แพทย์ชนบทจี้นายกฯปลด มานิต - เด้งปลัด

แพทย์ชนบทจี้นายกฯปลด มานิต - เด้งปลัด

แพทย์ชนบทจี้นายกฯปลด มานิต - เด้งปลัด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แพทย์ชนบทจี้นายกฯ ใช้กฎเหล็ก 9 ข้อ เชือด มานิต พ้นตำแหน่งรมช. พร้อมเสนอเด้งปลัด สธ.และขรก.เปิดทางสอบวินัยเอี่ยวไทยเข้มแข็ง

นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติต่อกรณีเรื่องงบประมาณไทยเข้มแข็งในส่วนพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) ของกระทรวงสาธารณสุขที่ว่า เมื่อมีการตัดบางรายการออกไป หรือการลดวงเงินในกรณีที่ราคากลางสูงเกินความเป็นจริง ครม. เห็นชอบไม่ให้มีการจัดสรรเงินเหล่านี้กลับไปซื้ออะไรเพิ่มเติม หรือเพิ่มเติมอะไรใหม่ทั้งสิ้นแต่ให้ส่งเงินคืนว่า น่าจะถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงของ ครม. เนื่องจาก กรณีความผิดพลาดครั้งนี้เกิดขึ้นจากนักการเมืองและข้าราชการเพียงไม่กี่คน แต่รัฐบาลกลับไปลงโทษประชาชนตาดำ ๆที่เสียภาษีในชนบทที่ไม่รู้เรื่องเกือบทั้งประเทศ ส่งผลให้ประชาชนต้องสูญเสียโอกาสที่จะเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพในอนาคต ทั้งที่เรื่องนี้สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว และสามารถขยายบริการและกระจายทรัพยากรเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 25-30 ยกตัวอย่างในส่วนของโรงพยาบาลชุมชนตามพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)นั้น ชมรมแพทย์ชนบทได้จัดทำการแก้ไขเสร็จสิ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. ตามที่นายกฯได้มีบัญชาให้จัดทำเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2552 ที่รัฐสภา เพียงแต่ปลัดกระทรวงและรองปลัดกระทรวงไม่ยอมส่งให้สำนักงบประมาณและรัฐบาล

นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ผลของการดำเนินการเฉพาะในส่วนของโรงพยาบาลชุมชนนั้นที่ได้รับงบประมาณตาม พ.ร.ก.จำนวน 5,932 ล้านบาทนั้น สามารถปรับลดงบประมาณเดิมได้ถึง 1,434 ล้านบาท หรือกว่าร้อยละ 25 และสามารถจัดจ้างสิ่งก่อสร้างได้เพิ่มเติมจาก 336 รายการเป็น 441 รายการ หรือคิดเป็นรายการที่เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30 ดังนั้นหากรัฐบาลอ้างว่ามีปัญหาเรื่องเวลา ข้ออ้างดังกล่าวน่าจะฟังไม่ขึ้น ดังนั้นจึงเกรงว่าการส่งสัญญาณเช่นนี้อาจจะสะท้อนความไม่จริงใจของรัฐบาลในการแก้ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น เพราะนอกจากมติดังกล่าวจะไม่กระตุ้นหรือส่งเสริมให้ข้าราชการช่วยกันประหยัดงบประมาณของรัฐฯแล้ว ยังเท่ากับเป็นการลงโทษประชาชนตาดำ ๆ หรือจับประชาชนเป็นตัวประกันอีกต่างหาก จึงขอให้ท่านนายกฯได้ทบทวนมติครม.นี้โดยด่วน

นพ.เกียงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังขอให้นายกฯตัดสินใจดำเนินการแก้ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นนี้ให้เด็ดขาด ได้แสดงภาวะผู้นำตามกฎเหล็ก 9 ข้อที่ให้ไว้ให้ชัดเจน ดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องส่วนที่เหลือทั้งหมดโดยให้ออกจากตำแหน่งไว้ก่อน นับตั้งแต่ฝ่ายการเมืองที่เหลืออยู่ไม่ว่าจะเป็น รมช.สาธารณสุข ตลอดจนข้าราชการที่ยังอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ที่อาจจะมีผลกระทบต่อการสอบสวนทั้งหมด ทั้งปลัดกระทรวง หรือข้าราชการที่เกี่ยวข้องคนอื่น แล้วหาคนมารักษาราชการแทน เพื่อให้การสอบสวนครั้งนี้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแท้จริง จนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ เพื่อให้การดำเนินการในส่วนของงบไทยเข้มแข็งเป็นได้ด้วยดี เพราะประชาชนเสียโอกาสเรื่องนี้ไปมากแล้ว

แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในการเข้าพบนายกฯ ของ นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยรองปลัดกระทรวง และอธิบดีกรมต่าง ๆ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 30 ธ.ค. นั้น ใช้เวลาประมาณ 15 นาที โดย นพ.ไพจิตร์ ถือโอกาสขอบคุณนายกฯที่ให้โอกาสเข้าพบ

ขณะเดียวกันได้ขอรับทราบนโยบายจากนายกฯว่า จะให้เดินหน้าโครงการไทยเข้มแข็งกระทรวงสาธารณสุขอย่างไร ซึ่งนายกฯได้ให้นโยบาย 4 ข้อ คือ 1. รายการใดที่ รพ.ไม่ได้ขอมา และไม่ประสงค์จะได้ขอให้ตัดออก 2.รายการใดก็ตาม ไม่ว่าครุภัณฑ์หรือสิ่งก่อสร้างที่ตั้งวงเงินงบประมาณไว้สูงเกินไปให้ปรับลดลงในวงเงินที่เหมาะสมจะจัดซื้อจัดจ้างได้ 3.รายการใดที่มีการกระจุกตัว ก็ให้ตรวจสอบดูและกระจายให้ทั่วถึง แต่ราคาการจัดซื้อต้องเป็นราคาเดิม และ 4.เมื่อปรับลดวงเงินตามข้อ 1-3 ลงแล้ว วงเงินที่เหลือต้องส่งคืนรัฐบาลทั้งหมด ไม่สามารถที่จะเสนอขอเพิ่มโครงการได้ ทั้งนี้นายกฯให้นโยบายว่า เมื่อทบทวนโครงการแล้วก็ขอให้เดินหน้าโครงการต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook