หนุ่มบุกฟันหัวป้าข้างบ้าน ดับคาชักโครก ติดยาตั้งแต่ ม.1 แม่แท้ๆ ยังกลัวลูกจนลนลาน
หนุ่มคลั่งบุกฟันหัวป้าข้างบ้าน ดับคาชักโครก ประวัติติดยาตั้งแต่ ม.1 แม่แท้ๆ ยังขวัญผวา สุดท้ายอาละวาดทุบกระจกบาดแขนตัวเอง เสียเลือดจนตาย
(4 เม.ย.66) พ.ต.ท.ยืนยง คำบอน สารวัตร(สอบสวน) สภ.เพ็ญ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่ามีเหตุชายคลุ้มคลั่งถือมีดบุกเข้าไปฟันชาวบ้านเสียชีวิตในห้องน้ำ ที่บ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.8 บ้านดอนข่า ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ซึ่งชายผู้ก่อเหตุได้กลับมาบ้านอาละวาดทุบทำลายสิ่งของภายในบ้าน หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.กานต์ ตั้งวิจิตร ผกก.สภ.เพ็ญ, พ.ต.ท.ไพฑูรย์ โสนะโชติ รอง ผกก.สส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหนึ่งที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว
พบผู้เสียชีวิตชื่อ นางฐานิยา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ สภาพสวมเสื้อกล้ามสีขาว กางเกงลายผ้าถุง ถูกฟันด้วยของมีคมที่บริเวณศีรษะเป็นแผลยาวถึงตาซ้าย ที่มือซ้ายมีบาดแผลทำให้นิ้วนาง นิ้วกลางขาด ส่วนนิ้วชี้เกือบขาด นั่งเสียชีวิตอยู่ข้างชักโครกในห้องน้ำ ใกล้ศพพบมีหยดเลือดกระเด็นติดผนังห้องน้ำและเครื่องซักผ้า ประตูห้องน้ำหลุดพังเสียหายทั้งบาน
ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายปราวุฒ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ซึ่งบ้านอยู่ตรงข้ามกันกับบ้านผู้ตาย เป็นบ้าน 2 ชั้น หลังก่อเหตุได้กลับมาอาละวาดทุบทำลายข้าวของอยู่ภายในบ้านและเดินบนหลังคาครัว ประมาณ 20 นาที จึงออกมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ในสภาพอ่อนแรง แขนขวาถูกของมีคมบาด เลือดไหลเปื้อนตัว เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เนื่องจากเสียเลือดมาก
จากการสอบสวน น.ส.ชล (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ตนมีบ้านอยู่ใกล้กับบ้านนางฐานิยา ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกันอย่างรุนแรง คิดว่าผู้ตายทะเลาะกับสามี ตนจึงบอกให้แม่ออกมาดู ก็พบนายปราวุฒซึ่งมีอาการทางจิตประสาทเพราะเสพยา ถือมีดออกมาจากบ้านผู้ตาย แม่และพี่สาวได้วิ่งหลบหนีไป
น.ส.ชล กล่าวต่อว่า ส่วนตนเปิดไฟโทรศัพท์วิ่งออกมา พบนายปราวุฒได้ถือมีดไล่ตนมา ตนจึงวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านแถมโดนหมาไล่กัด และหนีไปหลบอยู่บ้านเพื่อน กระทั่งพี่สาวขับรถจักรยานยนต์มารับกลับบ้าน และมีญาติผู้ตายเข้าไปพบศพของนางฐานิยาอยู่ในห้องน้ำ
ด้าน นายสำราญ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี สามีผู้ตาย ให้การว่า ตนและผู้ตายอยู่ด้วยกัน 2 คน ก่อนเกิดเหตุตนนอนอยู่ในห้อง ส่วนผู้ตายอยู่ในบ้านยังไม่นอน ตนได้ยินเสียงภรรยาพูดกับนายปราวุฒว่า “แม่แดงนะนี่ แม่แดงนะนี่” เพราะผู้ตายกับนายปราวุฒรู้จักกัน จากนั้นก็ได้ยินเสียงต่อสู้กัน ไม่นานเสียงเงียบไป ไม่คิดว่านายปราวุฒจะฆ่าภรรยา เห็นแต่ในข่าว ไม่คิดว่าเหตุการณ์เลวร้ายจะมาเกิดขึ้นกับครอบครัวตัวเอง ซึ่งลูกสาวทราบว่านายปราวุฒคลุ้มคลั่งอาลาะวาด จึงได้มาหาตนที่บ้าน จึงพบว่าแม่ถูกฆ่าตายในห้องน้ำ
ขณะที่ นางเงิน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี แม่ของนายปราวุฒ กล่าวว่า นายปราวุฒ เป็นลูกคนสุดท้อง เป็นโสด เสพติดยาบ้ามาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.1 จนมีอาการทางจิตประสาท ตำรวจได้นำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเมืองเลย และต้องกินยารักษาตลอด ต่อมานายปราวุฒได้ไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพิ่งกลับมาเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา
นางเงิน กล่าวต่อว่า ซึ่งตนรู้สึกกลัวลูกมากจนหวาดผวาตลอด กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพียงแค่ลูกมองหน้าก็กลัวจนลนลาน ที่ผ่านมาลูกเพียงแต่อาละวาดส่งเสียงร้องดังเท่านั้น แต่ไม่เคยฆ่าใคร คืนนี้ลูกชายคลุ้มคลั่งอาละวาดอีก และเข้าไปก่อเหตุฆ่าเพื่อนบ้าน ตนรู้สึกเสียใจมากอยากขอโทษครอบครัวผู้ตายมาก ๆ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจที่เกิดเหตุบ้านผู้ตาย เสร็จแล้วไปตรวจบ้านนายปราวุฒ ซึ่งภายในบ้านพบสิ่งของถูกทำลาย ชั้นล่างสายไฟถูกดึงออก ชั้นที่ 2 กระจกถูกทุบแตก สิ่งของ หิ้งพระ ทุบบานเกล็ด หลังคาห้องครัว ซึ่งมีคราบเลือดผู้ก่อเหตุเต็มบ้านและบนหลังคา คาดว่ากระจกจะบาดข้อมือขวาตัดเส้นเลือดใหญ่ ทำให้เสียเลือดมากจนเสียชีวิตดังกล่าว