แฉภาพลับ เจ้าอาวาสวัดดังยานนาวา เปิดห้องระเริงรักหนุ่มคู่ขา เผ่นหนีจากวัดไร้ร่องรอย

แฉภาพลับ เจ้าอาวาสวัดดังยานนาวา เปิดห้องระเริงรักหนุ่มคู่ขา เผ่นหนีจากวัดไร้ร่องรอย

แฉภาพลับ เจ้าอาวาสวัดดังยานนาวา เปิดห้องระเริงรักหนุ่มคู่ขา เผ่นหนีจากวัดไร้ร่องรอย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แฉภาพลับ เจ้าอาวาสวัดดังยานนาวา เปิดห้องระเริงรักหนุ่มคู่ขา หลังเรื่องแดงรีบเผ่นหนีออกจากวัดไร้ร่องรอย

วันที่ 6 มีนาคม 2566 จากกรณีในโซเชียลแชร์ภาพ ภาพชายหนุ่มไม่สวมเสื้อผ้า ถ่ายรูปเซลฟี่ โดยมีภาพชายหัวโล้นไม่สวมเสื้อผ้านอนอยู่ข้างๆ โดยทีมผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบข้อมูล พบว่าชายในภาพที่หัวโล้นดังกล่าว คล้ายกับ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่วัดดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยทีมผู้สื่อข่าว เดินทางไปพบกับ นายประสงค์ อายุ 58 ปี อาชีพวินรถจักรยานยนต์ ได้เล่าว่า ตนเองได้พบกับชายผมทองที่อยู่ในภาพ มานั่งรอจะเข้าพบเจ้าอาวาส ที่วินรถจักรยานยนต์ปากทางเข้าวัด ตนเองเลยสอบถามด้วยความสงสัยว่า "เจ้าอาวาสเป็นตุ๊ดไหม" ชายดังกล่าวตอบว่า "เป็น" เลยถามต่อว่ามีหลักฐานไหม ชายดังกล่าวตอบว่า "มี อยู่ในโทรศัพท์ แต่เจ้าอาวาสยึดโทรศัพท์ไว้" เลยพาชายดังกล่าวไปขอซิมโทรศัพท์ใหม่และดึงข้อมูลภาพออกมา

พอเห็นภาพก็ตกใจ เป็นจริงอย่างที่ชายดังกล่าวบอก เลยปรึกษารวมตัวกันกับผู้ใหญ่ ตนเองยอมรับเห็นภาพแล้วตกใจ จริงๆ แล้วชาวบ้านแถวนี้รู้พฤติกรรมของเจ้าอาวาส แต่ไม่มีหลักฐาน โดยหนังสือที่ยื่นกับ พระมหาอาทิตย์​ อมโร เจ้าอาวาสวัดทองบน​ ​เจ้าคณะแขวง​ ยานนาวา​ ให้ตรวจสอบกลุ่มพระสงฆ์ที่มากับเจ้าอาวาส และตรวจสอบเจ้าอาวาส ถึงพฤติกรรมการเสพยาเสพติด การเสพเมถุน

โดยในวันนี้เห็นว่า ทางหลวงพ่อ พระมหาอาทิตย์​ อมโร เจ้าอาวาสวัดทองบน​ ​เจ้าคณะแขวง​ยานนาวา​ จะเข้ามาตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว ในเบื้องต้นเท่าที่ทราบว่า เจ้าอาวาสรูปดังกล่าวได้หายตัวออกจากวัดไป โดยผลประโยชน์ในวัดนั้นมีสูง ไม่ว่าจะค่าที่จอดรถหรือค่าอื่นๆ โดยพระสงฆ์กลุ่มเจ้าอาวาสมาจัดการเรื่องผลประโยชน์ต่างๆ ในวัด และมาหาผลประโยชน์ในวัดเสียมากกว่า คงต้องติดตามความคืบหน้าต่อไป

ในส่วนของฝ่ายสงฆ์ ในส่วนตนเองนั่นมองว่า การมาเป็นเจ้าอาวาส อายุยังน้อย ไม่รู้ว่าใช้เส้นสายอะไรถึงมาเป็นเจ้าอาวาส ในส่วนของกลุ่มตนเอง ไม่ต้องการให้เจ้าอาวาสรูปนี้และกลุ่มสงฆ์กลุ่มนี้อยู่ในวัด

 

ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พระครูสถิตบุญวัฒน์ฝ เจ้าอาวาสวัดด่าน ในฐานะเจ้าคณะเขตยานนาวา และพระมหาอาทิตย์​ อมโร เจ้าอาวาสวัดทองบน​ ​เจ้าคณะแขวง​ยานนาวา​ ได้เดินทางมาที่วัดคลองใหม่ เพื่อชี้แจงกับชาวบ้านจำนวนมาก ที่มารอความชัดเจนเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้น ของเจ้าอาวาส

ทันทีเจ้าคณะเขตและเจ้าคณะแขวง เดินทางมาถึง ก็ต่อว่านักข่าว ในลักษณะห้ามทำข่าวและถ่ายภาพ ไม่งั้นจะเดินทางกลับวัด ก่อนจะเดินเข้าไปในศาลาการเปรียญเพื่อพูดคุยชี้แจงกับชาวบ้านเท่านั้น แล้วก็ปิดประตูเหล็กลงเพื่อไม่ให้ทีมข่าวถ่ายภาพ

