เปิดพฤติกรรมชั่ว มือฆ่าเซลล์อ้อม เมื่อ 7 วันก่อนลวงสาวอนาจาร อยู่ระหว่างประกันตัว
เปิดพฤติกรรมชั่ว มือฆ่าเซลล์อ้อม อยู่ระหว่างประกันตัวคดีลวงสาวอนาจารบนสันเขื่อน ก่อนมาก่อเหตุซ้ำเหี้ยมกว่าเดิม
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรภาค 5 เข้าตรวจที่เกิดเหตุ และเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ในห้องเช่ารายวันแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บ้านร้องอ้อ ตำบลสันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จุดที่ นายณัฐพล อายุ 41 ปี ฆาตรกรโหด ได้นำร่างของ น้องอ้อม เซลล์ขายรถ ที่ถูกล่อลวงมาข่มขืน และฆ่าโหดด้วยการรัดคอ และทุบด้วยค้อนเหล็กเข้าที่ท้ายทอยและศีรษะ
ซึ่งตรงจุดที่นำศพมาอำพรางไว้แห่งนี้ ผู้ต้องหาได้มาเปิดห้องพักขอเช่า 2 วัน สภาพเตียงในห้องเหมือนไม่ได้ใช้ ผ้าปูที่นอนและผ้าห่มไม่มีร่องรอยการใช้งาน แต่ในห้องน้ำพบศพของเหยื่อ ถูกทิ้งไว้กับพื้น นอกจากนี้แล้วยังพบรองเท้าผู้ตายวางอยู่ที่พื้นปลายเตียง ห้องไม่มีร่องรอยของการต่อสู้ เชื่อว่าจุดนี้จะเป็นจุดที่นำศพมาทิ้งอำพรางหรือซ่อนไว้ก่อน โดยเชื่อว่าผู้ตายน่าจะเสียชีวิตมาจากจุดอื่น ซึ่งคนร้ายให้การว่าเป็นอีกโรงแรมหนึ่งใกล้กับสี่แยกลิขิตชีวัน ในพื้นที่ อ.สันทราย ไม่ไกลจากจุดที่นำศพมาซ่อนไว้
จากการเปิดเผยของ พ.ต.อ.ฐานันดร วิทยาวุฑฒิกุล หัวหน้าพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเชียงใหม่ มองว่าเป็นการก่อเหตุอย่างเหี้ยมโหดทารุณมาก คล้ายกับคดีของฆาตรกรต่อเนื่อง "สมคิด พุ่มพวง"
ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ก็ยังมีคดีเก่าติดตัว ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2566 ที่ผ่านมาก็ยังเป็นผู้ต้องหาคดีกระทำอาจาร ในพื้นที่ สภ.ดอยสะเก็ด ซึ่งมีพฤติกรรมหลอกเหยื่อขึ้นรถและพาไปที่สันเขื่อนแม่กวงฯ บังคับให้เหยื่อกระทำการอนาจารสำเร็จความใคร่ คดีนี้อยู่ในช่วงของการประกันตัวสู้คดีอยู่ ขณะเดียวกันในช่วงของการสอบปากคำผู้ต้องหารับสารภาพวาตนเองเคยก่อคดีทางเพศแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 10 ปีก่อน ท้องที่กรุงเทพฯ ทางตำรวจจึงเร่งสืบสวนว่าเป็นจริงตามที่อ้างหรือไม่ ทั้งนี้ลักษณะการก่อเหตุกับเหยื่อยังคล้ายคลึงกับคดีสะเทือนขวัญ ของฆาตกรต่อเนื่อง "สมคิด พุ่มพวง"
ทางเจ้าหน้าที่เตรียมรวมรวมพยานหลักฐาน โดนเฉพาะหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และดีเอ็นเอ ของผู้ต้องหา ว่าจะมีความเชื่อมโยงกับคดีลักษณะเดียวกันในท้องที่อื่นหรือไม่ หลังจากนั้นทางแพทย์นิติเวช รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ได้มาชันสูตรศพเบื้องต้น ก่อนที่จะมีการนำร่างไปชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้งที่แผนกนิติเวช เพื่อรวมรวมหลักฐานให้กับทางเจ้าหน้าที่
โดยสามีของน้องอ้อมได้เข้าไปร่ำลาศพที่อยู่บนรถกู้ภัย เปิดเผยกับทางสื่อว่า พฤติกรรมของฆาตรกรรายนี้ช่วงเหี้ยมโหดไม่เหมือนมนุษย์ รับไม่ได้กับการสูญเสียครั้งนี้ ส่วนตัวเองกับภรรยาทำงานอยู่ที่เดียวกันตลอด ใช้ชีวิตคู่กันแทบจะไม่ได้ห่างไปไหนเพราะทำงานที่เดียวกันเลิกงานก็กลับบ้านด้วยกัน ภรรยาของตนเองเป็นคนอัธยาศัยดีคุยสนุก
วันเกิดเหตุภรรยาตนเองน่าจะถูกหลอกให้ออกไปหา ตอนที่วิ่งไปหาผู้ต้องหาที่ร้านกาแฟด้วยความที่ไว้ใจคิดว่าเป็นลูกค้าตามปกติก็เลยวิ่งนำเอกสารไปให้เพื่อบริการลูกค้า โดยมีเพียงโทรศัพท์มือถือ และโบรชัวร์ราคารถไปเท่านั้น ทรัพย์สินอื่นไม่ได้เอาไปด้วย ไม่คิดว่าจะเป็นการจากไปโดยไม่มีวันกลับ ตอนนี้ทางครอบครัวเองยังทำอะไรกันไม่ถูกยังเสียใจ และตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่