ลูกหลานดราม่า ไม่ให้เผายายวัย 81 ทั้งที่สวดอยู่ข้างเมรุ เพราะไม่ใช้สัปเหร่อของวัด
ฟังความสองฝ่าย ดราม่าลูกร้องสื่อมัคนายกไม่ให้เผาศพยายวัย 81 เพราะไม่ใช้สัปเหร่อของวัด
(18 เม.ย. 66) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดเจ้าฟ้า ต.สวนดอกไม้ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี เพื่อตรวจสอบข้อมูล ภายหลังได้พบว่ามีการโพสต์ และการแชร์ในกลุ่มของ จ.สระบุรี หลายๆ กลุ่ม ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพ โดยมีรายละเอียดว่า “เป็นคนเจ้าฟ้าแท้ๆ ไม่ให้เผาเมรุเจ้าฟ้าให้ไปเผาเมรุที่วัดอื่นมันทุเรศเกินไปมั้ย” พร้อมโพสต์รูปหญิงสูงอายุนอนในโลงศพ
ขณะที่อีกโพสต์ เป็นข้อความพร้อมรูปภาพและคลิปวีดีโอ โดยมีรายละเอียดว่า ตายแล้วก็เนอะจะเผาทั้งที่ยังยากเลย วัดที่อยู่ก็เผาไม่ได้ต้องเอาโลงใส่รถไปเผาวัดอื่น พร้อมคลิปขณะเคลื่อนย้ายโลงศพไปเผาที่วัดอื่น และภาพขณะเตรียมขนย้ายโลงศพ ซึ่งพบว่าทางญาติผู้เสียชีวิตกำลังทำบุญกระดูกให้ผู้เสียชีวิต ซึ่งมีการฌาปนกิจไปเมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา
จากการสอบถาม นายวุฒิชัย อายุ 57 ปี ทราบว่าหญิงสูงอายุที่นอนในโลงศพคือ นางบุญเกิด อายุ 81 ปี เป็นแม่ของนายวุฒิชัย มีการนำร่างของแม่มาบำเพ็ญกุศลที่วัดเจ้าฟ้า ซึ่งเป็นวัดใกล้บ้านและคุ้นเคยตั้งแต่เด็ก แต่กลับถูกห้ามให้นำศพแม่มาเผาที่วัดนี้ ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามีความเป็นมาอย่างไร
นายวุฒิชัย เล่าว่า มัคนายกไม่ให้เผา แต่ทางพระอาจารย์ท่านให้เผาอยู่แล้ว พระอาจารย์ท่านบอกว่า เผาได้ ทำไมจะเผาไม่ได้ แต่ทางมัคนายกบอกว่า ยังไงก็เผาไม่ได้ ส่วนสาเหตุมาจาก ตนนำสัปเหร่อที่เป็นญาติสนิทรู้จักกันดี มาทำศพให้แม่ของตนตอนเย็น ก็ลากศพตั้งแต่ในบ้านออกมาไว้ที่วัด ตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.66 เสร็จแล้ว วันที่ไปทำบุญมัคนายกมาว่าตน บอกว่า แม่มึงไม่สมควรที่จะเผาที่วัดนี้ ตนก็เฉยไม่ได้พูดโต้ตอบอะไร ตนจึงได้มาถามพระอาจารย์ ท่านบอกว่า เผาได้ ทำไมเป็นอะไรจะเผาไม่ได้ ตนจึงตัดสินใจไปเผาที่วัดไผ่ล้อมเลยแล้วกัน ซึ่งอยู่ห่างประมาณครึ่งกิโล เนื่องจากตนตัดความรำคาญทางมัคนายก เพราะเขาจะเอาตามกฎระเบียบ ซึ่งตามกฎระเบียบของเขา จะต้องเอาสัปเหร่อของเขา
