เพื่อนไม่เชื่อ น้ำเพชร ร่วมแก๊งอุ้มหนุ่มจีนยัดกล่องเรียกค่าไถ่ วอนสังคมอย่าเพิ่งตัดสิน

เพื่อนไม่เชื่อ น้ำเพชร ร่วมแก๊งอุ้มหนุ่มจีนยัดกล่องเรียกค่าไถ่ วอนสังคมอย่าเพิ่งตัดสิน

เพื่อนไม่เชื่อ น้ำเพชร ร่วมแก๊งอุ้มหนุ่มจีนยัดกล่องเรียกค่าไถ่ วอนสังคมอย่าเพิ่งตัดสิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เพื่อนของ "น้ำเพชร" เปิดใจกับนักข่าว ไม่เชื่อเพื่อนร่วมแก๊งอุ้มหนุ่มจีนยัดกล่องเรียกค่าไถ่ ปัดเพื่อนเกาะผู้ชายกิน ยันไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน

ความคืบหน้าคดีแก๊ง 6 คนไทยอุ้มชายชาวจีน ไปรีดค่าไถ่กว่า 4 ล้านบาท ว่า หลังจากที่สามารถจับกุมคนร้ายทั้ง 6 รายได้แล้วเมื่อคืนนี้ จากการสอบปากคำเบื้องต้น ทั้ง 6 ราย รวมถึง น.ส.เพชรลดา หรือ น้ำเพชร อดีตผู้เข้าประกวดนางงามเวทีดัง ให้การยอมรับเพียงแค่ว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ แต่ผู้ต้องหา 5 ราย ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยเฉพาะผู้ต้องหาคนแรกที่ถูกจับได้ ให้การรับสารภาพว่ากระทำความผิดจริง

ล่าสุด วันนี้ (18 เม.ย.) เพื่อนๆ ของ น.ส.น้ำเพชร พร้อมครอบครัวและทนายความเดินทางนำอาหารเตรียมเข้าเยี่ยม โดยทางครอบครัวน้ำเพชร ไม่ขอให้ข้อมูลใดๆ กับผู้สื่อข่าว

ในขณะที่ เพื่อนของน้ำเพชร เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนเองไม่เชื่อว่า น้ำเพชรจะทำเรื่องดังกล่าว และในวันเกิดเหตุ น้ำเพชรอยู่กับตน ก่อนจะแยกย้ายกันกลับคอนโด อีกทั้งในช่วงเวลาที่ Mr.Wang หายไป น้ำเพชรก็เป็นคนช่วยตามหา และเดินทางเข้าแจ้งความคนหายที่ สน. แต่ตอนนั้นตำรวจไม่รับแจ้ง เพราะยังไม่ครบ 24 ชั่วโมง

โดยเพื่อนของ น.ส.น้ำเพชร ได้เล่ารายละเอียดให้ฟังว่า เมื่อวัน 14 เม.ย. เวลาประมาณ 19.00 น. น้ำเพชรไปเที่ยวกับพี่ๆ ที่สยาม จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.50 น. ของวันที่ 15 เม.ย. น้ำเพชรได้โทรหาตน และเล่าว่าตอนนี้ยังไม่ได้นอนเลย เพราะเพื่อนๆ ของพี่หวังโทรมาว่าติดต่อพี่หวัง แฟนหนุ่มไม่ได้

ทั้งที่เมื่อช่วงเย็น น้ำเพชร ยังคุยกับพี่หวังอยู่เลย โดยพี่หวังโทรมาว่าไม่ต้องมาที่ห้องเพราะพี่หวังจะไปเที่ยวพัทยา ซึ่งตอนนั้นน้ำเพชรยังสงสัยว่าแฟนหนุ่มอาจจะแอบไปเที่ยวกับสาวๆ จึงชักชวนตนไปที่คอนโดของแฟนหนุ่ม

โดยขอเช็กกล้องวงจรปิด แต่ทางนิติของคอนโดปฏิเสธเพราะก่อนหน้านี้มีคนจีนมาขอดูกล้องไปแล้วรอบหนึ่ง จากนั้นเวลาประมาณ 02.30 น. พี่หวังได้โทรมาหาน้ำเพชรอีกครั้ง โดยครั้งนี้บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะอยู่พัทยากับเพื่อนแล้ว ตนเองจึงแยกย้ายกับน้ำเพชรกลับไปพักผ่อน

จนกระทั่งช่วงเช้าวันเดียวกันก็ไม่สามารถติดต่อพี่หวังได้อีกครั้ง จึงตัดสินใจแจ้งความกับตำรวจ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความเนื่องจากยังไม่ครบ 24 ชั่วโมง

ส่วน นายกาย ซึ่งที่หลายคนเข้าใจว่าเป็นกิ๊กของ น.ส.น้ำเพชร จริงๆ แล้วชื่อบอส ซึ่งก่อนหน้านี้น้ำเพชรคบหากับพี่หวังมาประมาณ 1 ปี โดยรู้จักกันผ่านการทำงาน ไม่ใช่การเกาะผู้ชายกินอย่างที่คนอื่นเข้าใจ เพราะน้ำเพชรไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน

จนกระทั่งเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว น้ำเพชรได้เลิกรากับพี่หวัง และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ นายบอสเข้ามาพอดี จึงได้คบหากับนายบอส ต่อมาเมื่อช่วงเดือน เม.ย. ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 อาทิตย์ พี่หวังได้ตามมาง้อ และน้ำเพชรได้เลือกพี่หวัง ทั้งคู่จึงกลับมาคบกัน

ซึ่งในจุดนี้อาจจะทำให้นายบอสเกิดหึงหวง ประกอบกับช่วงหลังๆ รู้สึกว่านายบอสจะมีปัญหาเรื่องเงิน จึงอาจจะว่างแผนก่อเหตุดังกล่าว

ส่วนเรื่องที่นายบอสใช้รถยนต์และคีย์การ์ดของน้ำเพชรในการก่อเหตุนั้น โดยปกติแล้วนายบอสมักจะใช้รถยนต์ของน้ำเพชรเดินทางไปไหนมาไหนโดยตลอดอยู่แล้ว ส่วนคีย์การ์ดก็อยู่ในรถดังกล่าว

ส่วนเลขที่ห้องพักเป็นข้อมูลพื้นฐานอยู่แล้ว เพราะคนเป็นกิ๊กก็ต้องเคยไปมาหาสู่ หรือสอบถามพูดคุยเรื่องพื้นฐานพวกนี้อยู่แล้ว ซึ่งในระหว่างที่น้ำเพชรคบหานายบอส ตนเองก็ตักเตือนมาโดยตลอด เพราะไม่ชอบพฤติกรรมส่วนตัวของนายบอสอยู่แล้ว

ส่วนที่ตนเชื่อว่าน้ำเพชรไม่ได้กระทำเรื่องแบบนี้อย่างแน่นอน เพราะเพื่อนตนเป็นคนรักครอบครัว ช่วยเหลือครอบครัวทุกอย่าง เป็นคนเฟรนด์ลี่ เชื่อว่าน้ำเพชรไม่รู้เรื่องนี้ อยากให้สังคมอย่าเพิ่งตัดสินเพื่อนของตน จากเพียงแค่คำให้การของบอส

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook