หลวงพ่อสิงห์วัดไผ่เหลืองเมืองนนท์มรณภาพแล้ว

หลวงพ่อสิงห์วัดไผ่เหลืองเมืองนนท์มรณภาพแล้วด้วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองอย่างสงบ เผยกำชับกลุ่มลูกศิษย์และคณะกรรมการวัดไว้ก่อนหน้านี้ให้นำสังขารบรรจุใส่โลงแก้วเอาไว้ ไม่ต้องฉีดยาฟลอมารีน

วันที่ 30 ธันวาคม 52 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูภาวนาวรานุศาสก์ หรือ หลวงพ่อสิงห์ ฐิตสัจโจ อายุ 59 ปี เจ้าอาวาสวัดไผ่เหลือง หมู่ 5 ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และเจ้าคณะตำบลบางม่วงเขต 2 พระหมอดูชื่อดัง ได้มรณภาพลงเมื่อคืนวันที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมาที่โรงพยาบาลธนบุรี 1 หลังป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและต้องไปเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา จนกระทั่งมรณภาพด้วยโรคดังกล่าว

บรรยายกาศที่วัดไผ่เหลือง หลังจากที่คณะกรรมการวัด ศิษยานุศิษย์ ได้อันเชิญร่างของหลวงพ่อสิงห์ออกจากโรงพยาบาลธนบุรี 1 ในช่วงเช้าเพื่อนำมาร่างหลวงพ่อมาตั้งบำเบ็ญกุศลที่ศาลาการเปรียญของวัด และเปิดโอกาสให้ประชาชน ลูกศิษย์ ผู้ใกล้ชิดได้ทำการสรงน้ำก่อนที่จะมีการนำร่างไปบรรจุโลงแก้วต่อไป

พระสิทธิโชค อภินันโท พระเลขานุการของหลวงพ่อสิงห์ กล่าวว่า ก่อนหน้าที่หลวงพ่อจะล้มป่วยและมรณภาพลงนั้น ท่านได้ป่วยเป็ยมะเร็งในเม็ดเลือดขาวมาก่อน จนกระทั่งท่านได้ต่อสู้กับโรคและทำการรักษาตัวมานานนับปีจนกระทั่งหายจากโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาว หลังจากนั้นท่านจึงมาป่วยเป็นมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลืองอีกซึ่งหลวงพ่อก้ได้ต่อสู้และรักษาตัวมาเกือบปีอีกเช่นกัน จนกระทั่งเมื่อสักหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา หลวงพ่อมีอาการป่วยขึ้นมาอีก ทางกลุ่มลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดจึงได้ช่วยกันนำท่านส่งโรงพยาบาลธนบุรี 1 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ท่านใช้พักรักษาตัวเป็นประจำ และทำการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้จนกระทั่งท่านสิ้นลมไปอย่างสงบ

พระสิทธิโชค กล่าวอีกว่า ก่อนหน้าที่หลวงพ่อจะมรณภาพนั้น ได้พยายามพร่ำสอนให้ลูกศิษย์ลูกหาดำเนินชีวิตให้อยู่ในความไม่ประมาท เพราะสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง ให้ยึดมั่นในแนวทางคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เจริญสติด้วยการนั่งสมาธิ มั่นเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งสอนที่หลวงพ่อมักจะพูดเน้นให้กับลูกศิษย์ที่มาเยี่ยมอาการป่วย

นอกจากนี้หลวงพ่อยังได้สั่งกำชับทางกลุ่มลูกศิษย์และคณะกรรมการวัดไว้ก่อนที่ท่านจะมรณภาพด้วยว่า หากเมื่อท่านละสังขารไปแล้ว ขอให้นำร่างท่านบรรจุใส่โลงแก้วเอาไว้ โดยไม่ต้องทำการฉีดยาฟลอมารีน เพราะท่านจะกำหนดจิตรักษาสภาพสังขารเอาไว้ เพื่อลุกศิษย์ลุกหาและผู้เคารพนับถือได้มีโอกาสแวะเวียนมากราบไหว้ในยามที่วัดแห่งนี้สิ้นท่านไปแล้ว

ส่วนกลุ่มลูกศิษย์ลูกหาซึ่งเป็นคนในสังคมชั้นสูงนั้น คาดว่าในวันนี้ช่วงเย็นน่าจะทยอยเดินทางมาสรงน้ำหลวงพ่อกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางวัดได้จัดเตรียมสถานที่เพื่อรอน้ำหลวงพระราชทานอาบศพในเย็นวันนี้ และจะจัดสวดพระอภิธรรมศพคืนนี้เป็นคืนแรก ก่อนที่จะเว้นการสวดพระอภิธรรมศพไป 2 คืนคือคืนวันที่ 31 ธันวาคมและคืนวันที่ 1 มกราคม หลังจากนั้นจะตั้งสวดพระอภิธรรมศพไปเรื่อย ๆ ตามที่คณะกรรมการวัดมีความเห็นสมควร โดยมีายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองผู้จัดการใหญ่บริษัทบุญรอด เทรดดิ้ง เดินทางมาอาบน้ำศพตั้งแต่ช่วงบ่าย