ส่วนสัปเหร่อที่ตนนำมานั้น ซึ่งเขาก็เคยอยู่ที่วัดเจ้าฟ้านี้มาก่อน และตนก็ไม่เคยผิดใจบาดหมางกับใคร แต่พอแม่ตนเสียแล้ว ตนขึ้นไปทำบุญบนวัดเขาก็มาต่อว่าตน ว่าแม่มึงไม่สมควรที่จะเผาที่วัดนี้หรอก ตนจึงได้ถามกลับไปว่าเพราะอะไร เขาก็บอกว่า ไม่สวมที่จะเอาไอ้เม้ง (สัปเหร่อฝ่ายตน) มาเผาศพ มันต้องเอาสัปเหร่อประจำวัด
ส่วนมัคนายกที่มาต่อว่าตน ชื่อเล่นป๊อก อายุประมาณ 70 กว่าปี ตนรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้โต้ตอบอะไร เพราะไม่อยากจะวุ่นวายอะไรมากมาย ตนก็เป็นคนที่นี่ เกิดที่นี่ แต่ก็เผาที่วัดนี้ไม่ได้และมาทำบุญที่วัดเจ้าฟ้าตลอด ญาติพี่น้องก็อยู่ที่นี่ ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งตนเป็นคนแรกเลย ทุกคนก็งงว่า ตนเองอยู่ที่นี่ทำไมเผาแม่ตัวเองที่นี่ไม่ได้ แค่เปลี่ยนสัปเหร่อเอง ซึ่งเขาหวังดีมาช่วยทุกอย่างเลย แม่ของตนตายตอนเย็น เขาเป็นคนที่ตนรู้จักและสนิทมาก พอโทรเรียกปุ๊บเขาก็มาเลย และก็นำศพออกมา จัดการเรื่องโลงศพ แม่ของตนตายตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย. และเผาเมื่อวันที่ 16 เม.ย.66 ช่วงเย็น วันนี้ตนมาทำบุญกระดูกแม่ ซึ่งเขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร นอกจากเรื่องเผาศพ ตนก็งงมาก เพราะตนก็ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ถึงจะมีกฎระเบียบ แต่คนของตนมีพร้อม ก็ไม่น่าเข้ามาวุ่นวาย ส่วนวันนี้ที่มาร้องสื่อ เพราะไม่อยากให้เป็นเยี่ยงอย่างแบบนี้ตามวัด เพราะถ้าเขามีมาพร้อมอะไรแบบนี้ ทางมัคนายกสมควรที่จะให้เขาทำ เพราะทางพระอาจารย์ท่านให้อยู่แล้ว ขอให้เคสของตนเป็นเคสแรก และเป็นประวัติศาสตร์แล้วกัน เพราะมันไม่เคยมีมาก่อน
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง นาวาโทสมศักดิ์ อายุ 76 ปี ไวยาวัจกรวัดเจ้าฟ้า โดยเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ตนเองเป็นไวยาวัจกรของวัด และทำหน้าที่มัคนายกควบคู่ไปด้วย ต้องทำความเข้าใจว่าทางวัดมีสัปเหร่อประจำวัดอยู่ และสัปเหร่อที่ทางเจ้าภาพไปหามาเขาไม่ยอมเผาเมรุวัดเจ้าฟ้า ทางเราก็เลยไม่ให้เขาเผา เพราะเราก็มีสัปเหร่อประจำวัด และต้องการให้สัปเหร่อประจำวัดเผา แต่เขาไม่ยอม เขาไปเอาสัปเหร่อที่อื่นมาเผา ซึ่งเราก็กลัวว่าความเสียหายจะเกิดกับเมรุ และอุปกรณ์ในการเผา อีกทั้งสัปเหร่อประจำวัดที่เราไปหามาจะเข้าใจผิดว่าทำไมไม่เรียกเขามา แต่เรียกใช้คนเก่า อนาคตต่อไปถ้าเขาไม่มาเผาศพให้ ทางชาวบ้านวัดเจ้าฟ้าจะทำอย่างไร จะไม่มีสัปเหร่อเผาศพ
