ส่งท้ายปี วัว เหงาวงการเพลงไม่คึกคัก
ปีวัวที่ผ่านมา...ดูเหมือน "วัว" ตัวนี้จะไม่ชอบฟังเพลงสักเท่าไหร่ ทำให้วงการเพลงดูจะเงียบเหงาพิลึก การปรับเปลี่ยนรูปแบบของการนำเสนอที่ยังไม่นิ่ง อยู่ครึ่งๆ กลางๆ
ระหว่างระบบซีดี และดาวน์โหลด ยังคงทำให้วงการเพลงในปีที่ผ่านมีทิศทางไม่ชัดเจน ส่งผลให้ศิลปินที่จะสร้างสรรค์ผลงานก็เหนื่อยหน่าย บ้างก็ไฟมอด ไม่มีกะจิตกะใจจะสร้างสรรค์ผลงาน
ก่อนจะอำลาปีวัวมาดูกันสิว่า วงการเพลงปีที่ผ่านมีอะไรให้ติดตามบ้าง...
ค่ายยักษ์เหนื่อย ต้องปรับตัววุ่น
ปีที่ผ่านมาจำนวนซีดีอัลบั้มเต็มที่นำออกวางจำหน่ายมีปริมาณลดลงอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ทำไปก็ไม่คุ้มกับการลงทุน ค่ายยักษ์ใหญ่จึงหันมาปรับกลยุทธ์ทำงานในรูปแบบซิงเกิ้ลที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าแทน โดยเฉพาะค่ายยักษ์ฝั่งอโศกที่หันไปดันงานในรูปแบบซิงเกิ้ลออกมาจำนวนมาก ในขณะที่ซีดีอัลบั้มเต็มมีเพียงหยิบมือ แต่ดูเหมือนซิงเกิ้ลส่วนใหญ่ยังไม่โดนใจ ตกหล่นหูคนฟังไปนับร้อย เลยต้องหันมาลุยตลาดโชว์บิสอย่างถึงพริกถึงขิง
ส่วนค่ายยักษ์ฝั่งลาดพร้าว วิกฤติวงการเพลงที่ผ่านมาทำให้เสียศูนย์ไปไม่น้อย ปีที่ผ่านมาอาร์เอสหันมาจับตลาดวัยรุ่นตอนต้นชัดเจน หลังจาก "กามิกาเซ่" ประสบความสำเร็จ แต่ดูเหมือนก็ยังคงได้ไม่คุ้มเสีย เรียกว่าวิกฤติครั้งนี้อาร์เอสต้องดิ้นกันเฮือกใหญ่ด้วยการลุยหันมาบุกตลาดเคเบิ้ลอย่าง "ยู แชนแนล" เพื่อหวังหนทางรอด
โชว์บิสคึกคัก คอนเสิร์ตเพียบ
ธุรกิจเดียวที่ไปรอดของวงการเพลงปีที่ผ่านมา ต้องยกให้ธุรกิจโชว์บิส หรือ ธุรกิจขายโชว์-คอนเสิร์ต ปีที่ผ่านมามีคอนเสิร์ตใหญ่น้อย ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมกว่า 100 คอนเสิร์ต เรียกว่าตลอดวันหยุดสุดสัปดาห์ มีคอนเสิร์ตดาหน้ามาให้เลือกช็อปกันไม่ถูก แต่ส่วนใหญ่ศิลปินร่วมโชว์ก็ยังคงซ้ำกันไป ซ้ำกันมา ผู้จัดที่ครองตลาดคลอดคอนเสิร์ตออกมามากที่สุด ทั้งฟรีคอนเสิร์ต ทั้งคอนเสิร์ตเสียสตางค์ นั่นคือ "เอ-ไทม์ มีเดีย" ที่สร้างงานออกมากว่าครึ่งร้อย