สำหรับประวัติพระครูภาวนาวรานุศาสก์หรือหลวงพ่อสิงห์ เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อเงินวัดดอนยายหอม จ.นครปฐม พระเกจิชื่อดังแห่งลุ่มน้ำนครชัยศรี จ.นครปฐม ก่อนที่จะบวชเรียนและมาพัฒนาปฏิรูปวัดไผ่เหลืองแห่งนี้ จนได้รับการยกย่องยอมรับจากบรรดาลูกศิษย์ลูกหาผู้ใกล้ชิดว่า เป็นเทพเจ้าแห่งดาราศาสตร์ หรือพระหมอดูที่ดูดวงได้แม่นยำที่สุดคนหนึ่งของประเทศและมีบรรดาลูกศิษย์ขอจองคิวดูดวงแบบข้ามปีกันทีเดียว

นอกจากนี้หลวงพ่อสิงห์ยังได้ชื่ออีกว่าเป็นพระอาจารย์ที่ชำนาญในเรื่องของการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน จนมีชื่อเสียงโด่งดังข้ามประเทศ ถึงกับขนาดว่ามหาเศรษฐีจากไต้หวันเดินทางมาทดสอบความแม่นยำของท่านมาแล้ว จนต้องยอมบริจาคเงินถวายวัดให้หนึ่งแสนบาทให้กับความแม่นยำในการดูดวงของท่าน นอกจากนี้กลุ่มลูกศิษย์ลูกหาที่มีชื่อเสียงในแวดวงชั้นสูงหลายคน อาทิเช่น นายสันติ ภิรมย์ภักดี เจ้าพ่อสิงห์ วีเจ.ซิงค์ ยอดโปรกอลฟ์อดีตมือหนึ่งของโลก สเตซี่ พราหมณ์สูตร โปรกอลฟ์ แอล.พี.จี.เอ ทัวร์ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ และเสนาธิการทหารบกคนปัจจุบัน รวมทั้งนายมานะศักดิ์ จันทร์ประสงค์ ส.ส.นนทบุรี

ส่วนวัตถุมงคลของหลวงพ่อสิงห์ที่มีชื่อเสียงนั้น ได้แก่สมเด็จเกศไชโย รุ่นสิงห์นะ ฤ ชา เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรกปี 35 สมเด็นแสนล้าน และพระกริ่งขุนช้าง นอกจากนี้ทางหลวงพ่อสิงห์ยังมีโครงการที่จะจัดสร้างอุทยานอริยสงฆ์ของวัดไผ่เหลือง เพื่อประดิษยฐานองค์หลวงปู่ทวดขนาดหน้าตักกว้าง 12 เมตร สมเด็จพระพุธาจารย์โต พรหมรังสี ขนาดหน้าตัก 10 เมตร และรูปเหมือนหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ขนาดหน้าตัก 10 เมตร ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่สอนท่านในเรื่องวิปัสสนากรรมฐานด้วย นอกจากนี้ก่อนที่หลวงพ่อสิงห์จะมรณภาพ ทางวัดยังได้เตรียมจัดงานแซยิดครบรอบ 60 ปี ให้กับหลวงพ่อในวันเสาร์ที่ 9 มกราคม 53 อีกด้วย แต่หลวงพ่อก็มามรณภาพไปอย่างสงบเสียก่อน ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของศิษยานุศิษย์

ด้านนางแอนนี่ สังข์พิทักษ์ อายุ 70 ปี ชาวบ้านที่ทราบข่าวและเดินทางมาอาบน้ำศพ กล่าวว่า หลวงพ่อท่านเป็นพระที่มีจิตใจดี มีเมตตากับลูกศิษย์ลูกหาทุกคน ตนรู้สึกเสียใจและใจหายเป็นอย่างมากที่ท่านมาจากไป แม้ว่าจะทราบข่าวว่าหลวงพ่อต้องไปเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลก็ตาม แต่ไม่คิดว่าหลวงพ่อจะละสังขารไปเร็วอย่างนี้ รู้สึกเสียดายพระสงฆ์บริสุทธิ์อย่างท่าน เพราะเคยได้มาบวชชีพราหม์ เรียนวิปัสสนากับท่าน จนได้อะไรดี ๆ ติดตัวกลับไป ซึ่งหลังจากงานหลวงพ่อไปแล้ว ตนกับกลุ่มเพื่อนจะสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ที่หลวงพ่อได้สร้างไว้ให้กับวัดแห่งนี้ต่อไป