่งไปทางลานจอดรถของห้าง ลอดรั้วของห้าง ที่ชำรุดเป็นรูขนาดใหญ่มีต้นไม้ปกคลุมหนาทึบหลายต้น หลบหนีออกไป จากการตรวจที่เกิดเหตุร่วมกับพฐ. พบรอยนิ้วมือแฝงกระจกโชว์และรอยพื้นรองเท้าบนกระจกเคาน์เตอร์หน้าร้าน จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อส่งตรวจพิสูจน์รอยนิ้วมือแฝง สอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์
โดยผู้เกี่ยวข้องรายหนึ่งได้ส่งภาพวงจรปิดเพื่อให้มีการเผยแพร่เป็นข้อมูลให้สังคมทราบเพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านทอง และติดตามเบาะแสคนร้ายอีกทาง ความคืบหน้าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาหลังจากห้างได้เปิดทำการทีมข่าวได้เข้าติดตามบันทึกภาพเพิ่มเติมในที่เกิดเหตุ โดยพบว่าเจ้าหน้าที่ร้านทองได้เริ่มเข้ามาปฏิบัติงานและเตรียมที่จะตรวจสอบรายละเอียดของบัญชีทองรูปพรรณที่ถูกคนร้ายจี้ไปได้ ว่ามีน้ำหนักกี่บาทมีมูลค่าความเสียหายแค่ไหน เนื่องจากต้องมีการแจ้งประกันภัยของร้านทองเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่และผู้บริหารร้านปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ เนื่องจากมีการขอร้องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้เผยแพร่ข้อมูลหรือให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว เนื่องจากจะส่งผลต่อคดี นอกจากนั้นขณะที่มีการบันทึกภาพเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้มาขอความร่วมมืองดถ่ายภาพที่เกิดเหตุ
ส่วนการติดตามคดีขณะนี้เจ้าหน้าที่กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนภูธรนครศรีธรรมราช ได้เข้าสนับสนุนเร่งสืบสวนหาตัวคนร้ายรายนี้ และติดตามร่องรอยเนื่องจากพบว่าคนร้ายได้มีการวางแผนมาอย่างรอบคอบรวมทั้งช่องทางหลบหนีที่มีการตรวจสอบเส้นทางไว้ล่วงหน้าแล้วหลังจากก่อเหตุแล้วได้หลบหนีตามเส้นทางอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจุดที่มีรั้วชำรุดของทางห้าง ขณะเดียวกันได้ติดตามกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงแล้วด้วยเช่นกัน