บิ๊กโจ๊ก อัปเดตเหยื่อ "แอม ไซยาไนด์" รายที่ 13 เป็นโฟร์แมนหญิง หัวใจวายตาย

บิ๊กโจ๊ก อัปเดตเหยื่อ "แอม ไซยาไนด์" รายที่ 13 เป็นโฟร์แมนหญิง หัวใจวายตาย

บิ๊กโจ๊ก อัปเดตเหยื่อ "แอม ไซยาไนด์" รายที่ 13 เป็นโฟร์แมนหญิง หัวใจวายตาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บิ๊กโจ๊ก อัปเดตเหยื่อ "แอม ไซยาไนด์" รายที่ 13 เป็นโฟร์แมนหญิง ค้ำประกันเงินกู้ให้ หัวใจวายตายเมื่อปี 63

เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 27 เม.ย. ที่ ห้องสอบสวน สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีนางสรารัตน์ หรือ แอม ผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาลักทรัพย์ หลายสิบรายนั้น โดยระบุว่า หลังจากที่วานนี้ (26 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนสืบสวน พบเสียชีวิตอีก 1 ราย เป็นผู้หญิง อาชีพโฟร์แมน อายุยังไม่เยอะ ในพื้นที่ สภ.โพรงมะเดื่อ จังหวัดนครปฐม โดยเกิดขึ้นเมื่อปี 63 นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องเช่าภายในอพาร์ตเมนต์ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้สอบปากคำใคร เพราะเพิ่งปรากฏข้อเท็จจริง โดยหญิงสาวรายนี้รู้จักกับแอม ส่วนสาเหตุการตายเพิ่งทราบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างการขยายผล โดยยังคงเป็นเรื่องกู้ยืมเงิน และอยู่ระหว่างค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมด้วย ส่วนผลชันสูตรพลิกศพขอระยะเวลาก่อน

เมื่อถามว่าทำไมจึงมองว่าเหยื่อรายนี้เสียชีวิตเพราะแอม โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า เหยื่อรายนี้มีการติดต่อกับแอม มีการค้ำประกันเงินกู้ให้แอม นี่จึงเป็นความเชื่อมโยง อีกทั้งในตอนแรกญาติผู้ตายคิดว่าหัวใจวาย แต่พอมาดูอีกทีไม่ใช่ ตนจึงขอฝากว่าใครก็ตามที่ในตอนนี้พบว่าลูกหลานตัวเองเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ และยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับนางแอม ขอให้มาติดต่อที่ตนได้เลย

นอกจากนี้ ในวันนี้ได้นัดหมายอดีตสามีที่เป็นรองผู้กำกับการ มาสอบปากคำในเวลา 15.00 น. แต่เจ้าตัวเพิ่งมาถึง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ และเบื้องต้นเจ้าตัวยอมรับว่าแม้หย่ากับนางแอม แต่ยังอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยาปกติ โดยฝ่ายผู้หญิงขอกลับมาอยู่ด้วย ตอนนี้กำลังไล่ตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ ส่วนเรื่องลูกในครรภ์ จากนี้จะไปตรวจดีเอนเอด้วยว่าเป็นลูกใครกันแน่ ซึ่งคำให้การเบื้องต้นค่อนข้างเป็นประโยชน์

ส่วนอีกรายที่เจ้าหน้าที่ติดตามตัวมาสอบปากคำ คือ คนสนิทของนายแด้ (นายกอล์ฟ) ซึ่งพยานคนนี้เป็นพยานปากสำคัญ เพราะให้การยืนยันว่านางแอมฆ่านายแด้จริงๆ ส่วนรายละเอียดคำให้การของนายกอล์ฟ ตนขอสรุปทีหลัง แต่ยืนยันว่านางแอมเป็นคนฆ่านายแด้ โดยเป็นการฆ่าเพราะเรื่องเงินเป็นหลัก ส่วนเรื่องขวดยาที่แอมฝากไว้กับนายกอล์ฟ ขณะนี้ผลตรวจยังไม่ออก แต่แม้ว่าทางนิติเวชยืนยันว่าเป็นไซยาไนด์ เป็นตัวเดียวที่พบในศพ แต่การจะเข้าสำนวนคดี จะต้องรอผลตรวจอีกที ซึ่งถ้าหากเกี่ยวข้องกับใครเพิ่มเติม จะออกหมายจับแน่นอน