ซึ่งทางพระสังฆาธิการผู้ปกครองทั้งสองรูป ชี้แจงกับชาวบ้านสั้นๆ ่เพียงว่า พระมหาวิสันต์ ได้ออกจากวัดไปแล้วและหมดหน้าที่การเป็นเจ้าอาวาส ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ไหน

ชาวบ้านก็พยายามสอบถามว่าจะจัดการกับพระมหาวิสันต์ อย่างไร สึกหรือยัง เพราะถือเป็นเรื่องที่ชาวบ้านรับไม่ได้ เพราะทำให้วัดและศาสนาเสื่อมเสีย และหลังจากนี้ใครจะมาดูแลวัด เพราะทางวัดมีผลประโยชน์เยอะ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนชาวบ้านจึงไม่พอใจและโหไล่ พระสังฆาธิการทั้งสองรูปจากนั้นทั้งสองรูปก็ขึ้นรถออกไปจากวัด

ขณะที่พระครูสถิตบุญวัฒน์ (ชาญ) เจ้าคณะเขตยานนาวา กำลังเดินทางกลับ ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เจ้าอาวาสได้มีการหลบหนีออกไปจากวัด โดยที่ยังไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งก็อยู่ในกระบวนการในการสอบสวน โดยมีระยะเวลาประมาณ 1 เดือน แต่ดูจากพฤติการณ์ ไม่ต้องรอให้มีการสึก เพราะขาดจากการเป็นสมณะแล้ว ยืนยันไม่ได้มีการปกป้อง แม้จะเป็นผู้แต่งตั้งพระรูปดังกล่าวให้เป็นเจ้าอาวาสเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ส่วนชาวบ้านที่แสดงความไม่พอใจ มองว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสื่อสารอะไรกับชาวบ้าน ก่อนที่จะเดินขึ้นรถแล้วขับออกไปจากวัด

ขณะที่นางพีชรี อายุ 57 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ บอกกับทีมข่าวว่า ตนเองเติบโตมากับวัด ทำบุญและสนับสนุนบำรุงรักษาวัดมาโดยตลอด ซึ่งในตอนแรกพระรูปดังกล่าวมาเป็นเจ้าอาวาส ก็มีการพูดคุยดี ว่าจะพัฒนา แต่ก็ทำได้เพียงแค่ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เงินที่ชาวบ้านทำบุญ ชาวบ้านไม่มีสิทธิ์ตรวจสอบอะไรได้เลย ไม่มีกรรมการวัด ไม่มีคณะทำงานที่เป็นตัวแทนจากชุมชน มีเพียงแค่เจ้าอาวาสเป็นผู้กลุ่มบัญชีของวัดเป็นผู้เดียว

ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เห็นว่าเจ้าอาวาส มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยมีการเรียกวัยรุ่นชายมาหากลางดึกเป็นประจำ ตนเองก็เคยเห็นด้วยตา แต่ก็ไม่มีหลักฐาน มาคราวนี้ มีหลักฐานครบทุกอย่าง ซึ่งอยากให้ทางพระผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด ส่วนตัว รู้สึกไม่พอใจ ที่พระผู้ใหญ่ทำท่าทีเหมือนจะเข้าข้างกัน และไม่แน่ใจว่าเป็นพรรคพวกเดียวกันหรือไม่ ชาวบ้านมีเจตนาอยากปกป้องวัด และศาสนา ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำลาย และชาวบ้านต้องการคำตอบว่าทางพระผู้ใหญ่จะดำเนินการยังไงต่อ แต่ก็กลายเป็นว่าเดินหนีออกกลางวงประชุม ปล่อยให้ชาวบ้านงงกันทั้งศาลา

ด้านนายสิทธิชัย ลูกศิษย์อดีตเจ้าอาวาสรูปเก่า บอกกับทีมข่าวว่า ตนเองเป็นอีกคนที่รู้สึกว่าเป็นผู้เสียหาย เพราะทำบุญกับวัดมาโดยตลอด ซึ่งพระครูสุทธิธรรมานุกูล อดีตเจ้าอาวาสรูปก่อน ทะนุบำรุงวัดมาดีตลอด จนท่านมรณภาพไป จึงมีเจ้าอาวามาแทน ซึ่งโปรไฟล์ดีทุกอย่าง แต่ภายหลัง ปิดการชาวบ้านไม่ให้มีส่วนร่วมกับการตรวจสอบเกี่ยวกับบัญชีวัด ทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่าวัดไม่โปร่งใส เงินหลายอย่าง ก็มีการโอนเข้าบัญชีส่วนตัว บางครั้งก็โอนเข้าบัญชีสามเณร

ซึ่งมีชาวบ้านหลายคนพบเห็นว่าเจ้าอาวาสคนดังกล่าว มีการชักชวนวัยรุ่นผู้ชาย เข้ามาในช่วงกลางดึกเป็นประจำ ก็มองว่าไม่เหมาะสมแล้วพระผู้ใหญ่ยังมาปกป้องกันแบบนี้อีก ยิ่งทำให้ชาวบ้านหมดศรัทธา และไม่อยากทำบุญกับวัดนี้อีก จนกว่าจะมีการชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งส่วนตัวคาดว่าอาจจะมีการดำเนินคดีเกี่ยวกับเรื่องบัญชีของวัดด้วย

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook