สาวพลัดพรากแม่กว่า 30 ปี คิดว่าชาตินี้คงไม่ได้เจอแล้ว จู่ๆ โซเชียลสร้างปาฏิหาริย์

สาวพลัดพรากแม่กว่า 30 ปี คิดว่าชาตินี้คงไม่ได้เจอแล้ว จู่ๆ โซเชียลสร้างปาฏิหาริย์

สาวพลัดพรากแม่กว่า 30 ปี คิดว่าชาตินี้คงไม่ได้เจอแล้ว จู่ๆ โซเชียลสร้างปาฏิหาริย์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวพลัดพรากแม่กว่า 30 ปี รู้แค่ชื่อ ไม่มีข้อมูล ไม่มีรูปถ่าย คิดว่าชาตินี้คงไม่ได้เจอแล้ว จู่ๆ โซเชียลสร้างปาฏิหาริย์

(11 เม.ย.66) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ตำบลเขาคอก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ว่ามีเรื่องราวของสองแม่ลูกคู่หนึ่งที่พลัดพรากจากกันมานานกว่า 30 ปี สุดท้ายตามหากันจนเจอเพราะโลกโซเชียล และเมื่อทั้งคู่ได้เจอกันเป็นครั้งแรก ทางครอบครัวญาติพี่น้องก็ได้จัดพิธีบายศรีสู่ขวัญผูกข้อไม้ข้อมือให้กับสองแม่ลูกตามประเพณีความเชื่อพื้นบ้าน ซึ่งคนในครอบครัวก็ได้บันทึกคลิปแห่งความประทับใจ นาทีที่สองแม่ลูกได้เจอหน้ากันครั้งแรกหลังพลัดพรากกันมานานกว่า 30 ปี

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปสอบถามเรื่องราวของสองแม่ลูก ที่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 2 บ้านสี่เหลี่ยม ต.เขาคอก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ก็ได้พบกับ นางสุวรรณ อายุ 59 ปี และนางสาวแสงดาว  อายุ 33 ปี สองแม่ลูกที่เพิ่งได้เจอหน้ากันเป็นครั้งแรก ท่ามกลางญาติพี่น้อง และชาวบ้านในหมู่บ้านที่ทราบข่าวต่างก็มาแสดงความดีใจกับทั้งคู่ที่ได้เจอกัน และผูกข้อไม้ข้อมือให้กับทั้งคู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น

สอบถามนางสุวรรณ ผู้เป็นแม่ เล่าให้ฟังว่า ตอนที่ลูกสาวยังเล็กอายุได้ประมาณขวบเศษ ตนกับสามีซึ่งเป็นชาวจังหวัดศรีสะเกษ มีปัญหากันทำให้ต้องแยกทาง จากนั้นสามีก็พาลูกสาวไปด้วย ตนก็พยายามตามหาหลายที่แต่ก็ไม่เจอทั้งสามี และลูกสาว ก็ตามหาอยู่หลายปีทั้งให้ญาติช่วยตามหาด้วย แต่ก็ไม่เจอจนถอดใจ จนผ่านไปถึงปัจจุบันเป็นเวลา 33 ปี จนกระทั่งญาติลองเสิร์ชหาชื่อในเฟซบุ๊ก แล้วเจอชื่อของลูกสาวโผล่ในเฟสบุ๊ก ญาติจึงลองทักติดต่อจนได้พูดคุยสอบถามกัน ก็บอกข้อมูลทุกอย่างตรงกัน ซึ่งลูกสาวก็บอกกับญาติ พ่อเสียชีวิตไปแล้ว ปัจจุบันลูกสาวก็มีสามีและลูกสาว 2 คน และเมื่อสอบถามจนมั่นใจว่าเป็นลูกสาวของตัวเองที่พลัดพรากจากกันถึง 33 ปี

จนล่าสุดลูกสาวได้เดินทางมาหาที่อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ทันทีที่เห็นหน้าลูกสาวครั้งแรกก็ตื่นเต้นดีใจมากจนพูดไม่ออก เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าจะไม่ได้เจอลูกสาวอีกแล้ว ด้าน น.ส.แสงดาว หรือ แอ๋ม เล่าว่า ตอนที่พ่อพาไปอยู่ที่ จ.ศรีสะเกษ ตนยังเด็กมากอายุแค่ประมาณ 1 ขวบ 3 เดือน ก็ยังจำความอะไรไม่ค่อยได้ พอเรียนจบอายุได้ 19 ปี ก็ไปทำงานที่กรุงเทพฯและแต่งงานตอนอายุ 25 ปี ปัจจุบันตนมีครอบครัวและมีลูก 2 คน ลูกชายอายุ 8 ขวบ ส่วนลูกสาวอายุ 7 ขวบ ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ตนพยายามที่จะตามหาแม่แท้ๆ แต่ไม่รู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับแม่เลย พ่อบอกแค่ว่าแม่อยู่อำเภอประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เท่านั้น

ซึ่งเวลาผ่านไปกว่า 30 ปี ก็คิดว่าแม่คงจากไปแล้ว กระทั่งมีญาติทางฝั่งแม่ ได้ทักเข้ามาในเฟซบุ๊กของตนเอง และติดต่อไปถามว่าตนเป็นลูกของ นายสมนึกและแม่สุวรรณใช่หรือไม่ ซึ่งตอนนั้นตนมีเพียงแค่ใบทะเบียนการเรียน ที่อยู่ที่จังหวัดศรีสะเกษ ที่มีชื่อพ่อแม่อยู่ จึงตอบกลับไปว่าใช่ จากนั้นก็ติดต่อกันมาตลอดจนกระทั่งทราบว่าแม่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ดีใจและอยากเจอหน้าแม่เพราะพลัดพรากกันตั้งแต่ตนยังเด็กจำหน้าแม่แทบไม่ได้ เมื่อมั่นใจว่าเป็นแม่ที่พลัดพรากกัน จึงติดต่อกับทางญาติและเดินทางมาหาแม่ที่อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ พอมาเห็นหน้าแม่ครั้งแรกก็รู้สึกดีใจมาก ไม่คิดว่าจะได้เจอกันแล้ว เพราะคิดว่าแม่จากไปแล้ว ก็จะพยายามมาเยี่ยมแม่บ่อยๆ ก็ขอให้แม่มีสุขภาพแข็งแรง  

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
kookkak

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบน
เว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่
นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้