ทำแผนผัวโหด ยอมรับสาดน้ำร้อน-ขวดซอสยัดอวัยวะเพศเมีย อ้างถูกนอกใจทั้งรักทั้งแค้น

ทำแผนผัวโหด สาดน้ำร้อน-ขวดยัดอวัยวะเพศเมีย อ้างทั้งรักทั้งแค้นที่ถูกนอกใจ ไปมีอะไรกับผู้ชายอื่น

โดยผู้ก่อเหตุ คือ นายไพศาล อายุ 33 ปี เป็นสามีของ นางนริศรา วัย 27 ปี จนบาดเจ็บอาการสาหัส เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 8 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ ด้าน ร.ต.ท.หญิง จิรสุภางค์ ธรรมศร รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี เจ้าของคดี ได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลจังหวัดสมุทรปราการ อนุมัติหมายจับ

ต่อมา ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ได้อนุมัติหมายจับ ที่ 249/2566 ลง 10 เม.ย.66 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้ายและกระทำโดยใช้ วัตถุอื่นล่วงล้ำอวัยวะเพศของบุคคลนั้น และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส

• สาวเพิ่งแต่งงานปีเดียว โดดชั้น 4 หนีตาย ผัวโหดตีหัว ราดน้ำร้อน ขวดเบียร์ยัดอวัยวะเพศ

ต่อมาฝ่ายสืบสวนสืบทราบว่า นายไพศาล ได้หลบหนีไปบ้านเกิดในจังหวัดอุบลราชธานี จึงประสานฝ่ายสืบสวนของ สภ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี เข้าจับกุมตัว นายไพศาล ได้ที่บ้านพัก และคุมตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่ สภ.บางพลี

ล่าสุดวันนี้ เวลา 18.00 น. วันที่ 11 เมษายน 2566 พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี พร้อมด้วย ร.ต.ท.หญิง จิรสุภางค์ ธรรมศร รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี เจ้าของคดี และฝ่ายสืบสวน คุมตัว นายไพศาล ผู้ต้องหารายนี้ ไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมส่งฝากขังศาลจังหวัดสมุทรปราการในวันพรุ่งนี้ โดยเจ้าหน้าที่พาขึ้นไปที่ห้องพักชั้น 4 ของหอพักแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องที่เกิดเหตุ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงแล้วเสร็จ

ขณะที่ นายไพศาล ให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง ใช้น้ำร้อนราดใส่ภรรยาจริง ใช้ขวดยัดอวัยวะเพศจริง ลงมือทำร้ายร่างกายจริง แต่ที่ทำลงไปนั้น นายไพศาล อ้างว่า มาจากความโมโห ที่ภรรยายอมรับว่ามีชายอื่น ขณะนั้นตนเองกำลังต้มน้ำเพื่อทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป วันเกิดเหตุ ภรรยาตนเองบอกว่าถูกคนงานเมียนมาข่มขืน ตนจึงลงไปที่โรงงานดังกล่าว เพื่อไปตามหาชายเมียนมาที่ภรรยากล่าวถึง แต่ไม่พบ จึงขับรถกลับมาที่ห้องพัก พอมาถึงและกำลังต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทานต่อ

ระหว่างนั้น ด้วยความที่ตนเองระแคะระคายเรื่องนี้มานานพอสมควรที่รู้ว่าภรรยาตนเองไปมีชายอื่น จนตนเองทนต่อพฤติกรรมของภรรยาคนนี้ไม่ไหว จึงเอ่ยปากขอให้ภรรยาไปเซ็นใบหย่าที่อำเภอแล้วต่างคนต่างอยู่ และแยกย้ายกันไป ฝ่ายภรรยาจึงเอ่ยปากยอมรับว่า ถูกชายชาวเมียนมาข่มขืนจริงและมีอะไรกับชายอื่นจริง ครั้งแรกอ้างว่าโดนข่มขืน ครั้งที่สองอ้างว่าหากไม่สมยอมอีกฝ่ายจะมาบอกสามี จึงจำใจยอม พอยิ่งได้ฟังแบบนั้นตนเองจึงเกิดอารมณ์โมโห ยกน้ำร้อนที่กำลังต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสาดไปที่ตัวภรรยา ก่อนจะใช้ขวดซอสยัดกระแทกที่อวัยวะเพศของภรรยา แล้วใช้ขวดเบียร์ตีศีรษะไปหนึ่งครั้ง ที่ทำลงไปเพราะอารมณ์โมโหที่ภรรยาไปมีคนอื่น 

ส่วนที่ภรรยาอ้างว่ากระโดดลงมาจากชั้น 4 นั้นไม่เป็นความจริง และประเด็นที่บอกว่าตนเคยตำพริกใส่ภรรยาด้วยนั้นก็ไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่ารักภรรยาคนนี้มาก นายไพศาลระบุด้วยว่า ภรรยานั้นติดเชื้อ HIV

พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี ระบุว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ทำไปเพราะความโมโห เบื้องต้น แจ้งข้อกล่าวหา กระทำอานาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้ายและกระทำโดยใช้ วัตถุอื่นล่วงล้ำอวัยวะเพศของบุคคลนั้น และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหารายนี้ไม่พบประวัติหรือมีคดีติดตัว ส่วนฝ่ายภรรยา แพทย์ยังคงให้พักรักษาตัวในห้องปลอดเชื้อ เพราะเกรงว่าแผลที่ถูกน้ำร้อนลวกที่ขาจะติดเชื้อในช่วงหน้าร้อนนี้