พอตนแจ้งไป เขาก็ยังดื้อรั้นที่จะเผา แต่เขาบอกว่าไม่เผาที่นี่ก็ได้ จะไปเผาวัดไผ่ล้อม ซึ่งทางเจ้าอาวาสก็โอเคถ้าจะไปเผาที่วัดไผ่ล้อม ส่วนสาเหตุที่มันเกิดเรื่องแบบนี้ เพราะสัปเหร่อเป็นต้นเหตุ เจ้าภาพจะเอาคนนี้ แต่ทางคนนี้ก็เคยพูดว่า เขาจะไม่เผาศพวัดเจ้าฟ้า ทั้งที่เจ้าอาวาสเคยไปขอร้องเขาแล้วเขาก็บอกว่า ไม่เผาให้วัดเจ้าฟ้าอีก แต่ยังคงทำให้วัดอื่นหากติดต่อเขา สัปเหร่อคนนี้เคยอยู่บ้านข้างเคียง เขาเคยเผาศพตั้งแต่สมัยเตาถ่าน เผามาตลอด พออยู่ไปอยู่มา เขาไม่พอใจ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งศพจะเผาตอน 4 โมงอยู่แล้ว เวลาประมาณเที่ยงกว่าๆ เขาคืนกุญแจเมรุให้ และบอกว่า เขาไม่ทำ และลักษณะก็เกิดขึ้นมาหลายๆ ศพที่เขาไม่ทำ
ส่วนสาเหตุที่ไม่ทำนั้น ตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาไม่พอใจอะไร เขาถึงไม่ทำ และทางกรรมการวัดก็เดือดร้อน ถ้าเกิดชาวบ้านเสียชีวิต จะเอาใครมาเผา กรรมการก็ต้องไปหาสัปเหร่อมาสำรองประจำวัด แต่งานนี้เขาไม่เอาสัปเหร่อประจำวัด เขาจะเอาสัปเหร่อของเขา จึงได้เกิดเรื่องในลักษณะนี้ เจ้าอาวาสได้คุยกับเขาแล้ว เขาก็บอกไม่ทำ ฝ่ายสามีเขายอมรับแต่ภรรยาเขาไม่เอา จะเอาสัปเหร่อคนนี้อย่างเดียว ถ้าใช้สัปเหร่อทางวัดเราให้เผาตลอด แต่คนนี้เราก็กลัวว่าเขาจะมาทำอะไรกับอุปกรณ์เตาเผาศพ เพราะเราไม่รู้และไม่ได้ชำนาญกับเรื่องพวกนี้ ซึ่งเราเป็นกรรมการวัดก็ต้องระวังไว้ก่อน ตนเองเกิดที่นี่ ก็อยากจะดูแลวัดที่นี่เพื่อให้มันถูกต้องตามกฎเกณฑ์ ซึ่งระเบียบเราระบุไว้ยังไง ก็ต้องปฏิบัติตามนั้น แต่เขาก็ยังดื้อรั้น ซึ่งต้องใช้สัปเหร่อของวัด พอตายต้องมาหาเจ้าอาวาสก่อน แล้วมาติดต่อสัปเหร่อว่ายังไง แต่นี่พอตายปั๊บ โทรหาสัปเหร่อเลย มันไม่ใช่ ทำกันโดยไม่ถูกต้อง ไม่ได้มาติดต่อกับทางวัดก่อน และโพสต์ลงเฟซบุ๊กไปว่า ไม่ให้เผา ไม่ใช่เลย จริงๆ ให้เผา แต่ขอเป็นสัปเหร่อของวัด ไม่ใช่เอาสัปเหร่อที่อื่นมาเผา มันไม่ใช่ ซึ่งเราก็กลัวเกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์เตาเผาแค่นี้เอง