ส่วนเรื่องที่เจ้าตัวอ้างว่าเป็นจิตเวชนั้น ตนได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปประสานเอาประวัติการรักษากับทางสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อดูรายละเอียดว่าเป็นโรคจิตเภทในขั้นใด มีการเริ่มรักษาเมื่อไหร่อย่างไรบ้าง นอกจากนี้ จะโทรศัพท์เพื่อพูดคุยกับทางนายอายุตม์ สินธพพันธ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อสอบถามข้อมูลถ้อยคำที่ผู้ต้องหาให้กับทีมสุขภาพจิตด้วย เพื่อนำมาประกอบกัน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า เมื่อวานได้มีการค้นบ้าน เจอหลอดยา และได้ส่งให้ พฐ. เรียบร้อยแล้ว ส่วนภายในหลอดยาจะมีสารไซยาไนด์ปะปนหรือไม่ ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ และในตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเข้าค้นร้านโชห่วย ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนพบว่าใช้เป็นสถานที่สำหรับรับ-ส่งยาไซยาไนด์

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังระบุถึง อาการของบุคคลหลังรับสารไซยาไนด์ ว่า หลังผ่านไปประมาณ 20 นาที อย่างเหยื่อที่จังหวัดราชบุรี หลังจากที่รับยาแคปซูลสมุนไพรไป ก็เกิดอาการมือหนัก มือชา หายใจไม่ออก หัวใจหยุดเต้น คาดว่าได้รับเป็นปริมาณมาก

ส่วนกรณีของ พ.ต.ต.หญิง นิภา หรือ สารวัตรปู ที่มีการพบไซยาไนด์ในเลือดนั้น ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับนางแอมแล้วในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความผิด อย่างไรจะต้องไปอายัดตัวผู้ต้องหาต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุด้วยว่า จากข้อมูลการตรวจสอบล่าสุดบ้านพี่สาวของนางแอมเป็นร้านขายของชำ แม้เดิมบอกว่าเป็นร้านขายยา และพี่สาวของแอมเป็นเภสัชกร ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นร้านขายของชำในพื้นที่อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรีอยู่ และรอผลการตรวจค้น ส่วนประเด็นที่ว่าแอมไปเรียนรู้การใช้ไซยาไนด์ได้อย่างไรนั้น อย่างไรคงต้องรอเจ้าหน้าที่สอบปากคำพี่สาวก่อน แต่คาดว่าวันนี้คงรู้

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังยืนยันว่า ตอนนี้มี นางกานติมา หรือ ปลา อายุ 36 ปี เพียงรายเดียวที่รอดจากการถูกวางยา ส่วนเหยื่อที่จังหวัดกำแพงเพชรและจังหวัดขอนแก่นไม่ใช่เคสของนางแอม

อย่างไรก็ตาม สามีที่เป็นตำรวจไม่รู้ว่านางแอมป่วย และเรื่องทั้งหมดก็ไม่ได้ยืนยันว่ารู้เห็น แต่แม้บอกว่าไม่รู้ เราก็ต้องเอาข้อมูลมารวมเพื่อตรวจสอบอยู่ดี

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวอีกว่า อาชญากรรมย่อมทิ้งร่องรอย ไล่ไปก็เจอ เรื่องนี้ไม่หนักใจ โดยเฉพาะเรื่องของสามีนางแอม ที่เป็นตำรวจตำแหน่งรองผู้กำกับการ เราจะตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ของเขาเพื่อนำมาใช้คัดค้านในสำนวน และนางแอม ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง เป็นเท้าแชร์กู้หนี้ยืมสินไปเรื่อย ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนกำลังดูทั้งหมดว่าใครเกี่ยวข้องอีกบ้าง และกำลังตรวจสอบเรื่องบัญชีธนาคาร จำนวน 2-3 บัญชี เป็นชื่อของนางแอม เพื่อดูเรื่องยอดเงินหมุนเวียน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังระบุด้วยว่า รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ เป็นรถที่สวมทะเบียนมา เพราะแอมไม่มีรถ และถ้าหากมีความผิดในเรื่องนี้จริงก็จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป ทั้งนี้ เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน และทีมคณะพนักงานสอบสวนกำลังเร่งกันทุกวัน ซึ่งการได้ตัวพยานปากสำคัญมาเมื่อเช้า จะเป็นการยืนยันว่าแอมวางแผนลงมือฆ่า สื่อจะเห็นได้ว่าบางศพแม้ไม่ได้ผ่าชันสูตร เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้หนักใจเพราะมันมีความเชื่อมโยงอยู่ หลักฐานต้องนำไปร้อยเรียงเพื่อนำตัวไปลงโทษชั้นศาลได้ และหลังจากการแถลงเสร็จสิ้น เรามีการประชุมกันต่อ เพื่อทราบว่าคดีไหนจะสามารถออกหมายจับเพิ่มเติมได้ หรือจะได้ไปอายัดตัวผู้ต้องหาได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook