สัตวแพทย์ค้ายาเคอ้างเบิกไปทำหมัน หมา-แมว

นายสัตวแพทย์ระดับ 6 สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพิจิตร หัวหมอ เบิกยาเคตามีนอ้างนำไปทำหมันหมา-แมว ป้องกันการแพร่พันธุ์ ก่อนนำไปขายในหมู่นักการเมืองท้องถิ่นและบรรดาไฮโซหัวเมืองเหนือตอนล่างนานนับปี !?!

การแพร่ระบาดของยาเสพติดในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบนยังมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดบรรดานักท่องราตรีกระเป๋าหนาในเมืองพิจิตรนิยมชมชอบเดินทางไปเที่ยวสถานบันเทิงใน จ.พิษณุโลก เนื่องจากเป็นเมืองใหญ่ ผู้คนหลากหลาย และสถานบันเทิงครบครัน พร้อมกันนี้ก็หาซื้อยาเสพติดประเภทยาอี ยาไอซ์ และยาเค มาเสพหาความสำราญกันอย่างโจ๋งครึ่ม

พล.ต.ต.ธรรมนูญ เพชรบุรีกุล ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.พฤกษ์ เลี้ยงสุข รอง ผกก.สส.ภ.จว.พิษณุโลก ออกสืบสวนหาข่าวเอเย่นต์ยาเสพติดรายนี้ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในบรรดานักการเมืองท้องถิ่นและไฮโซลูกทุ่ง จึงออกหาข่าวกระทั่งได้ข้อมูลจากสายลับว่า ยาเสพติดเหล่านี้มาจากนายสัตวแพทย์คนหนึ่ง ไม่ทราบชื่อและนามสกุลที่แน่ชัด ทำงานอยู่ที่ จ.พิจิตร นำยาเคตามีน หรือยาเค มาจำหน่ายจ่ายแจกให้แก่นักการเมืองท้องถิ่นมานานกว่า 1 ปีแล้ว

หลังได้เบาะแส พ.ต.ท.พฤกษ์ จึงเรียกประชุมชุดสืบสวน ได้แก่ พ.ต.ท.อนันต์สิทธิ์ เกตุสิงห์สร้อย พ.ต.ต.บดินทร์ พิษณุรักษา ร.ต.อ.พิทักษ์พันธ์ สุวรรณน้อย ร.ต.อ.ชฏิล กาญจนจำรูญศรี ร.ต.อ.ธเนศร์ เนียมนรงค์ ร.ต.อ.กฤษนัย ไชยโย และ ร.ต.ท.เจนรบ เนติรัตน์ไพบูลย์ ดำเนินการสืบสวนจับผู้จำหน่ายและผู้เสพยาเสพติด

ต่อมาชุดสืบสวนได้พบกับสายซึ่งเป็นวัยรุ่นหญิงคนหนึ่งติดต่อเข้ามาว่า สามารถติดต่อขอซื้อยาเคจากนายสัตวแพทย์คนที่ว่าได้ แผนปฏิบัติการล่อซื้อจึงเริ่มต้นขึ้น เมื่อสายลับแจ้งเข้ามาว่า ได้ติดต่อขอซื้อยาเคชนิดน้ำได้ 7 ขวด ในราคาขวดละ 1,300 บาท โดยนัดส่งของกันหน้าร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ริมถนนสิงหราชเดโชชัย หมู่ 10 ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ชุดสืบสวนจึงนำธนบัตร 9,100 บาท ลงบันทึกประจำวันก่อนแล้วจึงมอบให้สายลับเดินทางไปตามที่นัดพบ โดยมีชุดสืบสวนคอยซุ่มโป่งรอจู่โจม เมื่อการติดต่อซื้อขายเป็นผลสำเร็จ

เมื่อถึงเวลานัดหมายสายลับเดินไปรออยู่ริมถนน มีรถเก๋งฮอนด้า สีบรอนซ์ ทะเบียน กค 4378 พิจิตร มาจอดรอ พร้อมกับส่งยาเสพติดให้แก่สายลับ จังหวะนั้นคนขับรถเก๋งเกิดความระแวง พยายามเคลื่อนรถหลบหนี แต่ชุดสืบสวนเข้าชาร์จจับกุมไว้ได้ทัน

จากการตรวจค้นผู้ขับขี่คนดังกล่าวชื่อ นายอภิชาต กิจพัตตาภรณ์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/39 ถนนศรีมาลา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิจิตร นายสัตวแพทย์ ระดับ 6 สำนักงานปศุสัตว์ อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร ภายในรถยนต์พบธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้อ อาวุธปืนพกสั้น รีวอลเวอร์ ขนาด .38 หมายเลขประจำปืน 863371 หมายเลขทะเบียน กท. 401004 มีกระสุนบรรจุอยู่ในรังเพลิง 6 นัด และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จึงควบคุมตัวมาสอบสวน

นายอภิชาตให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยบอกกับชุดสืบสวนว่า ยาเคตามีนที่นำมาจำหน่ายนั้น เบิกมาจากหัวหน้าปศุสัตว์จังหวัด โดยให้เหตุผลว่าจะนำไปใช้ในการปฏิบัติงานวางยาสลบทำหมันให้สุนัขและแมวตอนออกหน่วยเคลื่อนที่ หลังจากนั้นจึงนำไปขายให้นักการเมืองและข้าราชการในพื้นที่ ที่ชอบเสพยาเสพติด หรือในหมู่วัยรุ่น บางครั้งคนเหล่านี้ก็นำไปขายต่ออีกทอด หรือนำไปแจกจ่าย เพื่อใช้มอมยาวัยรุ่นหญิงไปหลับนอน

พ.ต.ท.พฤกษ์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ขณะนี้ชุดสืบสวนพอมีรายชื่อนักการเมืองท้องถิ่น และข้าราชการบางคนที่เสพยาเสพติดแล้ว ส่วนกรณีนายสัตวแพทย์อภิชาต ชุดสืบสวนได้ข้อมูลจากสายลับว่า มีพฤติการณ์ซื้อขายและครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายมาค่อนข้างนานแล้ว โดยใช้สิทธิความเป็นสัตวแพทย์ยื่นเอกสารขอเบิกยาเคตามีนได้ตามระเบียบข้อบังคับ ขณะนี้กำลังทำหนังสือและหาข้อมูลในทางลับว่า สัตวแพทย์คนนี้เบิกรับยาเคตามีนไปทั้งหมดกี่ขวดและกี่ครั้ง เพื่อนำมาประกอบการสืบสวนสอบสวน

"ตอนนี้อยู่ระหว่างหาข้อมูลการเบิกรับยาเคตามีน ปกติแล้วยาดังกล่าวใช้กับสัตว์ เพื่อการรักษาหรือวางยาสลบ แต่สัตวแพทย์คนนี้กลับใช้ตำแหน่งหน้าที่ความรู้ความสามารถไปในทางที่ผิด แม้จะอ้างว่าไม่เคยเสพยาก็ตาม สำหรับยาเคเท่าที่สอบถามจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทราบว่า ใครที่เสพยาดังกล่าวมากๆ และเสพเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการวิกลจริตได้ เพราะตามปกติแล้วยาเคจะเป็นชนิดน้ำ แต่ผู้เสพจะนำไปดัดแปลงด้วยการนำไปต้มให้แห้ง หรือนำไปอบในเตาไมโครเวฟ ทำให้แห้งเป็นเกล็ดหรือเป็นผง เพื่อเสพเข้าสู่ทางร่างกายทางจมูก หรือบางครั้งนำไปก่ออาชญากรรมในรูปแบบของการมอมยา หรือโปะยาสลบ" พ.ต.ท.พฤกษ์ กล่าว