วงที่ไปโผล่ได้ทุกงาน เรียกว่ากลายเป็นเจ้าพ่อคอนเสิร์ต ต้องยกให้วง "กรู๊ฟไรเดอร์ส" เพลงที่ได้ฟังทุกงาน ก็ต้องเพลง "หยุด" ของวงเดียวกัน อำเภอที่ผู้จัดต่างแห่นำคอนเสิร์ตไปจัดมากที่สุดแบบตีคู่กันมาต้องยกให้ "หัวหิน" และ "ปากช่อง" (เขาใหญ่) ส่วนสถานที่จัดที่ฮอตที่สุดนั่นน่ะ หนีไม้พ้น "ปาล์มเนเจอร์ หัวหิน" และ "โบนันซ่า เขาใหญ่" สำหรับกระแสแนวดนตรีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในครึ่งปีหลัง จนทำให้มีเทศกาลดนตรีแนวนี้ผุดขึ้นหลายงาน ต้องยกให้ "เรกเก้-สกา"
นักร้องหน้าใหม่แจ้งเกิด
ด้วยความที่วงการเพลงยังคาบลูกคาบดอก ทำให้ปีที่ผ่านมา ศิลปินหน้าใหม่มีโอกาสได้ทำงานน้อยลง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีศิลปินแจ้งเกิดเลยซะทีเดียว ที่เรียกว่าแจ้งเกิดเต็มตัว โด่งดังสุดๆ ไม่มีใครเกินสาว "น้ำชา" ชีรณัฐ ยูสานนท์ เพราะนอกจากซิงเกิ้ลที่ 2 "รักแท้ยังไง" จะดังเปรี้ยงปร้างแล้ว ข่าวคราวการคบหาดูใจกับหนุ่มไฮโซ "ก้อง" กรุณ ซอโสตถิกุล ก็ช่วยเพิ่มความดังไปอีกทวีคูณ ส่วนนักร้องจากเวทีประกวดก็โผล่มาแจ้งเกิด โดยเฉพาะ "สิงโต" สิงหรัตน์ จันทร์ภักดี "แกรนด์" พรรณวรท ด้วยเศียรเกล้า ที่เขาว่ากันว่ายอดดาวน์โหลดผลงานของทั้งคู่สูงลิ่วเอาการ แถมฝ่ายหญิงยังขึ้นแท่นไปเป็นนางเอกละครแล้วด้วย
เพลงยอดนิยมแห่งปี
"รักแท้รักที่อะไร ตับ ไต ไส้ พุง หรือรักกางเกงที่นุ่ง ว่าดูสวยดี รักที่นามสกุล รักยี่ห้อรถยนต์ รักเพราะว่าไม่จน มีสตางค์ให้จ่าย..." คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเพลง "รักแท้ยังไง" ของสาว "น้ำชา" ชีรณัฐ เป็นเพลงที่ยอดฮิตสุดๆ ในปีที่ผ่านมาเดินไปไหนมาไหนก็ได้ยินเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังตลอด เช่นเดียวกับเพลง "ห้ามทิ้ง" ของ อะตอม ไมค์ไอดอล ที่ร้องว่า "เป็นแฟนกับฉัน กฎข้อแรกก็คือห้ามทิ้ง ข้อที่สองก็คือห้ามทิ้ง โกรธมากเลยถ้าเธอมาทิ้ง ไม่ใช่ถังขยะ ฉันไม่ใช่ถังขยะ แล้วข้อที่สามก็ยังห้ามทิ้ง ยันข้อเก้าก็ยังห้ามทิ้ง ไม่ได้แกล้งเนี่ยพูดจริงๆ ฉันไม่ได้แกล้งหลอก ฉันไม่ใช่ผีจะมาหลอกเธอได้ไง..."
ถ้าถามถึงเพลงของฝ่ายชาย หากเป็นเพลงเร็ว สนุกสนาน เพลงชื่อแปลกอย่าง "อ๊อด อ๊อด" ของหนุ่มๆ วง เดอะ ริช แมน ทอย ก็ยอดนิยมไม่แพ้ใคร ส่วนถ้าถามว่าอัลบั้มไหน มีเพลงที่ทยอยดังมาได้เรื่อยๆ แบบไม่ยั้ง ต้องยกให้อัลบั้ม "เซนส์ ออฟ ซาวนด์" ของหนุ่ม บอย พีซเมคเกอร์ เรียกว่าโปรโมทน้อยมาก แต่ปล่อยเพลงไหนออกมาเป็นโดน แถวบ้านเรียกกินกันยาววว...
แต่ถ้าหันไปดูสถิติในเว็บไซต์ยอดฮิตอย่างกูเกิล ในหมวดเพลงไทย เพลงใหม่ที่ถูกเซิร์จหามากที่สุด ก็เรียงลำดับได้ดังนี้ เพลง "ถามเอาอะไร" ของเต้น ไมค์ไอดอล เพลง "คนไม่มีเวลา" ของ "ว่าน" ธนกฤต พานิชวิทย์ และเพลง "วีน" ของสาวตีน่า
ส่วนถ้าถามถึงเพลงเกาหลีที่มาฟีเวอร์ในบ้านเรา แม้ว่าปลายปีกระแสจะเริ่มกลายเป็นขาลง แต่ในปีที่ผ่านมาคนไทยก็ร้องเพลงเกาหลี 3 เพลงนี้ได้อย่างติดปาก ไม่ว่าจะเป็น "โนบอดี้" ของสาวๆ วันเดอร์เกิร์ลส์ เพลง "จี" ของเกิร์ล เจเนอเรชั่น เพลง "ซอรี่ ซอรี่" ของหนุ่มซูเปอร์จูเนียร์ จริงปะ...
อินดี้พ้นดิน
นอกจากในปีที่ผ่านมาจะมีศิลปินค่ายยักษ์แจ้งเกิดแล้ว ในหมู่เพลงอินดี้ หรือ ใต้ดิน ก็มีศิลปินหลายคนที่โผ่ลพ้นดินขึ้นมาแจ้งเกิดเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เริ่มจาก "จุ๋ย จุ๋ยส์" หนุ่มที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง เจ้าของเพลงฮิต "กาลครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่ผมขึ้นป.5 ได้เจอกับครูสาวสวย ครูชื่อวาสนา เป็นเด็กยังตัวเล็กๆ ไม่เคยจะเรียนอังกฤษวิชา ก็อยากให้ครูน่ะมา ครูวาสนามาสอนหน่อย..." ไล่มาจนถึง "เดอะ ริช แมน ทอย" วงเด็กหนุ่มจากค่ายเล็กๆ สมอลล์รูม จากอัลบั้มชุดแรกที่รู้จักกันในกลุ่มแฟนอินดี้ แต่พอมาอัลบั้มที่ 2 ในปีนี้ ด้วยความโดดเด่นของตัวเพลง ประกอบกับเสียงร้องของนักร้องนำ ทำให้วงดนตรีวงนี้ก้าวขึ้นมาเป็นขวัญใจแฟนเพลงในวงกว้าง เดินตามรอย วงแทททู คัลเลอร์ เพื่อนร่วมค่ายมาติดๆ
ยังไม่หมด กับเพลงประโยคเด็ด "ดู ดู ดู ดูเธอทำ ทำไมถึงทำกับฉันได้.." ทำให้ศิลปินอารมณ์ศิลป์ที่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ อย่าง จ๊อบ บรรจบ ก้าวขึ้นมาเป็นที่รู้จัก และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กระแสดนตรีแนวเรกเก้ขึ้นมาได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปีที่ผ่านมา ในขณะที่วง "เคลียร์" แม้ก่อนหน้านี้จะอยู่ภายใต้สังกัดแกรมมี่ แต่กลับไม่เป็นที่รู้จักเท่าไหร่ มาปีนี้หลังจากได้มีโอกาสนำเพลงวงบิ๊กแอสส์มาคัฟเวอร์ ทำเอาดังเปรี้ยง งานเข้า...งานเข้า...แบบไม่ทันตั้งตัว
อย่างไรก็ดี แม้ปีวัวที่ผ่านมาวงการดนตรียังคงเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ แต่ก็ถือว่ายังมีช่องทางสว่างให้เห็นอยู่ หวังว่าปีหน้า "เสือ" ตัวนี้คงชอบความรื่นรมย์ของเสียงเพลงบ้าง...เฮ้อ...