หน้าร้อนนี้ อย่าหาทำ! 10 สิ่งของที่ไม่ควรเก็บไว้ในรถเด็ดขาด!

หน้าร้อนนี้ อย่าหาทำ! 10 สิ่งของที่ไม่ควรเก็บไว้ในรถเด็ดขาด!

หน้าร้อนนี้ อย่าหาทำ! 10 สิ่งของที่ไม่ควรเก็บไว้ในรถเด็ดขาด!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นอกจากรถยนต์จะเป็นยานพาหนะที่พาเราไปไหนมาไหนได้ทุกที่แล้ว รถยนต์ยังเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน หลาย ๆ คนจึงมักจะเตรียมพร้อมทุกอย่างไปไว้ในรถ เช่น อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ น้ำดื่ม อาหาร หรือแม้แต่สิ่งของที่ต้องนำไปใช้ทำงานด้วยบ่อย ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย แต่ก็มีสิ่งของหลายอย่างเช่นกันที่ไม่ควรเก็บไว้นาน ๆ ในรถยนต์ส่วนตัวเพราะอาจส่งผลเสียต่อตัวรถ และทรัพย์สินได้ ซึ่งในหน้าร้อนแบบนี้ยิ่งต้องระมัดระวังให้มากขึ้น วันนี้ DirectAsia จะมาพาคุณไปเช็กลิสต์ว่าในรถของคุณมี ‘สิ่งของที่ห้ามเก็บไว้ในรถ’ หรือไม่ แล้วของที่ห้ามนำไว้ในรถช่วงหน้าร้อนนี้มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย


 

  1. น้ำหอมและเครื่องหอมระเหย มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ ไม่ควรเก็บทิ้งไว้ในรถกลางแดดเป็นเวลานาน เพราะเมื่อได้รับความร้อนสูงอาจทำให้เกิดการละลายสร้างความเสียหายให้กับแผงคอนโซลได้ ส่วนการระเหยของน้ำหอมจะทำให้ระบบปรับอากาศเสียหายได้เช่นกัน
  2. น้ำอัดลมกระป๋อง ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ น้ำอัดลม หรือน้ำผลไม้ต่าง ๆ ที่บรรจุอยู่ในกระป๋อง เมื่อทิ้งไว้ในรถและอยู่ในอุณหภูมิที่สูงเป็นเวลานาน ๆ แรงดันในกระป๋องก็จะเพิ่มขึ้นไม่หยุด จนทำให้ซีนกระป๋องเสื่อมสภาพและหลุดออกในที่สุด กระป๋องอาจระเบิดทำให้น้ำที่บรรจุภายในกระจายออกมาเลอะภายในรถทั้งคันได้
  3. บัตรเครดิต บัตรพนักงาน หรือคีย์การ์ด หลายคนชอบวางไว้ในรถและคิดว่าเคยมีประสบการณ์บัตรใช้ไม่ได้ หรือต้องไปทำบัตรใหม่ด้วยสาเหตุจากการที่บัตรละลาย หรือบิดเบี้ยวไม่ได้รูปทรง เพราะแดดในบ้านเรารุนแรงกว่าที่คิด หากเป็นไปได้ควรนำบัตรต่าง ๆ ออกจากรถหรือวางในที่เก็บของให้ห่างจากที่แสงแดดส่องถึง
  4. Power Bank ไอเท็มสำคัญสำหรับคนที่ใช้สมาร์ทโฟนที่ไม่ควรทิ้งเอาไว้ในรถยนต์ เพราะลิเธียมในตัวแบตเตอรี่ เมื่อถูกความร้อนสูงจะทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีจนเกิดระเบิดได้
  5. ยางลบ ถ้าบ้านไหนที่มีเด็กๆ คงจะไม่ใช่เรื่องที่แปลกที่จะมียางลบตกอยู่ในรถบ้าง ซึ่งเจ้ายางลบมีสารเคมีในกลุ่มพลาสติไซเซอร์ (plasticizers) ที่ไวต่อการละลายและเสื่อมสภาพด้วยแสงแดด ตกอยู่ในรถนาน ๆ อาจทำให้ละลายจนเกาะติดอุปกรณ์ภายในรถทำให้รถยนต์เสียหายได้
  6. ไฟแช็กหรือไม้ขีดไฟ เป็นสิ่งที่ห้ามทิ้งไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูงเกิน 50 องศาเซลเซียส เวลาที่คุณจอดรถตากแดด อาจมีโอกาสที่อุณหภูมิภายในรถจะสูงขึ้นจึงเสี่ยงต่อการระเบิดได้ง่าย
  7. น้ำแข็งแห้ง เรียกได้ว่าเป็นสิ่งไกลตัวก็จริง แต่หากมีความจำเป็นต้องพกติดรถก็ควรเก็บแยกไว้จากห้องโดยสาร เช่น ท้ายรถ เพราะถ้าน้ำแข็งแห้งมีการระเหิดภายในห้องโดยสารจะก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่อาจทำให้คนที่อยู่ในรถหมดสติจนเกิดอันตรายได้
  8. ขวดน้ำดื่ม เมื่อโดนแสงแดดส่องและบวกกับอากาศที่ร้อนจัด จะทำให้ขวดน้ำดื่มกักเก็บความร้อนและทำหน้าที่เหมือนเลนส์รวมแสงกลายเป็นพลังงานความร้อน ซึ่งอาจทำให้ชิ้นส่วนภายในรถที่โดนขวดน้ำเกิดไฟลุกไหม้ได้
  9. สเปรย์แอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบขวดสเปรย์หัวฉีดหรือแบบกระป๋องเขย่า ต่างก็เป็นสิ่งที่อันตรายมากหากลืมเก็บไว้ในรถความร้อนจะทำให้กระป๋องเกิดแรงดันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลทำให้ระเบิดจนเกิดประกายไฟได้
  10. ของประดับจากยางหรือแผ่นยางกันลื่น เนื่องจากเป็นซิลิโคนจึงไม่ถูกกับความร้อน แม้จะช่วยในการยืดติดสิ่งของหรือทำให้รถมีความน่ารัก แต่ก็ไม่ควรนำมาไว้ในรถ เพราะเมื่ออุณหภูมิในห้องโดยสารสูงขึ้น ซิลิโดนอาจะหลอมละลายจนทำให้บริเวณหน้าคอนโซลได้รับความเสียหาย และอาจส่งกลิ่นซิลิโคนอันไม่พึงประสงค์ออกมาด้วย

แล้วอะไรบ้างที่ควรมีติดรถไว้สำหรับหน้าร้อนนี้?

  • แว่นตากันแดด ควรสวมแว่นตาขณะขับรถทุกครั้งเพื่อถนอมสายตา และลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา 



  • ทิชชู่เปียก ระหว่างขับรถอาจรู้สึกร้อน เพราะแอร์รถอาจจะเย็นสู้แสงแดดได้ไม่ทันใจ ลองหยิบทิชชู่เปียกขึ้นมาซับหน้าซับคอจะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นขึ้นได้ 



  • พัดลมพกพา ด้วยสภาพอากาศที่ร้อน อากาศในรถมีความอบอ้าวและแอร์ในรถอาจจะเย็นไม่ทันใจ คุณสามารถใช้พัดลมพกพาเป่าไล่ความร้อนพร้อมเปิดกระจก หรือช่วยเพิ่มความเย็นขณะที่รอแอร์กำลังเย็นขึ้นก็ได้ 

  • แก้วน้ำเก็บความเย็น ไหน ๆ จะเดินทางไกลแล้ว เตรียมความพร้อมด้วยน้ำเย็น ๆ ในแก้วที่เก็บความเย็นไว้ดื่มเพื่อช่วยเพิ่มความสดชื่นได้ระหว่างเดินทาง และยังช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการหาน้ำดื่มหรือต้องแวะจอดเพื่อหาซื้อนั้นเอง 

และหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นจากสภาพอากาศร้อน ๆ แบบนี้ อย่างน้อยการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ DirectAsia ไว้ยังไงก็สบายใจหายห่วง เพราะนอกจากจะได้ความคุ้มครองอุบัติเหตุจากประกันภัยแล้ว ยังมีอู่คุณภาพในเครือที่คอยให้บริการ และมีเจ้าหน้าที่ที่คอยรับคำปรึกษาเมื่อเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย ถือว่าเป็นการวางแผนที่รอบคอบ และเตรียมพร้อมแก้ปัญหาไว้ล่วงหน้า มาลดความเสี่ยงไปด้วยกันกับประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองการเกิดอุบัติเหตุ ด้วย ประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 1 เซฟ และประกันรถยนต์ชั้น 2+ DirectAsia ดูแลคุณตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมการันตีถึงที่เกิดเหตุภายใน 30 นาที ฟรี! บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. และให้คุณซ่อมจนกว่าจะพอใจ

สอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์ โทร 02-767-7777 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมเช็กเบี้ยประกันรถยนต์ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันชั้น 1 เซฟ, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+, ประกันชั้น 2, และ ประกันชั้น 3 คลิก https://www.directasia.co.th

[Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook